ผู้สร้างเกม I Am Alive ออกให้เหตุผลการไม่สร้างเกมเวอร์ชันพีซีก็เพราะว่าปัญหาเกมก๊อบปี้ที่มีอยู่มากในเกมพีซี
บริษัทยูบิซอฟต์ ( Ubisoft) ได้ประกาศสร้างเกม I Am Alive ในปี 2008 โดยให้ผู้พัฒนาเกมสาวสวย เจด เรย์มอนด์ ผู้พัฒนาเกม Assassin’s Creed มีส่วนร่วมในการพัฒนาเกมนี้ภายใต้สตูดิโอ Darkworks และต่อมาตัวเกมก็ได้เปลี่ยนผู้พัฒนาเป็นยูบิซอฟต์เซี่ยงไฮ้
แล้วข่าวคราวของเกมนี้ก็เงียบหายไปจนกระทั่งได้มีภาพยนตร์ตัวอย่างของเกมในงาน E3 2010 และหลังจากนั้นตัวเกมก็ได้ถูกจัดเรทที่ประเทศออสเตรเลียและอเมริกาในปีนี้ หลังจากนั้นก็มีภาพยนตร์ตัวอย่างออกมาอีกในเดือนกันยายน ในภาพยนตร์ตัวอย่างตัวล่าสุดยังแสดงให้เห็นว่าเนื้อหาในเกมได้เปลี่ยนไปจากต้นฉบับอย่างเช่นเมืองในเกมเปลี่ยนจากเมืองชิคาโกกลายเป็นเมืองที่ถูกสมมุติขึ้นมาแทน
ในตอนแรกเกม I Am Alive นั้นมีกำหนดจะวางจำหน่ายทั้งในเวอร์ชันพีซี เอ็กซ์บ็อกซ์ 360 และเพลย์สเตชัน 3 แต่หลังจากเปลี่ยนตัวผู้พัฒนาก็ทำให้ตัวเกมนั้นเปลี่ยนไปลงเฉพาะเวอร์ชันของเครื่องคอนโซลแต่ไม่มีเวอร์ชันของเครื่องพีซี นอกจากนี้แล้วตัวเกมยังกลายเป็นเกมแบบดาวน์โหลดเอเบิลอีกด้วย สแตนิสลาส เม็ตตรา ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ของเกมก็ออกมาให้เหตุผลว่าที่เปลี่ยนใจไม่ทำเวอร์ชันพีซีก็เพราะปัญหาเรื่องเกมก๊อบปี้
เม็ตตรากล่าวกับ incgamers.com ว่า"พวกเราได้ยินเสียงบ่นจากเกมเมอร์พีซีที่พยายามจิกกัดเราในเรื่องที่เราไม่ทำเกมเวอร์ชันสำหรับเครื่องพีซี พวกเขาบ่นแค่เพียงว่าไม่มีเกมเวอร์ชันพีซีหรือบ่นเพราะว่าเกมนี้เป็นเกมที่พวกเขาอยากจะเล่น? แล้วพวกเขาจะเล่นเกมนี้จริงหรือถ้าเราทำเวอร์ชันพีซี?
ผู้ที่บ่นว่าไม่มีเวอร์ชันสำหรับเครื่องพีซีนั้นก็คงจะเป็นผู้ที่อยากซื้อเกมนี้มาเล่นอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในจำนวนผู้เล่นที่อยากจะเล่นจริงๆ เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ที่เล่นเกมก๊อบปี้แล้วก็มีผลให้ยูบิซอฟต์ตัดสินใจไม่เสียเวลาทำเกมเวอร์ชันสำหรับเครื่องพีซี
"มันเป็นเรื่องยากเพราะว่าปัญหาเรื่องเกมก๊อบปี้ที่หนักหนาและมีคนไม่มากนักที่จ่ายเงินเพื่อซื้อเกมพีซีมาเล่นซึ่งทำให้เราคิดว่าไม่คุ้มค่าที่จะทำเกมเวอร์ชันของเครื่องพีซี ถึงแม้จะใช้คนเพียง 12 คนเป็นเวลา 3 เดือนเพื่อทำการแปลงเกมไปเป็นเวอร์ชันสำหรับเครื่องพีซี มันอาจจะไม่เสียค่าใช้จ่ายมากมายนักแต่ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่เราต้องเสียไปและถ้ามีคนเพียง 50,000 คนยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อเกมนี้ไปเล่นเราก็คิดว่าไม่คุ้มค่าที่จะเสียเวลาทำมันขึ้นมา" เม็ตตรากล่าว
ก่อนหน้าที่บริษัทยูบิซอฟต์จะยกเลิกเกม I Am Alive เวอร์ชันของเครื่องพีซีนั้นก็ได้พยายามที่จะนำ DRM ซึ่งเป็นการกำหนดสิทธิ์ในการเล่นโดยที่ผู้เล่นจะต้องต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลาเพื่อที่จะเล่นเกมของพวกเขา อย่างเช่นเกม Driver: San Francisco เวอร์ชันพีซี ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าประสบความสำเร็จในการป้องกันเกมก๊อบปี้แต่สุดท้ายแล้วก็ถูกแคร๊กให้เล่นโดยไม่ต้องต่อระบบอินเทอร์เน็ตอย่างง่ายดายและถูกผู้ที่ซื้อเกมของแท้ตำหนิจนทำให้ต้องเปลี่ยนมาให้ผู้เล่นต่อระบบอินเทอร์เน็ตเฉพาะตอนล็อคอินเข้าเล่นเกมในตอนแรกแทน
เมื่อมีการเปลี่ยนผู้พัฒนาเกม I Am Alive จาก Darkworks ไปเป็นยูบิซอฟต์เซี่ยงไฮ้ก็ทำให้ตัวเกมต้องเริ่มพัฒนาใหม่ตั้งแต่ต้น "ภาพยนตร์ตัวอย่างในตอนแรกนั้นไม่ได้เป็นตัวเกมจริง มันเป็นภาพยนตร์จากคอมพิวเตอร์กราฟิก การพัฒนาเกมนี้ย้ายไปที่เซี่ยงไฮ้ในปี 2010 และพวกเราก็ตัดสินใจเปลี่ยนให้มันดูสมจริงมากกว่าเดิม” อูเรเลียน พาลาสเส จาก ยูบิซอฟต์เซี่ยงไฮ้ กล่าวในการสัมภาษณ์กับ eurogamer.net
"พวกเราเริ่มทำมันใหม่จากศูนย์แต่ก็ใช้โครงเรื่องเดียวกันกับของเดิม ผมไม่อยากจะบอกว่าแนวคิดของเราดีกว่าต้นฉบับที่ทาง Darkworks ได้เคยทำไว้ แต่ที่เคยได้เห็นในตอนแรกนั้นมันเป็นภาพยนตร์ตัวอย่างจากคอมพิวเตอร์กราฟิก ทุกอย่างมันก็เป็นไปได้ทั้งนั้นและมันก็ไม่ใช่เกมการเล่นจริง แต่พวกเราก็ชอบโครงเรื่องดั้งเดิมของมันและก็ชอบแนวทางที่มันเป็น" พาลาสเสกล่าว
เกม I Am Alive มีกำหนดวางจำหน่ายทาง XBLA และ PSN ในช่วงฤดูหนาวปีนี้
ข้อมูลจาก
http://www.1up.com
http://www.joystiq.com
