เรตเกม ESRB E เหมาะสำหรับผู้ที่อายุ 6 ปีขึ้นไป
ปกติแล้วเวลาคนเราจะตัดสินอะไรมักจะมองกันที่ภายนอก ดังนั้นเวลาเราเล่นเกม กราฟิกจึงเป็นสิ่งที่เรามักจะมองและเอามาตัดสินเกม และอาจจะทำให้หลายคนมองข้ามเกม Monster Tale เกมแอ็คชั่นบนเครื่องเกมตกยุค ที่กราฟิกก็ดูตกยุคตามเครื่อง แต่ด้วยกระแสปากต่อปาก และเหล่านักวิจารณ์ทั่วโลกต่างยกนิ้วให้กับความสนุกแบบคาดไม่ถึง ทำให้ต้องไม่พลาดที่จะหามาลิ้มลองว่าจะสนุกสมกับที่เล่าลือหรือไม่
โดยเกม Monster Tale เป็นเกมฟอร์มเล็กๆจากค่ายเกม Majesco Entertainment ผู้สร้าง Cooking Mama ที่เรื่องราวก็เขียนอย่างง่ายๆว่าด้วยสาวน้อย ELLIE ที่หลุดเข้ามาอยู่ในโลกของสัตว์ประหลาด และได้เจ้า มอนสเตอร์นามว่า Chomp มาเป็นผู้ช่วย ซึ่งสัมผัสแรกคุณจะพบว่านี้มันเกมสมัย 16 บิท ซูเปอร์แฟมิคอมเมื่อยี่สิบปีแล้วหรือ แถมการออกแบบก็ดูน่ารักเกินเหมือนหลุดมาจากการ์ตูนของช่อง Cartoon Network ดนตรีและเสียงประกอบแม้จะมีเพลงธีมหลักๆที่พอจะติดหูบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่น จนเชื่อได้เลยว่าคอเกมคงคิดว่านี่มันคงเป็นเกมแอ็คชั่นสำหรับเด็กเล็กสินะ ซึ่งถ้าคุณมองแค่นั้นก็ขอ บอกว่าต้องคิดใหม่เพราะเกมมีความซับซ้อนเกินคาดเดา
เพราะรูปแบบการเล่นของเกม Monster Tale แม้ดูภายนอกจะเหมือนเกมแอ็คชั่น 2 มิติมุมมองด้านข้างธรรมดา ฉากก็คล้ายกับเกมยอดฮิตในอดีตอย่าง RockMan แต่เกมได้นำรูปแบบการเล่นที่หลากหลาย โดยเฉพาะเกมใส่ความเป็น RPG ที่ต้องปั๊มเลเวล และต้องหาทางเพื่อที่จะเปิดทางไปฉากต่อไปได้ แบบเกม Metroid หรือเกมที่เด็กรุ่นใหม่น่าจะรู้จักหน่อยก็คือเกมในตำนาน Castlevania: Symphony of the Night ที่เราต้องเดินไปๆมาๆในแผนที่เดียวเพื่อแก้ปริศนา ปั๊มเลเวล อัพเกรดความสามารถของตัวละครเพื่อเปิดทางไปที่ใหม่ๆ
โดยความสามารถของตัวเอกนั้น มีทั้งการยิงลูกพลังและยังมีการชาร์จพลังยิง มีการกระโดดเกาะกำแพง การพุ่งตัว แบบ Rockman การโจมตีระยะใกล้แบบต่อยตี รวมทั้งตัวเอกยังมีท่าไม้ตายพิเศษมากมายนับไม่ถ้วน และต้องใช้มันเพื่อเปิดทางไปต่อ ในแผนที่ที่มีภูมิประเทศที่หลากหลายแต่ก็เชื่อมต่อกันเป็นเกมเดียวกันได้ แต่บนแผนที่จะมีจุดบอกว่าต้องไปไหนตลอดทำให้เราเล่นได้ไม่ต้องกลัววาจะหลงทาง แม้มันจะทำให้ขาดความท้าทายในการแก้ปริศนาเองอยู่บ้างก็ตาม แต่ตัวเอกไม่สามารถปั๊มเลเวลเพื่ออัพเกรดได้ต้องใช้เงินซื้อเพื่อเพิ่มค่าพลังต่างๆ
และส่วนที่ทำให้เกมโดดเด่นกว่าเดิมคือระบบเลี้ยงมอนสเตอร์ ที่จะมาช่วยเราต่อสู้ โดยมอนสเตอร์ของเราจะสามารถอยู่ในโลกปกติได้ในเวลาจำกัด ด้วยแถบพลังจะลดไปเรื่อยๆ และเพื่อฟื้นคืนพลังมันต้องหลบเข้าไปอีกมิติที่หน้าจอล่างของ DS เกมจึงใช้ลูกเล่นของจอล่างอย่างเต็มที่ เพราะศัตรูบางตัวมีการหนีไปในมิติของจอล่าง เพื่ออัดสัตว์อสูรของเรา หรือการโจมตีสลับกันทั้งจอบนและจอล่าง รวมทั้งการแก้ปริศนาที่ต้องใช้การกดสวิช ทั้งจอบน และจอล่างเพื่อเปิดทางไปต่อ
โดยเราต้องเลี้ยงมันด้วย อาหาร(ที่ได้จากศัตรูหรือซื้อมา) และเล่นกับมันด้วยการให้ของเล่น ซึ่งจะส่งเสริมการพัฒนาการ และเพิ่มค่าเลเวล(นอกจากการสู้ศัตรู) นอกจากนี้สัตว์อสูรของเราก็มีหลายร่างให้เลือกเล่น และในแต่ละร่างก็มีการวิวัฒนาการได้ตามธาตุที่หลากหลายมาก และเมื่อเราปั๊มเลเวลจนถึงระดับหนึ่งเราจะได้ท่าไม้ตายใหม่ๆ สกิลใหม่ๆ รวมทั้งการเพิ่งพลังของสายต่างๆ ที่เยี่ยมมากคือเราสามารถเอาความสามารถทั้งหลายมาใส่ในช่อง เพื่อผสมกันได้ ซึ่งทำให้การเลี้ยงมอนสเตอร์มีสิ่งจูงใจให้ผู้เล่นสนุกกับการผสมผสานสัตว์อสูรของเราได้ตามใจชอบ
สรุปแล้วเกม Monster Tale ดูภายนอกอาจจะดูเหมือนเป็นเกมสำหรับเด็กเล็กๆ ที่ไม่น่าจะมีอะไร แต่เอาเข้าจริงๆตัวเกมมีความสนุกที่หลากหลายและลงตัวมาก เพราะการเลี้ยงมอนสเตอร์ ที่สามารถปรับแต่งได้ตามใจ การผสมผสานของเกมหลายแนวเข้าด้วยกัน แม้เกมจะไม่มีอะไรใหม่นักแต่ความสนุกของเกมก็ไม่แพ้เกมฟอร์มยักษ์อย่าง Castlevania หลายภาคที่ออกบนเครื่อง DS ถ้าคุณไม่ใช่คนที่มองอะไรแค่ภายนอกและฉาบฉวย และชอบรูปแบบของเกมแบบเดิมๆที่สนุกแบบคลาสสิก เกมนี้มีทุกอย่างที่คุณต้องการ
เกมการเล่น | 8.5 |
กราฟิก | 6.7 |
เสียง | 7 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 8 |
ความคุ้มค่า | สนุกเกินความน่ารัก |
ภาพรวม | 8 |
ข้อดี : เกมเพลย์ที่สนุก อัพเกรดตัวละครได้หลากหลาย ด่านออกแบบดี
ข้อเสีย : กราฟิกดูน่ารักเกินสำหรับฮาร์ดคอร์
สูตรสำเร็จของเกม : โปเกมอน + Metroid + Rockman
Darth.Vader (วงศกร ปฐมชัยวัฒน์)
สนับสนุน บทความโดย ร้านเกม NADZ PROJECT