ยังคงมีข่าวไม่ดีออกมาอย่างต่อเนื่องสำหรับเกมสร้างเมือง "ซิมซิตี้" ภาคล่าสุด โดยครั้งนี้ก็เป็นทีมงานวงในที่ออกมาแฉว่าตัวเกมสามารถแก้ไขให้เล่นออฟไลน์ได้ไม่ยาก ขัดแย้งกับข้อมูลตอนแรกที่อ้างว่าการออนไลน์เป็นสิ่งจำเป็นมาก
หลังการเปิดขายที่มีปัญหาเซิร์ฟเวอร์ล่มอย่างต่อเนื่อง แฟนเกมจำนวนหนึ่งก็ออกมาเรียกร้องให้แก้ไขเกมเป็นแบบเล่นออฟไลน์ได้ ซึ่ง "ลูซี แบรดชอว์" (Lucy Bradshaw) หัวหน้าสตูดิโอแม็กซิสก็ออกมาอธิบายว่าระบบเอนจิน "GlassBox" จำเป็นต้องมีเซิร์ฟเวอร์ออนไลน์ช่วยคำนวณข้อมูล ดังนั้นการปรับเกมให้ออฟไลน์จะต้องใช้ทีมงานแก้ระบบวิศวกรรมเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ทีมผู้พัฒนาวงในคนหนึ่งซึ่งขอสงวนนามก็ออกมาเผยว่าตัวเกมใช้งานเซิร์ฟเวอร์ออนไลน์ในด้านโซเชียลเป็นหลักเท่านั้น การแก้ไขเกมให้เป็นแบบเล่นออฟไลน์คนเดียวจึงไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามอะไรมากดังที่อ้างเลย
ทีมงานคนดังกล่าวระบุว่า "เซิร์ฟเวอร์ไม่ได้คำนวณอะไรในเมืองที่คุณเล่นอยู่ มันเป็นเซิร์ฟเวอร์ประมวลผลเพื่อส่งข้อความหลายๆแบบระหว่างเมืองและผู้เล่นด้วยกัน แล้วมันก็ทำหน้าที่เซฟเกมร่วมกับเมนูการใช้งานของ Origin เท่านั้นแหละ แต่สำหรับตัวเกมเหรอ? ไม่เลย มันไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง ผมไม่รู้ทำไมพวกเขาพูดตรงข้ามกัน เป็นไปได้ว่าแบรดชอว์เข้าใจผิด ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่รู้อะไรแล้ว"
ก่อนหน้านี้ ทางอีเอก็เคยอ้างว่าระบบออนไลน์จะเปิดช่องว่างให้สัญญานติดขัดได้บ้างเพื่อไม่ให้นักเล่นกังวลมากเกินไป ซึ่งล่าสุดเว็บไซต์ Kotaku ก็ทำการทดสอบหลายอย่างกับเกมและพบว่าสามารถเล่นต่อไปได้ร่วม 20 นาทีหลังอินเตอร์เน็ตถูกตัด เช่นเดียวกับ "มาร์คัส เพิร์สสัน" ผู้สร้างเกมไมน์คราฟท์ที่บอกผ่านทวิตเตอร์ว่าเขาสามารถเล่นต่อได้หลังเซิร์ฟเวอร์ล่มเช่นกัน
ปัจจัยหลักอย่างหนึ่งของเกมที่ต้องออนไลน์ตลอดเวลาคือการแลกเปลี่ยนข้อมูลให้เมืองต่างๆในพื้นที่ส่งผลกระทบต่อกัน รวมถึงการตรวจสอบโปรแกรมแฮกและสูตรโกงด้วยวิธีอัพเดตข้อมูลเซฟไปกลับตลอด นำไปสู่การลดลูกเล่นโซเชียลบางอย่างและปิดความเร็วระดับ Cheetah เพื่อลดภาระเซิร์ฟเวอร์ในการอัพเดตล่าสุด
ข้อมูลจาก
Rock Paper Shotgun