ค่ายเกมยักษ์ใหญ่เมืองน้ำหอม ยืนยันยุติระบบออนไลน์พาส ที่บังคับให้ผู้เล่นซื้อแผ่นมือสองจ่ายตังค์เพิ่มอีก 300 บาท เพื่อเข้าถึงคอนเทนต์พิเศษ และสามารถเข้าเล่นเกมในโหมดออนไลน์
หลังจากที่เมื่อปี 2011 ยูบิซอฟต์ ได้เคยออกมาเปิดตัวระบบออนไลน์พาสของตนเป็นครั้งแรกในนาม "ยูเพลย์ พาสปอร์ต" ตามรอยค่ายเกมบิ๊กเนมหลายราย และประเดิมเริ่มใช้กับเกม "Driver: San Francisco" โดยบรรจุมาเป็นโค้ดใช้ได้ครั้งเดียวแถมมาให้ในกล่อง เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงคอนเทนต์โบนัส, ข้อเสนอเอ็กซคลูซีฟ และเข้าเล่นเกมในโหมดมัลติเพลเยอร์ ในขณะที่ผู้ซื้อแผ่นมือสองจำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 9.99 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 300 บาท เพื่อรับสิทธิ์ดังกล่าว
แต่จวบจนถึงปัจจุบันดูเหมือนระบบออนไลน์พาส รังจะคอยสร้างแต่ปัญหาให้กับผู้เล่นมากกว่าที่จะสร้างกำไรให้กับบริษัท จึงทำให้เหล่าบรรดาค่ายเกมต่างประกาศยกเลิกใช้ระบบดังกล่าวไปตามๆกัน อาทิเช่นอีเอ ที่เพิ่งยกเลิกไปหมาดๆเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และล่าสุดก็ถึงคิวของค่ายผู้จัดจำหน่ายเกมฟาร์คราย และแอสซาซินครีด โดยทางตัวแทนยูบิซอฟต์ ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ ระบุทางบริษัทจะยุติการใช้ระบบ "ยูเพลย์ พาสปอร์ต" ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะมีผลครอบคลุมถึงเกมที่ออกมาแล้วและเกมที่กำลังจะออกตามมาในอนาคต
"จุดมุ่งหมายเริ่มแรกของโปรแกรมยูเพลย์พาส คือการมอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าในการเข้าถึงเหล่าฟีเจอร์, รางวัลโบนัส, คอนเทนต์เอ็กคลูซีฟ รวมถึงเข้าเล่นในโหมดออนไลน์ แต่ทว่าเกมในปัจจุบันเส้นแบ่งระหว่างโหมดออฟไลน์กับออนไลน์นั้นมันดูกลมกลืนจนแยกไม่ออก และเนื่องด้วยเหตุผลดังกล่าวผนวกกับเสียงตอบรับจากแฟนๆ เราจึงได้เรียนรู้ว่าโปรแกรมพาสปอร์ตมันไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมอีกต่อไปที่จะช่วยให้เหล่าลูกค้าได้รับประสบการณ์เกมที่ดีที่สุดจากเรา" ตัวแทนยูบิซอฟต์ กล่าว
ในกรณีของเกม "Assassin's Creed IV: Black Flag" ที่เพิ่งออกวางจำหน่ายไปเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ซึ่งยังจำเป็นต้องพึ่งยูเพลย์พาสในการเข้าถึงฟีเจอร์ออนไลน์ "Edward’s Fleet" สำหรับผู้เล่นที่ซื้อแผ่นมือสองหรือยืมแผ่นเพื่อนมาเล่นและไม่มียูเพลย์พาส สามารถดาวน์โหลดยูเพลย์พาสมาได้ฟรีผ่านทางเอ็กบ็อกซ์ไลฟ์หรือเพลย์สเตชันเน็ตเวิร์ค ส่วนผู้เล่นที่จ่ายเงิน 300 บาทซื้อยูเพลย์พาสไปก่อนหน้า สามารถติดต่อขอเรียกเงินคืนได้ผ่านทางฝ่ายบริการลูกค้า Ubisoft Support Team ตามท้องที่ที่ตนอาศัยอยู่
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot
gematsu
ubi blog