xs
xsm
sm
md
lg

Review: GRID 2 ซิ่งระห่ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ระบบ Playstation 3, Xbox360, PC
เรตเกม PEGI: 7 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไป

เกมแข่งรถบนถนนเรียบภาคต่อของค่าย Codemasters ที่ครั้งนี้ทางทีมผู้พัฒนาได้ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี แก้ไขข้อบกพร่องได้ตรงจุด ผสมซิมูเลชั่นความสมจริงเข้ากับการขับดุเดือดสไตล์อาร์เขตจนกลายเป็นเกมที่แฟนขาซิ่งห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

สำหรับเกม GRID ภาคสองนี้ ยังคงเอกลักษณ์การแข่งขันบนท้องถนนที่สืบทอดเจตนารมณ์ต่อจากซีรีส์ TOCA Championship Racing, Pro Race Driver และเกม GRID ต้นฉบับ ที่ครั้งนี้ขอฉีกแนวรูปแบบการแข่งแบบเดิมๆไม่ขอตามใคร ด้วยการปรับเปลี่ยนสไตล์การขับและกฏกติกาการแข่งเพื่อยกระดับความมันส์ถึงใจ ในรายการแข่งขันสมมติน้องใหม่ World Series Racing หรือเรียกสั้นๆว่า WSR

ในเกมภาคสอง ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นนักแข่งโนเนมหน้าใหม่ไร้ประวัติ ที่ต้องไต่เต้าตัวเองขึ้นมาจากข้างถนน โดยการสมัครเข้าร่วมการแข่งขันระดับมือสมัครเล่น คว้าแชมป์สร้างชื่อเสียงมีแฟนคลับติดตามเพื่อเปิดทางไปสู่การแข่งขันรายการใหญ่ระดับมืออาชีพ เมื่อเริ่มเกมเราจะมีเพียงแค่รถยนต์เก่าๆในโรงรถเล็กๆหลังบ้าน กับคอมคู่ใจหนึ่งตัวเอาไว้สมัครเข้าร่วมแข่งขันผ่านเน็ตเท่านั้น แต่หากเล่นไปเรื่อยๆสภาพความเป็นอยู่ของเราจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจากโรงรถโทรมๆกลายมาเป็นโชว์รูมส่วนตัวสุดหรู

การบังคับรถในเกม หากใครได้ลองจับเล่นครั้งแรกจะรู้สึกเหมือนว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากภาคแรกนัก ยังคุมรถยากเข้าโค้งหมุนตลอดเหมือนเดิม แต่นั่นเป็นเพียงเพราะตอนแรกตัวเกมบังคับให้ผู้เล่นใช้แค่รถอเมริกันมัสเซิล ซึ่งความแรงและควบคุมลำบากเป็นธรรมชาติของรถประเภทนี้อยู่แล้ว จนทำให้หลายคนคิดด่วนตัดสินใจเลิกเล่นไปเสียก่อน แต่หากใครอดทนเล่นผ่านช่วงแรกไปได้จะรู้ได้ทันทีถึงความต่าง

จากภาคแรกที่รถทุกคันลื่นเหมือนปลาไหล สามารถหักพวงมาลัยเลี้ยวซ้ายขวาได้ทันทีแม้จะเร่งมาด้วยความเร็วสูง จนถูกขนานนามว่าเป็นเกมดริฟต์ไป แต่พอมาในภาคใหม่ทางทีมผู้พัฒนาได้ปรับปรุงการบังคับรถให้สมจริงและมันส์ยิ่งขึ้น โดยผสมผสานฟิสิกส์ความเป็นซิมูเลชั่น เข้ากับการขับขี่สไตล์อาร์เขตได้อย่างลงตัว ซึ่งการบังคับรถในเกมจะเน้นเรซซิ่งไลน์ผ่อนเข้าโค้งและเร่งออกให้ถูกจังหวะเหมือนจริง แต่หากเกิดเหยียบคันเร่งไวในโค้งจนรถดริฟต์หมุน ตัวเกมก็เปิดโอกาสให้เราสามารถควบคุมดึงรถกลับมาได้ทัน ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของเกมที่ทำให้ทั้งขาเนียนและขาดริฟต์เล่นเกมนี้ได้อย่างสนุก

โดยรายการแข่งขัน WSR จะแบ่งออกเป็น 5 ฤดูกาล แยกจัดไปตามสนามในทวีปอเมริกา ยุโรป และเอเชีย โดยที่การเล่นคว้าแชมป์เอาชนะอีเวนท์การแข่งแต่ละรายการจะเป็นการเพิ่มฐานแฟนคลับ (Fans) และยิ่งมีแฟนติดตามมากเท่าไรก็จะยิ่งปลดล็อครายการแข่งขันใหม่ๆรวมถึงรถระดับสูงๆมาใช้ขับได้มากเท่านั้น โดยการแข่งในเกมจะมีหลากหลายรูปแบบทั้ง Race, Elimination, Drift, Checkpoint, Endurance, Faceoff ไปจนถึงการแข่งรูปแบบใหม่ Overtake ที่ให้เราขับรถหลบหลีกแซงรถกระบะให้ได้มากที่สุด ซึ่งทำออกมาได้สนุกและเป็นการฝึกให้ผู้เล่นเรียนรู้จังหวะการแซงไปในตัว

ซึ่งสิ่งต่างๆที่ถูกแปรเปลี่ยนไปในเกมภาคนี้ คือไม่มีมุมมองภายในห้องคนขับ กับฟีเจอร์ Flashback ที่ลดความสามารถลงทำให้ย้อนเวลาถอยหลังได้อย่างเดียวไม่สามารถกรอกลับไปข้างหน้า และโหมดการแข่งชนแหลก Destruction Derby ที่ทางทีมผู้พัฒนาได้ทำการตัดออกไปโดยให้เหตุผลว่าการแข่งในสนามมันดุเดือดพออยู่แล้ว ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆเพราะ AI ในเกมนี้อย่างโหดไม่ต่างอะไรจากการแข่งกับเกรียน โดยมันจะพยายามเบียดเข้ามาแซะให้รถเราเสียหลักอยู่ตลอด และบ่อยครั้งที่ใช้รถเราเป็นตัวชะลอความเร็วเพื่อไม่ให้มันหลุดโค้ง แถมเวลาเราเอาคืนพุ่งชนแรงแค่ไหน รถของคอมมันจะพลิกกลับมาวิ่งต่อได้อย่างหน้าตาเฉยทุกครั้งไป

ทางฝั่งรถยนต์ในภาคนี้มีให้เลือกขับกว่า 50 คันไล่ตั้งแต่รถคลาสสิค รถฟอร์มูล่าวัน ไปจนถึงรถซูเปอร์คาร์ ซึ่งรถแต่ละคันจะมีลักษณะการขับ ช่วงล่าง ระยะเบรก และการโอนถ่ายน้ำหนักเวลาเข้าโค้งที่เป็นสไตล์เฉพาะตัวเหมือนของจริงไม่ซ้ำแบบกัน แต่ดูเหมือนในภาคนี้จะเน้นหนักไปที่รถยนต์ยี่ห้อฝั่งอเมริกากับยุโรปเป็นหลัก ซึ่งรถฝั่งญี่ปุ่นเท่าที่เห็นในเกมก็มีเพียงค่าย Honda, Mazda, Nissan และ Subaru เท่านั้น ส่วนรถยี่ห้อดังๆอย่าง Toyota, Mitsubishi, Porsche, Lamborghini หรือ Ferrari กลับไม่มีมาให้ขับ แถมรถคันโปรด Nissan GT-R ยังกลายเป็น Preorder DLC ไปเสียอีก

ส่วนเรื่องการปรับแต่งรถยนต์ในภาคใหม่นี้ยังคงเหมือนกับภาคแรกที่จำกัดให้ผู้เล่นเปลี่ยนได้เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกอย่างสีตัวถัง แต่งลาย ติดสปอนเซอร์ และเปลี่ยนล้อแม็กเท่านั้น ไม่สามารถอัพเกรดหรือจูนรอบเครื่องยนต์ได้ ส่งผลให้ตัวเกมดูจืดชืดไปบ้าง ซึ่งรถแต่ละคันในเกมมาไวไปไว แม้จะปลดล็อคได้มาง่ายแต่ไม่สามารถลองขับได้หมดทุกคัน เนื่องจากการจำกัดรถในแต่ละสนาม ทำให้รถบางคันที่เราเสียเวลาแต่งเกือบครึ่งชัวโมงแต่กลับใช้แข่งได้เพียงสนามเดียว

ภาพกราฟฟิกภายในเกมนั้น ถูกทำให้ดีขึ้นกว่าภาคที่แล้วมากหลายเท่าตัว ด้วยเทคโนโลยี Ego Engine เวอร์ชันปรับปรุงใหม่ ที่สามารถประมวลผลฟิสิกส์การชนแบบเรียลไทม์ได้อย่างสมจริงเรียกได้ว่าชนตรงไหนหักตรงนั้น พร้อมเทคนิคพิเศษที่ใส่เข้ามาอย่างเอฟเฟกต์แสงสีฟ้าๆจากไฟนีออนที่ปัจจุบันนิยมใช้กันในวงการฮอลลีวูด เอฟเฟกต์สะเก็ดไฟที่เกิดจากการเสียดสีของตัวถังกับกำแพงหรือช่วงล่างกับพื้นถนน รวมถึงรายละเอียดของสนามทั้งตึกอาคารเศษกระดาษฝุ่นควันในเมือง หรือฉากวิวทิวทัศน์หุบเขามีใบไม้พริ้วไหวตามสายลมที่ดูสวยงาม แต่น่าเสียดายที่เกมนี้ไม่ยืมเอาระบบสภาพอากาศจากเกม F1 มาใช้ เลยมีเพียงแค่การแข่งกลางวันกับกลางคืน แถมตัวเกมเวอร์ชัน PS3 ยังประสบปัญหาอาการเฟรมเรตตก เวลาที่มีรถจำนวนมากอยู่ในหน้าจอเดียวกัน ทางด้านเสียงประกอบ ถือว่าอยู่ในระดับเยี่ยม เสียงเครื่องยนต์ที่ฟังดุหนักแน่น เสียงตบเข้าเกียร์ เสียงคนดูโห่ร้องข้างถนนเวลาดริฟต์หวาดเสียว และเมื่อเวลาการแข่งมาถึงรอบสุดท้ายหรือใกล้เส้นชัยจะมีเสียงเพลงประกอบเร้าใจให้ได้ลุ้นระทึก

หลังจากเคลียร์โหมดแคมเปญจบแล้ว ตัวเกมยังมีโหมดออนไลน์ ซึ่งเปรียบเสมือนอีกโลกหนึ่งของเกมที่ให้ผู้เล่นได้ประลองฝีมือในสนามเก่าๆกับผู้เล่นทั่วโลก เพื่ออัพเลเวลเก็บสะสมตังค์ที่ได้ในแต่ละแมตช์มาเริ่มปลดล็อครถใหม่อีกครั้ง แต่คราวนี้จะมีคอลเลคชันรถให้เลือกขับมากกว่าเดิมหน่อยนึง อีกทั้งยังเพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งอัพเกรดรถในส่วนของเครื่องยนต์, ระบบขับเคลื่อน และการควบคุมรถ (น่าจะยกมาใส่ในโหมดแคมเปญบ้าง) แถมระบบยังจดจำสไตล์การขับของเราว่าเป็นพวกขับเนี๊ยบ หรือพวกชอบชนเพื่อจับคู่หาผู้เล่นที่เหมาะสมและมีสไตล์การขับแบบเดียวกับเรา

ความเปลี่ยนแปลงของ GRID 2 นั้นมีทั้งดีและแย่ สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือเรื่องภาพกราฟฟิกที่ถูกอัพเกรดให้เหนือระดับ พร้อมระบบการขับสไตล์ซิมูเลชั่นปนอาร์เขตที่ทำออกมาได้สนุก แต่ต้องแลกมาด้วยการที่องค์ประกอบหลายอย่างๆที่สร้างชื่อให้กับเกมภาคแรกถูกตัดทิ้งไป

เกมการเล่น8
กราฟิก10
เสียง10
ความคิดสร้างสรรค์8
ภาพรวม9


ข้อดี : ภาพงามหยด, เสียงคมชัด โหมดการแข่งหลากหลาย และการขับสไตล์อาร์เขตที่มันส์ถึงใจ
ข้อเสีย : สนามน้อยไปนิด, การแข่งดริฟต์ไม่สนุกเท่าภาคแรก และปัญหาเฟรมเรตตกในบางช่วง

Shin
สนับสนุนแผ่นเวอร์ชัน PS3 ในการรีวิวโดยบริษัท นิวอีร่า อินเตอร์แอคทีฟ มีเดีย จำกัด New Era Games






















กำลังโหลดความคิดเห็น