เครื่องวี ยู เปิดขายในอเมริกาสัปดาห์แรกทำยอดขายได้ 4 แสนเครื่อง โดยในสัปดาห์เดียวกันเครื่องเก่าอย่าง วี ทำยอดขายได้ 3 แสนเครื่อง ทุกเครื่องของนินเทนโดทำยอดขายรวมทะลุ 1.2 ล้านเครื่อง
เครื่องวี ยู เปิดขายในอเมริกาสัปดาห์แรกทำยอดขายได้ 4 แสนเครื่อง โดยในสัปดาห์เดียวกันเครื่องเก่าอย่าง วี ทำยอดขายได้ 3 แสนเครื่อง ทุกเครื่องของนินเทนโดทำยอดขายรวมทะลุ 1.2 ล้านเครื่อง
"Reggie Fils-Aime" ประธานนินเทนโดอเมริกาเปิดเผยผ่าน CNETระบุว่าเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่ "วี ยู"(Wii U)ที่เปิดขายในอเมริกาเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ทำยอดขายในสัปดาห์แรกได้ 4 แสนเครื่อง และเมื่อรวมยอดขายเครื่องเกมของนินเทนโดทั้งหมด(Wii U, Wii, 3DS,DS)ในสัปดาห์ที่ผ่านมามียอดรวมถึง 1.2 ล้านเครื่อง ด้านสถิติเก่าเครื่อง วี(Wii) ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อปี 2006 ทำยอดขายได้มากกว่า 6 แสนเครื่องในช่วง 8 วันแรกที่เปิดวางตลาด
สัปดาห์ที่ผ่านมาเครื่อง "วี ยู"(Wii U) ทำยอดขายได้ 4 แสนเครื่อง ด้านเครื่องรุ่นพี่อย่าง "วี"(Wii) ทำยอดขายในช่วงเดียวกันได้ 3 แสนเครื่อง ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงเริ่มต้นของสัปดาห์แบล็คฟรายเดย์ ที่ผู้คนจะออกมาจับจ่ายซื้อของ
ในสัปดาห์ที่แล้ว เครื่องเกมพกพา 3DS ทำยอดขายได้ 250,000 เครื่อง และเครื่อง DS ทำยอดขายได้ 275,000 เครื่อง โดย "Reggie Fils-Aime" ระบุว่าเครื่อง DS ทำยอดขายได้มากกว่าเครื่อง 3DS ซึ่งเป็นรุ่นใหม่กว่าเพราะว่าบรรดาร้านค้าปลีกโหมโปรโมชันอย่างหนักเพื่อขายเครื่อง DS
"Reggie Fils-Aime" เปิดเผยเพิ่มเติมว่าความจริงแล้วยอดขายเครื่องวีในสัปดาห์แรกน่าจะมากกว่านี้ หากว่าสามารถส่งเครื่องวี ยู มาเติมในสต๊อคร้านค้าปลีกได้ทัน "วี ยู ถูกขายเกลี้ยงในร้านค้าปลีก และเราก็พยายามที่จะส่งเครื่องเกมมาเติมในสต๊อคร้านค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางร้านค้าปลีกก็พยายามอย่างดีที่สุดให้มีเครื่องเกมสต๊อคอยู่ในร้านค้า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเมื่อเครื่องเกมเข้ามาในร้าน มันก็ถูกขายออกไปทันที"
"Reggie Fils-Aime" ยอมรับว่าเครื่องวี ยู เกิดภาวะขาดตลาดขึ้น แต่มั่นใจว่าจะไม่เกิดภาวะขาดตลาดหนักเท่ากับเครื่องวี เมื่อปี 2006 "ในอดีตเครื่องวีเคยสร้างปรากฏการณ์พิเศษขึ้น คุณไม่สามารถเข้าไปยังร้านค้าปลีกเพื่อซื้อเครื่องวีได้จนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิ ของปี 2009 เราได้บทเรียนหลายอย่างจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เราสามารถส่งเครื่องวี ยู ไปเติมยังร้านค้าปลีกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เราพยายามจะส่งเครื่องเกมไปยังร้านค้าปลีกให้ได้มากที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค"
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com