ข่าวร้ายสำหรับแฟนๆที่หมายจับตาเป็นเจ้าของเครื่องเกมคอนโซลตัวใหม่ล่าสุดของบริษัทนินเทนโด อาจต้องคิดทบทวนใหม่เมื่อค่ายเกมยักษ์ใหญ่แดนปลาดิบยังคงยึดมั่นปักหลักอุดมการณ์เดิม บังคับไม่ให้เล่นเกมโซนอื่นในเครื่องต่างถิ่น
แหล่งข่าวจากนิตยสารแฟมิซึ รายงานว่าทางบริษัทนินเทนโด เตรียมแผนที่จะใส่ระบบป้องกันห้ามไม่ให้ผู้ใช้สามารถเล่นซอฟต์แวร์เกมที่มาจากภายนอกประเทศ พร้อมกับข้อความที่ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า "ตัวเครื่อง Wii U สามารถเล่นอะไรได้บ้างนั้น จะถูกจำกัดด้วยฟีเจอร์ล็อกโซน (Region-Lock) และบรรดาซอฟต์แวร์เกมต่างๆจะไม่มีวางขายในโซนประเทศที่ไม่สามารเล่นมันได้"
อีกทั้งเว็บไซต์ CVG ยังได้ออกมาเปิดเผยคำยืนยันอย่างเป็นทางการจากปากนินเทนโด ระบุว่าทางบริษัทจะใส่ระบบล็อกโซนเข้ามาในทุกเครื่องของ Wii U ซึ่งนั่นหมายความว่า ทุกซอฟต์แวร์เกมวียูที่ไม่ว่าจะซื้อมาจากประเทศแถบอเมริกา ยุโรป หรือญี่ปุ่นก็ตาม จะสามารถเล่นได้เฉพาะบนเครื่องวียูที่ขายในโซนนั้นๆอย่างเดียวเท่านั้น
หากผู้เล่นที่อยู่ฝั่งเอเชียก็จะไม่สามารถหิ้วเครื่องตะวันตกมาใช้งานได้ ส่วนผู้เล่นฝั่งอเมริกาและยุโรปก็จะไม่สามารถหิ้วเครื่องจากเอเชียไปใช้ได้เช่นเดียวกัน ส่งผลให้ผู้เล่นต้องชั่งใจเลือกซื้อเครื่องวียูให้ตรงกับโซนเกมที่ตัวเองอยากเล่นเท่านั้น ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะที่ผ่านมาทางนินเทนโดก็ได้ใช้ระบบล็อกโซนนี้บนทุกเครื่องเกมของบริษัทมาตั้งแต่อดีตทั้ง NES, SNES, N64, GameCube, Wii และ 3DS
ซึ่งแตกต่างจากอีกสองค่ายผู้ผลิตคอนโซลอย่างโซนี่และไมโครซอฟต์ ที่ทั้งคู่เปิดโอกาสให้แก่บริษัทผู้จัดจำหน่ายเกมเป็นคนกำหนดเองว่าจะเลือกล็อกโซนบนซอฟต์แวร์เกมของตนหรือไม่ และค่ายเกมส่วนใหญ่ก็มักเลือกที่จะไม่ล็อกโซนเพื่อเป็นการเพิ่มยอดขาย
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
ign
joystiq
kotaku
gematsu
eurogamer
