"คริส ลูวิส" (Chris Lewis) ผู้ดูแลตลาดเกมคอนโซลของไมโครซอฟท์ยุโรปให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ยูโรเกมเมอร์เกี่ยวกับสถานการณ์ของเครื่อง Xbox360 ในญี่ปุ่น ยืนยันจะปักหลักสู้ต่อแม้ยอดขาดย่ำแย่
เรื่องดังกล่าวเริ่มมาจากบทความในนิตยสาร Edge เกี่ยวกับสภาพของ Xbox360 ในญี่ปุ่น ระบุว่าทำยอดทั้งปีที่ผ่านมาได้ 72,721 เครื่อง ลดลง 46.7 เปอร์เซ็นท์เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่งมียอดขายรวมเกิน 1.5 ล้านเครื่องได้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 6 ปีนับจากเริ่มวางตลาดในปี 2005
ขณะที่ไมโครซอฟท์พยายามจะผลักดันตลาดญี่ปุ่นด้วยเกมเอกซ์คลูซีฟชื่อดัง ผลงานที่ดูจะได้ผลดีคือเกมปั้นดารา "ไอดอลมาสเตอร์" (The Idolm@ster) ซึ่งช่วยกระตุ้นการใช้งานบริการออนไลน์ Xbox Live และทำรายได้เป็นกอบเป็นกำจากเนื้อหา DLC ต่างๆ แต่เมื่อเกมภาค 2 วางจำหน่ายกลับเปิดตัวได้เพียง 34,621 ชุดและหายไปจากตารางทันทีในสัปดาห์ถัดมา จนล่าสุดก็ประกาศย้ายไปลงเครื่องคู่แข่งเพลย์สเตชัน 3 เป็นที่เรียบร้อย
นิตยสาร Edge ยังระบุอีกว่าร้านค้าปลีกหลายแห่งในญี่ปุ่นต่างก็เริ่มลดพื้นที่วางขายเกมและเครื่อง Xbox360 ลงทีละน้อย ขณะที่ร้านประเภทหลายสาขาก็เลือกจะวางจำหน่ายในเขตที่พอมีคนซื้อเท่านั้นและเริ่มใช้วิธีลดราคาขายพ่วงเพื่อล้างสต๊อกครั้งใหญ่ แม้กระทั่งแคมเปญ "หน่วยพิเศษ Xbox" ของไมโครซอฟท์เองที่ใช้นักธุรกิจสองคนกับมนุษย์หัวกลมมาโปรโมทเกมก็ต้องล้มเลิกไปแล้ว
ในงาน Gamecom 2011 "คริส ลูวิส" จากไมโครซอฟท์ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวว่า "ไม่มีทาง พวกเรายังไม่ยอมถอยหรอก มันเป็นตลาดที่ท้าทาย คู่แข่งของเราแกร่งมาก พวกเราจึงเคารพโซนีกับนินเทนโดมากในสิ่งที่พวกเขาทำและนำออกมาใช้"
ลูวิสพูดถึงนินเทนโดว่า "เครื่อง Wii ของพวกเขาเปิดโอกาสทางการตลาดขึ้นที่นั่น แล้วเราก็ออกนำหน้าไปด้วยที่เทคโนโลยีที่เหนือกว่าอย่าง Kinect สิ่งที่พวกเราเห็นคือลูกค้าที่ชื่นชอบการใช้งานร่างกายของพวกเขาเองโดยไม่ต้องกังวลกับจอย พวกเราจึงมองตัวเองว่าเป็นบริษัทผู้ริเริ่มอะไรหลายอย่างและ Kinect ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี"
เขาปิดท้ายว่า "ญี่ปุ่นยังคงสำคัญกับเรา เป็นตลาดที่เรายังต้องทำต่อไปและชุมชนนักพัฒนาเกมก็สำคัญมากเช่นกัน งานโตเกียวเกมโชว์ปีนี้จะมีอะไรน่าสนใจเหมือนทุกปีที่ผ่านมา"
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
Eurogamer
Edge
1UP