อดีตไดเร็กเตอร์ค่าย Epic ผู้ให้กำเนิดแฟรนไชส์เกียร์ออฟวอร์ ออกมาเผยเทรนด์ใหม่ของวงการเกมในอนาคตจะทิ้งเกมแผ่นหันมาเน้นธุรกิจเกมเปิดเล่นฟรี พร้อมเชื่อเกมระดับ AAA กับตลาดเกมมือสองไม่สามารถไปด้วยกันได้
หลังเบื่อจากการทำเกมเกียร์ออฟวอร์บนเครื่องเอ็กบ็อกซ์ จนถึงกับตัดสินใจลาออกจากบริษัทที่ตนอยู่มาร่วมกว่า 20 ปี "คลิฟฟ์ เบลสซินสกี้" อดีตเกมดีไซน์เนอร์ของค่าย Epic Games ปัจจุบันดูเหมือนจะไม่สนใจกลับมาทำเกมลงคอนโซลอีก เนื่องจากข้อความโพสต์ล่าสุดบนทวิตเตอร์ของเขา ที่ออกมาฟันธงว่าตลาดเกมแผ่นบนคอนโซลกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ และกำลังถูกแทนที่ด้วยธุรกิจเกมเปิดเล่นฟรีขายไอเทม
"มันคือคลื่นลูกใหม่ และมันเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทุกวันนี้เราถึงเห็นเกมเปิดเล่นฟรีและเกมขายไอเทมอยู่เต็มไปหมดทุกที่ ซึ่งมันเป็นผลพวงมาจากความจริงที่ว่าโมเดลธุรกิจวางขายแผ่นเกมวันแรกในราคา 60 เหรียญแบบในปัจจุบันนั้นมันกำลังนับถอยหลังเข้าสู่ยุคแห่งการล่มสลาย" เบลสซินสกี้ กล่าว
ซึ่งจากคำพูดดังกล่าว ได้ขัดแย้งสวนทางกับนโยบายการทำธุรกิจเกมของไมโครซอฟต์ที่ยังคงยึดมั่นในธุรกิจเกมแผ่นบนคอนโซลรุ่นใหม่ โดยทาง "ฟิล สเปนเซอร์" เอ็กบ็อกซ์เอ็กเซคิวทีฟ เคยออกมากล่าวว่า "ตลาดเกมแผ่นนั้นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับเครื่องเอ็กบ็อกซ์วัน และตลาดร้านค้าปลีกจะยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับไมโครซอฟต์ที่จะมาช่วยผลักดันธุรกิจเกมของเราให้ก้าวไปข้างหน้า"
นอกจากนี้ทางเบลสซินสกี้ ยังได้ให้ความเห็นถึงประเด็นร้อนของเหล่าคอเกมกับบริษัทพัฒนา ที่ถกเถียงกันเรื่องแผ่นเกมมือสอง โดยเจ้าตัวระบุว่าเกมฟอร์มยักษ์คุณภาพระดับ AAA กับตลาดซื้อขายหรือให้เช่าแผ่นเกมมือสองนั้น มันไม่สามารถดำรงอยู่ไปพร้อมกันได้ เนื่องด้วยงบพัฒนาทุนสร้างที่ลอยตัวสูง
"คุณไม่สามารถทำเกมที่ใช้ทุนสร้างสูงออกมา ในขณะที่มีตลาดเกมมือสองหรือธุรกิจให้เช่าแผ่นเปิดให้บริการอยู่ เพราะเพียงตัวเลขจำนวนคนซื้อหรือจำนวนคนเช่าแผ่นมันไม่ได้จ่ายค่าแรงให้กับคนทำเกม และการที่จะทำสักเกมออกมาให้สมดั่งความคาดหวังของผู้เล่นนั้นมันก็ต้องแลกด้วยทุนสร้างที่ค่อนข้างสูง ยกกรณีเกมแอสซาซินครีดของค่ายยูบิซอฟต์เป็นตัวอย่างที่กว่าจะสร้างได้หนึ่งภาคต้องใช้ทีมงานนับพันคนเลยทีเดียว" เบลสซินสกี้ กล่าวทิ้งท้าย
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot
cliff bleszinski