ซีอีโออีเอออกโรงประกาศส่งเกม "แบทเทิลฟิลด์ 3" ออกมาในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อโค่นเกม "คอลออฟดิวตี้" จากค่ายแอคติวิชั่น พร้อมระบุว่างบประมาณด้านการตลาดเพื่อโปรโมทเกมฟอร์มยักษ์มีแนวโน้มจะมากกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ
"John Riccitiello" ซีอีโอของอิเลคทรอนิคส์ อาร์ตหรืออีเอ กล่าวในงานประชุม "Ad Age Digital Conference" ที่จัดขึ้นในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระบุยืนยันว่าเกมชูตติ้ง "แบทเทิลฟิลด์ 3" จะออกวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อมาต่อสู้กับซีรีส์ชูตติ้ง "คอล ออฟ ดิวตี้" จากแอคติวิชั่น
"เดือนพฤศจิกายนนี้ เราจะออกวางจำหน่ายเกมแบทเทิลฟิลด์ 3 เพื่อมาเป็นคู่แข่งสำคัญของเกมคอลออฟดิวตี้ตัวต่อไป ขณะนี้เกมซีรีส์คอลออฟดิวตี้ถือเป็นเกมอันดับหนึ่งในวงการ จากยอดรายได้ในวันแรกที่ทำได้ถึง 400 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามเกมแบทเทิลฟิลด์ 3 ของเราได้ออกแบบมาเพื่อโค่นล้มคอลออฟดิวตี้"
นอกจากการยืนยันว่าจะนำแบทเทิลฟิลด์ 3 มาโค่นล้มเกมคอล ออฟ ดิวตี้ "จอห์น" ได้พูดถึงงบประมาณด้านการตลาดที่จะใช้โปรโมทเกมแบทเทิลฟิลด์ 3 หรือเกม คอลออฟดิวตี้ ภาคต่อไปว่าจะมียอดมหาศาล โดยคาดว่าจะใช้งบโปรโมทมากกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับเกมฟอร์มยักษ์ที่จะเปิดตัวสู่ตลาด
จอห์นได้พูดถึงสื่อวิดีโอเกมว่ามีอิทธิพลในแง่ของการยึดติดจดจ่อมากกว่าสื่อชนิดอื่น โดยระบุว่าเวลาที่เล่นเกมผู้เล่นมักจะไม่ทำอะไรอย่างอื่นเลย แต่หากดูโทรทัศน์ หรือใช้อินเทอร์เนทอยู่นั้นผู้ใช้มักจะทำกิจกรรมอย่างอื่นผสมด้วย
โฆษณาในเกมกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งอิทธิพลที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จอห์นระบุว่า "บารัค โอบามา" ได้มาซื้อโฆษณาในเกมของอีเอหลายตัวเพื่อให้ได้คะแนนเสียงโหวตจากกลุ่มเด็กวัยรุ่น ซึ่งผลที่ได้กลับมาก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดี
การใส่โฆษณาลงไปในเกม จอห์นอธิบายว่าไม่ใช่การใส่โฆษณาขนาดใหญ่หรือสินค้าลงไปขณะเล่นเกม แต่เป็นการใส่ลงไปในเกมช่วงก่อนที่จะเข้าไปเล่นเกมหรือหลังจากการเล่นเกม ซึ่งในปัจจุบันเกมเมอร์จะเข้าใจได้ว่าจะมีโฆษณาต่างๆอยู่ในช่วงดังกล่าว
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamasutra.com
