ระบบ Xbox360 ,PS3
ESRB M เหมาะสำหรับผู้ที่อายุ 17 ปีขึ้นไป
หลังจากสร้างชื่อ(เสีย) กับ นินจาไกเดน 3 ต้นฉบับบนคอนโซล ที่ละทิ้งความโหดและยังปรับเกมเพลย์ให้เข้าถึงง่ายจนแฟนเกมส่ายหน้าหนี และโดนสับแหลกจากนักวิจารณ์ทั่วโลกงานนี้ทีมนินจาก็เข็นเกมเดียวกันออกมาลงเครื่องวียูในชื่อ "Razor’s Edge"
และหลังจากออกบนวียู ไม่รู้เพราะยอดขายไม่เข้าเป้าหรือเสียงเรียกร้องจากแฟนๆที่อยากสัมผัสบ้างหรือเปล่า ทีมนินจาจึงจับเอา Razor’s Edge กลับมาสู่ PS3 และ Xbox360 อีกครั้ง แน่นอนว่าเป็นการยกเวอร์ชั่น วียู มาทั้งเกมซึ่งมันได้ปรับภาพให้ดูดีขึ้นเล็กน้อย (ทำไมไม่ทำตั้งแต่แรก) แต่โดยรวมกราฟิกและการออกแบบยังคงตกยุคเหมือนเดิมส่วนที่หยาบก็ยังคงหยาบไม่ได้ปรับใหม่ เช่นเดียวกับเพลงและเสียงประกอบที่ผ่านแล้วผ่านเลยไม่มีอะไรน่าจดจำ
ดีที่เกมเพลย์ที่เป็นเอกลักษณ์ฟันแหลกเลือดสาดถูกเพิ่มดีกรีด้วยการ “ฟันแล้วขาด” เป็นชิ้นๆเหมือนภาคก่อนแล้ว เกมมีความยากโหดหินเช่นเดิมเรียกได้ว่าหากคุณละสายตาจากจอทีวีไปแค่เสี้ยววินาทีหันกลับมาอีกทีเราอาจกลายเป็นศพได้ง่ายๆ แต่ภาคนี้ก็ไม่ใจร้ายใส่ระดับ ฮีโร่ ก็คือโหมดง่ายที่ง่ายขนาดมีระบบการตั้งการ์ดอัตโนมัติเรียกว่ามือใหม่ก็จบได้ไม่ยาก เกมเพลย์ก็ยังคงเรียบง่ายมีแค่โจมตีเบา,หนัก ใช้อาวุธบินอย่างดาวกระจายและธนู แต่ที่แจ่มกว่าคือมีอาวุธเสริมเพิ่มเติมนอกจากดาบมังกร เช่นกรงเล็บและมีท่าไม้ตายใหม่ที่เราสามารถเลือดอัพเกรดด้วยค่า Karma ได้ละเอียดขึ้นทำให้เกมดูดีกว่าภาคเดิมมากมาย
นอกจากนี้เกมยังใส่ของแถมที่เคยต้องเสียเงินโหลดหรือต้องปลดล็อกอย่างชุดใหม่ของตัวละครหลัก ส่วนคัทซีนก็มีการตัดต่อใหม่ โหมด Bloody Rage ก็เปลี่ยนเป็นฉากที่ริวจะถูกดูดไปในอีกมิติและต้องไล่ฆ่าศัตรูให้หมด แต่อะไรก็ไม่เด็ดเท่าตัวละครนินจาสาว “อายาเนะ” ที่มาเป็นหนึ่งในตัวละครหลักมีด่านให้เล่นต่างหาก และยังมีสาวๆมาให้เลือกเล่นอีกหลายตัวเช่น คาซูมิ รวมทั้งที่จะให้โหลดอีกในอนาคตอย่าง โมมิจิ โดยนอกจากความสวยแล้วแต่ละนางยังมีความเก่งกาจที่แตกต่างกัน แถมยังอัพเกรดได้เหมือนตัวละครหลักด้วยด้วยแม้จะดูไม่ค่อย Sexy เท่าไรนักในภาคนี้
ส่วนโหมดออนไลน์ที่เราไว้ลุยเล่นฟันแหลกกับเพื่อนก็ยังคงอยู่ และมีการแบ่งเป็นมิชชั่นมาให้เล่นอีก ถือว่ารวมๆแล้วแม้จะเป็นการนำมาขายใหม่แต่สิ่งที่ปรับปรุงก็ทำให้เกมสนุกขึ้น ถึงเคยเล่นภาคต้นฉบับมาก่อนแล้วก็คุ้มที่จะเล่นอีกครั้งถ้าคุณไม่คิดมากอะไร แต่อย่าหวังว่าเกมจะคืนชีพกลายร่างเป็นเกมใหม่เอี่ยมให้คุณได้เล่นกันเพราะมันแค่อัพเกรดจากของเดิมที่ไม่ค่อยดีนักเป็นพอเล่นได้สนุกเท่านั้น
เพราะข้อเสียหลักๆของเกมยังคงอยู่เช่นการที่เราต้องเข้าเมนูก่อนถึงจะเปลี่ยนอาวุธได้ที่เชยมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานเกมในปัจจุบัน ส่วนเกมเพลย์ที่แม้จะท้าทายในความยากแต่เมื่อเล่นไปสักพักเราจะเริ่มเอียนเพราะแทบไม่มีอะไรแปลกใหม่ ยิ่งเมื่อมาเทียบเกมเพลย์ของ นินจาไกเดนกับเกมที่ออกมาก่อนหน้านี้อย่าง Devil May Cry และ Metal Gear Rising รวมทั้งเกมเทพ God of War: Ascension ซึ่งทั้ง 3 เกมทำให้นินจาไกเดนของเราเหมือนเด็กประถมไปเลย
สรุปทิ้งท้ายถ้าคุณต้องการแค่เกมแอ็คชั่นที่มันสะใจเลือดสาด ความยากที่โหดหิน(ไม่นับโหมดง่าย)แล้ว เกม Ninja Gaiden 3 Razor’s Edge ตอบโจทย์คุณได้ทุกข้อเหมือนกับอาหารเลิศรสที่ไม่ค่อยมีคุณค่าทางอาหารเท่าไร พอเล่นได้เพลินๆถ้าไม่เอาไปเทียบกับเกมอื่นที่ออกมาก่อนหน้านี้ เสียดายถ้าเอาเวอร์ชั่นนี้ออกมาตั้งแต่แรกคงจะได้คะแนนดีกว่านี้
| เกมการเล่น | 7 |
| กราฟิก | 7 |
| เสียง | 7 |
| ภาพรวม | 7 |
ข้อดี : เกมเพลย์ที่ปรับปรุงขึ้น อาวุธใหม่ และตัวละครสาวๆ
ข้อเสีย :ไม่ได้แตกต่างเหมือนเล่นเกมเก่า
Darth.vader (วงศกร ปฐมชัยวัฒน์) ขอบคุณร้าน NADZPROJECT ที่เอื้อเฟื้อแผ่นเกมสำหรับรีวิว
