"ซาโตรุ อิวาตะ" ประธานใหญ่นินเทนโดออกมาประกาศว่า "Wii U" เครื่องคอนโซลรุ่นถัดไปจะออกวางจำหน่ายที่อเมริกา , ยุโรป , ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งปลายปี 2012 นอกจากนั้นจะนำเครื่องเวอร์ชั่นพร้อมจำหน่ายมาโชว์ในงาน E3 อีกด้วย
การประกาศข่าวข้างต้นเกิดขึ้นหลังจากการแถลงตัวเลขผลประกอบการของนินเทนโด รายได้ในช่วง 9 เดือนล่าสุด ระหว่างเดือนเมษายนถึงธันวาคม ปี 2011 นินเทนโดมีรายได้ 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 31 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้นินเทนโดขาดทุนในช่วง 9 เดือนอยู่ที่ 623 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 639 ล้านเหรียญสหรัฐ
จากตัวเลขข้างต้น ทำให้นินเทนโดปรับยอดประมาณการณ์ปีงบประมาณที่จะไปสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2012 นินเทนโดคาดการณ์ว่าในปีงบประมาณปัจจุบันจะมียอดขาดทุน 837 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะขาดทุน 258 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้านรายได้นินเทนโดคาดการณ์ว่าเมื่อสิ้นปีงบประมาณจะมีรายได้อยู่ที่ 8.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงกว่ายอดคาดการณ์รายได้ก่อนหน้านี้ที่วางไว้ที่ 10.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนั้นนินเทนโดยังปรับลดยอดส่งเครื่อง 3DS ไปจำหน่ายจาก 16 ล้านเครื่อง เป็น 14 ล้านเครื่อง ส่วนเครื่องวีปรับลดจาก 12 ล้านเครื่อง เหลือ 10 ล้านเครื่อง
อิวาตะ กล่าวว่า "เราตั้งความหวังไว้สูงมากกับช่วงเทศกาลช้อปปิ้งปลายปีที่ผ่านมา แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราตั้งใจไว้"
เครื่องเกมพกพา 3DS หลังจากออกวางจำหน่ายมาได้เพียง 6 เดือน ทางนินเทนโดก็ตัดสินใจลดราคาเครื่องเกมลงเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น ในโอกาสนี้นินเทนโดอัพเดตตัวเลขยอดขายเครื่องเกมพกพาดังกล่าว ระบุว่าตั้งแต่เปิดวางจำหน่ายจนถึงปัจจุบันมียอดขายรวมทั่วโลกแล้วถึง 15 ล้านเครื่อง นอกจากนั้นเครื่องเกมในตระกูล DS(ไม่นับรวม 3DS) มียอดขายรวมถึงปัจจุบันมากกว่า 150 ล้านเครื่อง ด้านเครื่องวี มียอดขายทั่วโลกถึงปัจจุบันอยู่ที่ 94 ล้านเครื่อง
สภาวะขาดทุนของนินเทนโดเกิดขึ้นพร้อมๆกับการที่ 2 คู่แข่งอย่าง ไมโครซอฟต์ และโซนี่ นำอุปกรณ์ kinect และมูฟโมชันมาแข่งกับเครื่องวี นอกจากนั้นนินเทนโดยังต้องเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากในตลาดเกมพกพา เนื่องจากอุปกรณ์โทรศัพท์รุ่นใหม่ที่เข้ามาแข่งขันด้วย อย่าง iPad, iPhone และ Android
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com
gamasutra.com
