ไมโครซอฟท์เแถลงผลประกอบการรอบปีนับถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เผยแผนกเกมทำยอดได้น่าพอใจโดยเฉพาะสินค้าเกี่ยวกับ Xbox360 ที่ตัวเลขสูงกว่าปีก่อนทุกรายการ
แผนกธุรกิจบันเทิงและอุปกรณ์พกพา (Entertainment & Devices Division - EDD) ของไมโครซอฟท์ซึ่งประกอบด้วย Xbox360 เครื่องเล่นเพลง Zune และวินโดว์โฟน 7 สามารถทำยอดขายรวมไปถึง 8.93 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในช่วง 12 เดือนนับถึงมิถุนายนที่ผ่านมา สูงขึ้น 45% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยไมโครซอฟท์ระบุว่าปัจจัยหลักมาจากสินค้าตระกูล Xbox ซึ่งนับรวมตัวเครื่องคอนโซล กล้องจับการเคลื่อนไหวคิเนกต์ (Kinect) และบริการออนไลน์ Xbox Live ไว้ด้วยกัน
Xbox360 ทำยอดขายไป 13.7 ล้านเครื่องในปีงบประมาณ 2011 สูงขึ้นจาก 10.3 ล้านเครื่องในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อน โดยในไตรมาสล่าสุด (นับจากเม.ย.ถึงมิ.ย.) สามารถทำได้ 1.7 ล้านเครื่อง สูงกว่าตัวเลขเดิมที่ 1.5 ล้านเครื่องในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
ภายในรายงานไม่ได้ระบุถึงยอดขายปัจจุบันของอุปกรณ์คิเนกต์ โดยข้อมูลที่ออกมาครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนมีนาคมเผยว่าทำไปแล้ว 10 ล้านชุดนับจากการวางขายเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน และในช่วงหลังงานแถลงข่าว "ปีเตอร์ ไคลน์" (Peter Klien) ตัวแทนจากไมโครซอฟท์ก็ยังออกมาบอกอีกว่ายอดผู้สมัครใช้บริการ Xbox Live มีสูงถึง 35 ล้านคนแล้ว
ตัวเลขรายรับเฉพาะจากแผนก EDD ยังสามารถทำยอดสูงขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐมากกว่าเดิม 114% เมื่อเทียบปีต่อปี แต่ก็มีส่วนที่เป็นรายจ่ายก็เพิ่มขึ้นตามทั้งฝ่ายวิจัยพัฒนาที่ใช้ไป 119 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 12% และด้านการประชาสัมพันธ์ทำตลาดที่ลงทุนไป 90 ล้านเหรียญสหรัฐสูงกว่าเดิม 12% เช่นกัน
ไม่เพียงแต่แผนก EDD เท่านั้นที่ทำเงินอย่างเป็นกอบเป็นกำ ผลประกอบการรอบปีของไมโครซอฟท์ทั้งหมดยังสามารถทำรายรับรวมถึง 1.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเมื่อสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน สูงกว่าปีก่อน 8% และเมื่อคิดเป็นกำไรสุทธิก็สูงกว่าเดิม 30% เป็นเงิน 5.87 พันล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ในฝั่งระบบปฏิบัติการวินโดว์ของไมโครซอฟท์ก็มียอดขายลดลง 2% ในปีงบประมาณที่ผ่านมา โดยผลิตภัณฑ์ล่าสุดวินโดว์ 7 (Windows 7) สามารถขายไปได้แล้วกว่า 400 ล้านชุดนับจากการวางจำหน่ายในช่วงกลางปี 2009
ข้อมูลจาก
Gamespot