ระบบ PC
เรตเกม T เหมาะกับอายุ 13 ปีขึ้นไป
*หมายเหตุ ผู้รีวิวทดลองเล่นด้วยตัวละคร Rogue ถึงเลเวล 25*
"Echo of Soul" (EOS) เปิดให้บริการโดย True Digital Plus เป็นเกมแนว MMORPG ที่ได้รับรางวัลเกมยอดเยี่ยมแห่งปี 2013 พ่วงด้วย No.1 Free to Play และ No.4 MMORPG ในชาร์ต Online Game ของเกาหลีใต้ เมื่อมีรางวัลการันตีขนาดนี้ การมาของเซิร์ฟเวอร์ไทยจึงน่าสนใจไม่ใช่น้อย
"EOS" พัฒนาโดยสตูดิโอ NVIUS ใช้เทคโนโลยี Unreal Engine 3 และได้อดีตทีมงานผู้มีประสบการณ์จากการพัฒนาเกม "Lineage 2" มาร่วมงานด้วย อย่างน้อยก็รับประกันเรื่องคุณภาพกราฟฟิกและเกมเพลย์ได้ในระดับหนึ่ง
อาชีพในเกมมีทั้งหมด 5 อาชีพ (อัพเดตอาชีพที่ 6 ประมาณเดือนพฤศจิกายน) ได้แก่ Warrior (อัศวินชาย), Rogue (นักฆ่าชาย), Guardian (นักรบเวทย์หญิง), Sorceress (จอมเวทย์หญิง) และ Archer (นักธนูหญิง) แต่ละอาชีพจะถูกกำหนดเพศเอาไว้แล้ว ใครที่อยากเล่นเป็นนักฆ่าหญิงหรือจอมเวทย์ชายก็คงต้องผิดหวัง เมื่อเลือกอาชีพได้แล้วถัดมาคือหน้าปรับแต่งตัวละคร ที่เปลี่ยนได้ทั้งทรงผม สีผม ใบหน้า สีผิว แววตา สีตา รอยสัก และขนาดตัว อาจจะไม่ละเอียดเท่าเกม MMORPG ฟอร์มยักษ์บางเกม แต่ก็พอจะทำให้เห็นความต่างของตัวละครในอาชีพเดียวกัน
เมื่อเข้าเกมครั้งแรกจะพบกับฉาก Cut-Scene เล่าเรื่องราวต่างๆด้วยเสียงภาษาไทยโดยนักพากษ์มืออาชีพ และไม่ใช่แค่ Cut-Scene แต่ NPC ทุกตัวรวมถึงบอสบางตัวก็ใส่เสียงพากษ์ไทยด้วย ถึงบางประโยคจะฟังดูแปลกไปบ้าง แต่รู้สึกได้ถึงความตั้งใจของทีมงานที่อยากจะให้ผู้เล่นเข้าถึงเนื้อเรื่องของเกม
ธีมเกมคือ Fantasy แบบสมจริง ซึ่งฉากต่างๆสร้างได้สวยงามสมกับที่เป็นอันเรียล 3 แสงสีได้บรรยากาศแฟนตาซีแบบมืดมน แต่ต้นไม้ใบหญ้ายังเป็นแผ่นแบนๆเหมือนกระดาษ ของประกอบฉากรวมทั้งตัวละครยังมีเหลี่ยมมุม และพื้นต่างระดับบางจุดไม่สามารถเดินขึ้นไปตรงๆได้ ทั้งๆที่เอียงขึ้นมานิดเดียว ส่วนเสียงเพลงประกอบจะเปลี่ยนไปให้เข้ากับฉากแผนที่นั้น บางเพลงฟังแล้วให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่อลังการ บางเพลงฟังแล้วก็ชวนหลับได้ แต่ละแผนที่จะมีเพลงเดียวเล่นวนไปเรื่อยๆ แต่พอถึงช่วงสู้กับบอสหรือตอนใช้ Soul Skill ก็จะเปลี่ยนมาเป็นจังหวะแบบเร้าใจแทน
เกมเพลย์เป็นแบบ MMORPG ดั้งเดิม คือใช้เมาส์คลิกเดินคลิกโจมตีแบบล็อคเป้าหมาย กดใช้สกิลในช่องคีย์ลัดตามที่เราติดตั้งไว้ การเคลื่อนไหวดูแข็งและช้า แต่เอฟเฟกต์และเสียงประกอบก็ทำได้ดี สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือมอนสเตอร์และบอสจะมีการใช้สกิล ซึ่งจะขึ้นเกจสีเหลืองตอนกำลังร่าย เราสามารถใช้สกิลเฉพาะโจมตีเพื่อยกเลิกการร่ายได้ และเราจะมีสกิลเคลื่อนที่แบบรวดเร็ว ใช้หลบการโจมตีแบบไม่ล็อคเป้าของบอส ทุกอาชีพมีเหมือนกันแต่รูปแบบอาจแตกต่างกันไป ทำให้เราต้องคอยสังเกตุท่าโจมตีของศัตรูให้ดี ไม่ใช่ยืนตีแลกปั้มยาเติมพลังอย่างเดียว
เควสต์ในเกมมีให้ทำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่ม มีหลายประเภททั้งเควสต์หลักตามเนื้อเรื่อง เควสต์รอง เควสต์ทำซ้ำ และเควสต์ประจำวัน แต่รูปแบบก็จะซ้ำๆกัน เช่น ฆ่ามอนสเตอร์หรือบอสที่กำหนด, เก็บไอเทมที่กำหนด, คุยกับ NPC ที่กำหนด เป็นต้น ถึงจะไม่มีระบบบอททำเควสต์อัตโนมัติ แต่มีลูกศรบอกทิศทาง มอนสเตอร์หรือไอเทมเควสต์จะมีสัญลักษณ์บอกทั้งบนหัวและในแผนที่ ช่วยให้ไม่หลงทางและเก็บเลเวลได้ถูกจุด สำหรับการเดินทางในแผนที่อันกว้างใหญ่ การเดินเท้าจะใช้เวลานานจึงมีสัตว์พาหนะให้ (ได้ตอนเลเวล 5) เร็วขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่มี ส่วนการเดินทางข้ามแผนที่ก็มี NPC Warp Helper คอยให้บริการ แต่แผนที่นั้นเราจะต้องเคยไปมาแล้วครั้งหนึ่งก่อน
เราสามารถเข้า Dungeon ได้ทั้งจากทางเข้าในฉากแผนที่หรือเข้าผ่านเมนูด้านล่าง แต่ละดันเจี้ยนจะเข้าได้เมื่อมีเลเวลตัวละครและเลเวลไอเทมสวมใส่ตามที่กำหนด บางดันเจี้ยนต้องเข้าเป็น Party หรือต้องใช้ตั๋วจากไอเทมมอล์ด้วย ระดับของดันเจี้ยนมีตั้งแต่เลเวล 10 - 60 (Level Max) และยังมี Infinite Dungeon ที่จะมีความลึกไม่สิ้นสุดสำหรับผู้เล่น Level Max ไว้ทดสอบความสามารถด้วย
การเก็บเลเวลใช้เวลาที่ค่อนข้างเหมาะสม จากการตีมอนสเตอร์บวกกับทำเควสต์ เราจึงไม่ต้องหยุดอยู่แผนที่เดิมนานเกินไปจนรู้สึกเบื่อ เมื่อเลเวลอัพค่าสเตตัสจะเพิ่มขึ้นเอง จึงไม่ต้องกังวลกับการอัพผิดสาย ดังนั้นความแตกต่างของตัวละครจึงอยู่ที่ไอเทมสวมใส่ โดยการอัพเกรดไอเทมจะไม่ใช่การตีบวกโดยตรง แต่จะใช้วิธีรวม Gem สำหรับติดตั้งลงในไอเทมแทน ตัว Gem จะมีหลายชนิดสำหรับติดตั้งในไอเทมส่วนต่างๆ ซึ่งวิธีเพิ่มระดับ Gem คือนำ Gem ชนิดเดียวกันระดับเดียวกัน 2 ชิ้นมาผสมกัน ยิ่งเป็นระดับสูงโอกาสสำเร็จยิ่งน้อย และเมื่อติดตั้ง Gem แล้วสามารถซื้อไอเทมจาก NPC มาถอดออกได้ ข้อดีคือเราสามารถลงทุนกับการอัพเกรดได้เต็มที่ ไม่ต้องรู้สึกเสียดายไอเทมเก่าที่อัพเกรดมาเพราะสามารถย้าย Gem ได้ นอกจากนี้ยังมีไอเทม Rune สำหรับเพิ่มพลังโจมตีหรือป้องกันธาตุ แต่เมื่อติดตั้งแล้วจะถอดออกไม่ได้
สกิลจะมีเพียงขั้นเดียว อัพเกรดไม่ได้ ปลดล็อคให้เลือกเรียนตามเลเวล เมื่อเล่นถึงเลเวล 10 จะต้องเลือกสไตล์การเล่นซึ่งสกิลจะต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ละอาชีพจะมี 2 สไตล์ เบื้องต้นเราจะเลือกได้แค่สไตล์เดียว แต่ในไอเทมมอล์จะมีไอเทมเพิ่มหน้าสไตล์ได้สูงสุด 4 หน้า สามารถเปลี่ยนสไตล์ได้เฉพาะตอนที่ไม่ได้ต่อสู้ ทำให้ตัวละครเดียวแต่เลือกเล่นได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับสกิลที่เลือก
Soul Skills ที่เป็นจุดเด่นของเกมก็คือสกิลเพิ่มพลังชั่วขณะหนึ่ง (Buff) วิธีใช้คือฆ่ามอนสเตอร์ 1 ตัวจะได้ Soul of Chaos 1 อัน ใช้ 2 อันมาชำระล้างเป็น Soul Skill 1 อัน ทำได้ก็ต่อเมื่ออยู่ใกล้กับ Soul Sanctuary หรือชำระล้างร่วมกับผู้เล่นอื่นก็ได้ สกิลที่ได้จะสุ่มออกมาเป็น Hope, Pure, Courage และ Peace ที่เพิ่มค่าสเตตัสแตกต่างกัน เลือกใช้ได้ครั้งละ 1 สกิลเท่านั้น ยิ่งใช้บ่อยระดับของสกิลจะยิ่งเพิ่มขึ้น ช่วยให้เราสู้กับมอนสเตอร์ง่ายขึ้น และยังใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างไอเทมได้
ตัวละครจะเรียน Craft Skill ได้ 3 สาย ซึ่งสองสายที่จะมีเหมือนกันทุกคนคือ Chef กับ Soul Professional และสุดท้ายจะต้องเลือกระหว่าง Jeweler, Alchemist หรือ Resource Collector โดย Chef จะผลิตไอเทมอาหารที่กินแล้วจะทำให้โจมตีแรงขึ้นและ Max HP เพิ่มขึ้น ส่วน Soul Professional จะสามารถสกัดไอเทมสวมใส่ให้กลายเป็น Soul เพื่อใช้ผลิตวัตถุดิบร่วมกับ Craft Skill สายอื่นสร้างไอเทมต่างๆ ยิ่งผลิตไอเทมสายไหนมาก Craft Skill สายนั้นจะมีระดับที่สูงขึ้น ทำให้สร้างไอเทมดีๆได้มาก ถ้าไม่ชอบก็สามารถยกเลิกไปเรียนสายอื่นได้ ผู้เล่นที่ชอบผลิตไอเทมขายก็จะต้องลงทุนสักหน่อย เพราะต้องใช้ทั้งเงินและเวลาในการเพิ่มระดับของ Craft Skill
การซื้อขายระหว่างผู้เล่น มีทั้งการยื่นคำขอแลกเปลี่ยนโดยกดคลิกขวาที่ตัวละครที่ต้องการแลกเปลี่ยน ส่งจดหมายซึ่งส่งได้ทั้งเงินและไอเทม และ NPC ฝากขายไอเทมที่จะต้องเสียค่าธรรมเนียม 2% ของราคาขาย ฝากได้ 24 ชม. เมื่อขายได้ก็ต้องมารับเงินที่ NPC หรือถ้าเวลาหมดก่อนก็ต้องมารับไอเทมคืนที่ NPC เช่นกัน
ด้าน Community มีระบบตามพื้นฐานของเกม MMORPG เช่น Friend, Party และ Guild โดย Party จะมีสมาชิกได้ 5 คน สามารถปรับเปลี่ยนการแบ่งไอเทมและค่าประสบการณ์ได้ และยังสามารถเพิ่มระดับเป็น Raid Party มีสมาชิกได้ถึง 20 คน สำหรับเข้าดันเจี้ยนพิเศษหรือลานประลอง Arena ส่วน Guild เริ่มต้นจะมีสมาชิกได้ 20 คน มีคลังกิลด์และสกิลกิลด์ซึ่งจะใช้ได้เมื่อกิลด์มีเลเวลตามที่กำหนด สามารถเพิ่มเลเวลกิลด์ได้ด้วยการเข้าร่วมสงคราม (ผู้รีวิวยังไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมสงครามจึงไม่ทราบรายละเอียดวิธีเล่น)
PVP นอกจากการท้าดวลระหว่างผู้เล่นแบบ 1 vs 1 ยังมีลานประลอง Arena ที่ผู้เล่นเลเวล 10 ขึ้นไปสามารถเข้าร่วมได้เลย สำหรับผู้เล่นที่เลเวลต่ำไม่ต้องห่วงว่าเจอผู้เล่นเลเวลสูงแล้วจะสู้ไม่ได้ เพราะเกมจะปรับค่าสเตตัสให้ใกล้เคียงกัน แต่ไอเทมสวมใส่จะยังคงผลให้เกิดความแตกต่างอยู่ ซึ่งวิธีเล่นจะแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายละ 15 คน แข่งกันยึดป้อม 5 จุดเพื่อทำคะแนน ฝ่ายที่ทำได้ถึง 10,000 แต้มก่อนจะเป็นชนะ รางวัลคือ Medal สำหรับไอเทมสวมใส่ระดับสูง
อีกหนึ่งจุดเด่นของ "EOS" คือมีแอพพลิเคชั่นทั้งในระบบ iOS และ Android ผู้เล่นที่มีสมาร์ทโฟนสามารถดาวน์โหลดและล็อคอิน เพื่อตรวจสอบข้อมูลตัวละคร จัดการไอเทมในกระเป๋าหรือคลัง ซื้อขายไอเทมในกระดานฝากขายสินค้า รับส่งจดหมาย และพูดคุยกับเพื่อนหรือสมาชิกกิลด์ได้ เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการติดตามความเคลื่อนไหวในเกมแบบต่อเนื่อง
สรุป ถ้าใครกำลังมองหาเกม MMORPG ที่มีเกมเพลย์แบบคลาสสิคดั้งเดิม มีระบบพื้นฐานครบ ภาพสวย ใช้สเปคคอมไม่แรงมาก และไม่บีบให้เราต้องเติมเงิน "EOS" คงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้ แต่ถ้าใครเริ่มเบื่อกับเกมตีมอนสเตอร์เก็บเลเวลแล้ว แนะนำให้ข้ามไปเล่นเกมอื่นดีกว่า
เกมการเล่น | 8 |
กราฟิก | 8.5 |
เสียง | 7.5 |
ภาพรวม | 8 |
ข้อดี : MMORPG แบบดั้งเดิม, อาชีพเดียวแต่เลือกเล่นได้หลายสไตล์, มีแอพพลิเคชั่นดูข้อมูลที่ใช้งานง่ายและสะดวก
ข้อเสีย : อาชีพล็อคเพศ, เกมเพลย์ช้าที่อาจทำให้หลับได้
Minimum System Requirements (ระบบขั้นต่ำที่รองรับ)
OS: Window XP
Processor: Intel Core2Duo (or dual-core) ขึ้นไป
Memory: 1GB
Graphics: Geforce 6600 ขึ้นไป
DirectX: Version 9.0C
Hard Drive: 10GB available space
Recommend System Requirements (สเปคเครื่องคอมพิวเตอร์ที่แนะนำ)
OS: Window XP / Vista / 7 / 8 / 8.1
Processor: Intel Quad-Core / AMD Phenom X4 ขึ้นไป
Memory: 2GB
Graphics: Geforce GTS 250 ขึ้นไป
DirectX: Version 9.0C
Hard Drive: 20GB available space
Review by MeganeSan
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*