"ไมลส์ จาคอบสัน" ผู้กำกับของสตูดิโอ Sports Interactive ให้สัมภาษณ์แสดงความผิดหวังในเกม "Football Manager" เวอร์ชันแอนดรอยด์ที่มีอัตราส่วนการละเมิดลิขสิทธิ์สูงลิ่ว ยอมรับอาจไม่เอามาลงอีกแล้ว
"Football Manager Handheld" สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เริ่มวางขายในร้าน Google Play ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายนเป็นต้นมา สนนราคาเพียง 6.99 ยูโร (ประมาณ 285 บาท) โดยรวมข้อมูลจากลีกฟุตบอลชั้นนำของยุโรปและส่วนอื่นของโลกทั้งหมด 12 ประเทศอาทิ สเปน อังกฤษ เยอรมัน บราซิล
หลังผ่านไปสองสัปดาห์ ทางผู้สร้างก็ออกมาเผยตัวเลขที่น่าตกใจเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยคิดเป็นอัตราส่วนสูงถึง 9 ต่อ 1 เมื่อเทียบกับคนที่จ่ายเงินซื้อของแท้ ทำสถิติเลวร้ายที่สุดในซีรีย์นี้และมีแนวโน้มจะแย่ลงไปอีกหากพิจารณาจากข้อมูลของภาคอื่นก่อนหน้า
จาคอบสันให้เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "อย่างแรกเลยคือไม่มีระบบป้องกันการก็อปปี้ที่ได้ผลบนแพลตฟอร์มนี้ ดังนั้นใครๆก็สามารถทำได้ง่ายมาก และแพลตฟอร์มนี้ยังได้รับความนิยมสูงในบางประเทศที่มีปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์หนักกว่าที่อื่นด้วย"
เขายังอธิบายอีกว่าของเถื่อนสร้างภาระให้กับ Sports Interactive อย่างไรบ้าง "ต้องมีค่าใช้จ่ายเซิร์ฟเวอร์สำหรับดาวน์โหลดสกิน ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบคุณภาพและแก้ปัญหาให้ลูกค้าเพราะคนเล่นของเถื่อนจำนวนไม่น้อยก็มาใช้บริการด้วย ค่าใช้จ่ายในการวางแผนป้องกันสำหรับอนาคต ค่าใช้จ่ายเพื่อสกัดแหล่งดาวน์โหลดของเถื่อน ทั้งหมดนี้ต้องสิ้นเปลืองเงินและเวลา รวมถึงการเสียโอกาสที่น่าจะเอาไปทำอะไรอย่างอื่นได้อีก"
นอกจากนี้ จาคอบสันยังต้องเผชิญการตัดสินใจที่ไม่ง่ายเกี่ยวกับอนาคตของการนำเกมค่าย Sports Interactive มาลงแอนดรอยด์ โดยเขายอมรับว่า "มันยังไม่ถึงเป้าหมายที่เราต้องการ ผมยังมั่นใจว่าเราจะทำได้เมื่อเวลาผ่านไป แต่มันน่าผิดหวังเหลือเกินที่คนจำนวนมากชอบผลงานของเรา ใช้เวลาเล่นนับไม่ถ้วน แต่กลับคิดว่าพวกเราไม่ควรได้รับค่าตอบแทน"
เขายังเสริมอีกว่า "หากมันไม่ถึงเป้า เราก็จะไม่ทำลงแพลตฟอร์มนี้อีกเป็นการตัดสินใจทางธุรกิจง่ายๆ เรายังหวังว่าจะได้สนับสนุนมันต่อไป เพราะมีคนซื่อสัตย์จำนวนมากที่อยากเล่นเกมบนแพลตฟอร์มนี้และเราก็อยากทำเพื่อพวกเขา"
เกี่ยวกับข้อถกเถียงว่าการปราบของละเมิดลิขสิทธิ์นั้นไม่มีผลอะไรต่อการเพิ่มยอดขาย จาคอบสันก็ให้ความเห็นว่า "มันเป็นคณิตศาสตร์ง่ายๆ ผู้พัฒนาเกมเป็นธุรกิจ ถ้าพวกเขาไม่มีรายรับก็ต้องปิดตัวลง และแม้ของเถื่อนจะไม่มีโอกาสกลายเป็นยอดขายโดยตรงแต่ก็มันมีความสัมพันธ์กันอยู่ ถึงจะได้มาอย่างต่ำแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ก็ยังสร้างความแตกต่างอย่างใหญ่หลวงให้กับผู้พัฒนาได้ ซึ่งในหลายกรณีมันเกี่ยวพันถึงความอยู่รอดของสตูดิโอและเกมซีรีย์นั้นเลยทีเดียว"
เขาปิดท้ายว่า "ไม่มีข้ออ้างอะไรที่ฟังขึ้นสำหรับการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าคุณไม่อยากจ่ายตามราคาของเกมก็ไม่ต้องจ่าย แล้วก็ไม่ต้องเล่นด้วย เกมเป็นแค่ความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง ไม่ใช่สิทธิมนุษยชนอะไรที่พึงได้รับ"
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
Eurogamer