นินเทนโดเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการในช่วง 6 เดือนระหว่างเมษายนถึงกันยายน พบว่ามียอดรายได้ลดต่ำลง 40 เปอร์เซนต์ อยู่ที่ 2.84 พันล้านเหรียญสหรัฐ มียอดขาดทุน 926 ล้านเหรียญสหรัฐ
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกรกฏาคม "นินเทนโด" บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ของโลก ออกมาประกาศตัวเลขขาดทุน 25.5 พันล้านเยน(336 ล้านเหรียญสหรัฐ) ส่งผลให้ต้องปรับยอดประมาณการณ์กำไรในช่วงที่เหลือก่อนสิ้นปีลงถึง 80 เปอร์เซนต์
ล่าสุด "นินเทนโด" ออกมาเปิดเผยว่าในช่วงไตรมาสล่าสุด( กรกฏาคมถึงกันยายน) ทำผลงานได้ย่ำแย่กว่าเป้าหมายที่ปรับลดลงมาแล้ว จากตัวเลขขาดทุนสุทธิ 44.7 พันล้านเยน(589 ล้านเหรียญสหรัฐ)ในไตรมาสล่าสุด และยังขาดทุนสุทธิอีก 70.2 พันล้านเยน(926 ล้านเหรียญสหรัฐ)ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ(เมษายนถึงกันยายน)
ในช่วง 6 เดือนล่าสุดระหว่างเมษายนถึงกันยายน นินเทนโดมีรายได้สุทธิ 215.7 พันล้านเยน(2.84 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ลดต่ำลง 40.6 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้ที่ตกต่ำของนินเทนโดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ย้อนกลับไปในช่วง 6 เดือนแรกของนินเทนโดประจำปี 2010 ก็มียอดรายได้สุทธิลดลง 33.7 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2009
นินเทนโด ระบุว่าการลดราคาเครื่องเกมพกพา 3DS ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ยังติดปัญหาตรงที่ขาดเกมดังที่มาลงให้ มีเพียงแต่เกมฟอร์มยักษ์อย่าง The Legend of Zelda: Ocarina of Time 3D ที่มาลงให้ ในช่วง 6 เดือนล่าสุด(เม.ย.-ก.ย.) เครื่อง 3DS ทำยอดขายได้ 3.07 ล้านเครื่อง ส่วนซอฟต์แวร์เกมของเครื่อง 3DS ทำยอดขายได้ 8.13 ล้านชุด ทางด้านเครื่องเกม DS ทำยอดขายในช่วง 6 เดือนได้ 2.58 ล้านเครื่อง ส่วนซอฟต์แวร์เกมของเครื่อง DS ทำยอดขายได้ 29 ล้านชุด
ในช่วง 6 เดือนเครื่องวีทำยอดขายได้ 3.35 ล้านเครื่อง น้อยลงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำยอดขายได้เกือบ 5 ล้านชุด ด้านซอฟต์แวร์เกมบนเครื่องวี ในรอบ 6 เดือนมียอดขายทั่วโลก 36.5 ล้านชุด
จากตัวเลขผลประกอบการข้างต้น ส่งผลให้นินเทนโดปรับตัวเลขประมาณการณ์ตลอดทั้งปีใหม่ โดยคาดว่าตลอดทั้งปีจะมีรายได้สุทธิอยู่ที่ 790 พันล้านเยน(10.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ลดลง 12 เปอร์เซนต์ จากยอดประมาณการณ์ที่วางแผนเอาไว้เมื่อเดือนกรกฏาคมที่คาดว่าจะมีรายได้สุทธิที่ 900 พันล้านเยน(11.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ) นอกจากนั้นนินเทนโดยังยกเลิกประมาณการณ์ตัวเลขผลกำไรที่จะได้ พร้อมกับคาดการณ์ว่าจะมียอดขาดทุนสุทธิ 20 พันล้านเยน(260 ล้านเหรียญสหรัฐ)
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com
