โซนี่เปิดเผยผลประกอบการในปีงบประมาณล่าสุดที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม พบว่าโซนี่ทั้งองค์กรสามารถทำกำไรได้เป็นปีแรกในรอบ 5 ปีหลังสุด แต่แผนกเกมของโซนี่ไม่ได้เป็นปัจจัยสนับสนุนแต่อย่างใด
แผนกเกมของโซนี่มีรายได้ลดลง 12.2 เปอร์เซนต์ อยู่ที่ 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับสาเหตุที่รายได้ลดลงนั้นมาจากยอดขายฮาร์ดแวร์เครื่องเกม และซอฟต์แวร์เกมที่ลดลง
รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายในแผนกเกมโซนี่ ลดลง 27.6 พันล้านเยน เหลือ 1.7 พันล้านเยน(17.2 ล้านเหรียญสหรัฐ) สำหรับตัวเลขที่ลดลงมากขนาดนี้มาจากยอดขายฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เกมที่ซบเซา รวมถึงผลกระทบจากการตัดสินใจลดราคาเครื่องเกมพกพา PS Vita ในญี่ปุ่นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ช่วงปีงบประมาณที่ผ่านมา เครื่องเพลย์สเตชัน 3 และเพลย์สเตชัน 2 ทำยอดขายรวมกันได้ 16.5 ล้านเครื่อง ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มียอดขายเครื่องคอนโซลรวมกัน 18 ล้านเครื่อง ด้านซอฟต์แวร์เกมบน PS3 และ PS2 ทำยอดขายรวมกันได้ 153.9 ล้านชุดลงลงกว่าปีที่แล้วที่มียอดขายรวม 164.5 ล้านชุด
ด้านเครื่องเกมพกพา PSP และ PS Vita มียอดขายรวมกันในปีงบประมาณล่าสุด 7 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนที่มียอดขายรวม 6.8 ล้านเครื่อง ซอฟต์แวร์เกมบนเครื่องพกพาทำยอดรวมล่าสุดได้ 28.8 ล้านชุด ลดลงจากปีที่แล้วที่มียอดรวม 32.2 ล้านชุด
เมื่อมองไปข้างหน้า โซนี่คาดการณ์ว่าในปีงบประมาณถัดไป เครื่องเพลย์สเตชัน 3 จะขายได้อีก 10 ล้านเครื่อง ด้านยอดคาดการณ์เครื่องเพลย์สเตชัน 2 หรือเพลย์สเตชัน 4 ไม่มีการเปิดเผยออกมา ส่วนเครื่องเกมพกพา PSP และ PS Vita ทางโซนี่คาดว่าจะทำยอดขายได้อีก 5 ล้านเครื่องในปีงบประมาณถัดไป
ในปีงบประมาณล่าสุดโซนี่ทั้งองค์กรสามารถทำกำไรได้ 435.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ดีขึ้นกว่าปีที่แล้วที่ขาดทุน 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ด้านรายได้ที่เข้ามาในปีนี้อยู่ที่ 72.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 4.7 เปอร์เซนต์
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com
