ประธานนินเทนโดออกมาเปิดเผยว่าเครื่องวียูรุ่นพรีเมี่ยมขายดีกว่าเครื่องรุ่นเบสิค ซึ่งเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่าเรื่องราคาไม่ใช่ปัญหากับเครื่องวียู แต่ปัญหาที่แท้จริงก็คือซอฟต์แวร์เกมระดับคุณภาพที่ขาดหายไป
"ซาโตรุ อิวาตะ" ประธานนินเทนโด ออกมายืนยันว่าราคาเครื่องวียูไม่ได้เป็นปัจจัยที่ทำให้เครื่องขายไม่ดี แต่การขาดซอฟต์แวร์เกมระดับคุณภาพต่างหากที่ส่งผลกระทบอย่างสำคัญทำให้เครื่องเกมขายไม่ดี
"ถ้าหากว่าราคาเป็นปัญหากับเครื่องวียูจริง ตัวเลขยอดขายเครื่องวียูรุ่นเบสิคกับรุ่นพรีเมี่ยมคงมีอะไรผิดพลาด ถ้าเรื่องราคาเป็นปัญหากับวียู เครื่องรุ่นเบสิคก็น่าจะทำยอดขายได้ดีกว่าเครื่องรุ่นพรีเมี่ยม แต่ความจริงที่เกิดขึ้นคือผู้คนซื้อวียูรุ่นพรีเมี่ยมมากกว่า ดังนั้นเรื่องราคาไม่ใช่ปัญหาของวียู"
ตั้งแต่เปิดวางจำหน่ายในช่วงปลายปีที่แล้ว เครื่องวียูของนินเทนโดทำยอดขายจนถึงปัจจุบันได้ 3.61 ล้านเครื่อง โดยในช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายนทำยอดขายได้เพียง 160,000 เครื่อง อย่างไรก็ตามนินเทนโดวางแผนที่จะขายวียูให้ได้รวม 9 ล้านเครื่องในช่วงสิ้นเดือนมีนาคมปี 2014
เครื่องวียูรุ่นเบสิค มีขนาดความจุ 8 กิ๊กกะไบต์ จำหน่ายในราคา 300 เหรียญสหรัฐ ด้านรุ่นพรีเมี่ยมดีลักษ์เวอร์ชัน มีขนาดความจุ 32 กิ๊กกะไบต์ ขายในราคา 350 เหรียญสหรัฐ ก่อนหน้านี้ไม่นาน นินเทนโดออกมายืนยันว่าเครื่องวียูทุกเครื่องที่ขายออกไปขายด้วยราคาขาดทุน
อิวาตะ อธิบายเพิ่มเติมระบุว่าปัญหาที่แท้จริงที่ฉุดรั้งวียู คือการขาดซอฟต์แวร์เกม ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาก็คือทำเกมระดับคุณภาพออกมาให้เหล่าเกมเมอร์
จากแผนการณ์ที่จะป้อนเกมดีๆมาลงเครื่องวียู เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมานินเทนโดก็ได้ส่ง Pikmin 3 ออกวางจำหน่าย นอกจากนั้นจะมีอีกหลายเกมที่น่าสนใจจ่อวางจำหน่ายในช่วงปลายปี อาทิ The Legend of Zelda: Wind Waker HD (ตุลาคม), Donkey Kong Country: Tropical Freeze (พฤศจิกายน) และ Super Mario 3D World (ธันวาคม)
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com