สีสันอย่างหนึ่งที่คอเกมทั่วโลกจะพบเห็นได้ในช่วงเปิดขายคอนโซลยุคใหม่คือ "ตลาดสีเทา" หิ้วเครื่องนำเข้าไปยังประเทศที่ยังไม่วางขายอย่างเป็นทางการ แต่นโยบายใหม่ของ Xbox One ก็อาจทำให้แนวคิดนี้ไม่สามารถทำได้ง่ายๆอีกแล้ว
ทางไมโครซอฟท์ได้ประกาศจะวางขายเครื่อง Xbox One ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ทั้งหมด 21 ประเทศ โดยมีนโยบายพ่วงมาว่าผู้เล่นต้องลงทะเบียนเกมทุกเกมออนไลน์ก่อนติดตั้ง พร้อมกับการบังคับ "เช็คอิน" ต่ออินเตอร์เน็ตอย่างน้อย 1 ครั้งทุกๆ 24 ชั่วโมงเพื่อให้เกมทำงานต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นแบบเล่นคนเดียวหรือไม่ก็ตาม
นโยบายดังกล่าวได้สร้างความสับสนขึ้นมาในหมู่นักเล่นเกี่ยวกับการล็อกโซน จากเดิมที่ตัวเครื่องและแผ่นเกมต้องมีรหัสโซนประเทศตรงกันจึงจะสามารถเล่นได้ แต่นโยบายใหม่นี้จะมีการต่อเน็ตลงทะเบียนเพิ่มมาอีก นำไปสู่การตรวจจับหมายเลขไอพี (IP) ซึ่งสามารถระบุได้ถึงขั้นว่ามาจากประเทศใด
ผู้เล่นจำนวนมากได้ยิงคำถามนี้ไปยังแอคเคาท์ทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของ Xbox Support และได้คำตอบมาในทำนองว่า "ประเทศที่ไม่อยู่ในรายชื่ออาจไม่ได้รับประสบการณ์เต็มที่และอาจใช้งานไม่ได้" และบางอันก็บอกว่า "กรุณารอจนกว่าประเทศของคุณจะได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการ"
แม้ไม่มีการยืนยันตรงๆว่าจะบล็อกหรือไม่ แต่ทางไมโครซอฟท์ก็อธิบายว่าเกม Xbox One จะลงทะเบียนเปิดใช้และส่งจำหน่ายได้เฉพาะในประเทศที่ระบุไว้เท่านั้น โดยจะมีการตรวจจับประเทศด้วยหมายเลขไอพี พร้อมแนะนำผู้ที่เดินทางบ่อยๆว่าให้พกพาเครื่อง Xbox360 ไปแทนแล้วค่อยเล่น Xbox One เมื่อกลับมาถึงบ้าน
รายชื่อ 21 ประเทศที่จะได้รับการสนับสนุนจาก Xbox One ตอนเปิดขายประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา , ฝรั่งเศส , เนเธอร์แลนด์ , แคนาดา , เยอรมนี , สวิสเซอร์แลนด์ , เม็กซิโก , สเปน ,รัสเซีย , บราซิล , อิตาลี , สวีเดน , ออสเตรเลีย , ไอร์แลนด์ , นอร์เวย์ , นิวซีแลนด์ , เบลเยียม , ฟินแลนด์ , สหราชอาณาจักร , ออสเตรีย และเดนมาร์ก
ไมโครซอฟท์ระบุว่าพวกเขาจะเปิดตลาดเอเชียและประเทศอื่นๆทีหลังภายในปี 2014 ซึ่งก็กลายเป็นประเด็นตามมาว่าเกมฟอร์มใหญ่อย่าง "The Witcher 3" ถูกผลิตโดยค่าย "CD Projekt Red" จากโปแลนด์ แต่อาจจะไม่สามารถเล่นได้ในประเทศตนเองซะอย่างนั้น
ข้อมูลจาก
Eurogamer
NeoGAF