บอลล์เมอร์ผู้บริหารไมโครซอฟท์เผยแนวคิดล่าสุด มอง Xbox360 ไม่เป็นแค่เครื่องเกมคอนโซลอีกต่อไปแล้ว ชูธงเป็นศูนย์กลางความบันเทิงครอบครัว หลังอุปกรณ์กล้อง Kinect ไปได้สวยในตลาด พร้อมลือไมโครซอฟท์ขยายฐานสู่พีซีเร็วๆนี้ด้วยชุดพัฒนา Kinect
“สตีฟ บอลล์เมอร์”ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไมโครซอฟท์ให้สัมภาษณ์กับ USA Today เกี่ยวกับประเด็นเรื่องกล้องจับความเคลื่อนไหว Kinect ที่ใช้งานควบคู่กับเครื่องเกมคอนโซล Xbox360 ที่ปฏิวัติการเล่นเกมโดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ แต่เปลี่ยนไปใช้อวัยวะของร่างกายและน้ำเสียงของผู้เล่นมาเป็นปัจจัยในการควบคุมว่า เครื่อง Xbox ไม่ใช่แค่เกมคอนโซลธรรมดาๆตัวหนึ่ง แต่ Xbox คือศูนย์กลางความบันเทิงของครอบครัว เหมือนเป็นสังคมๆหนึ่งที่สามารถดูทีวีได้ อย่างHulu ก็กำลังจะมาเปิดให้บริการ มันถือเป็นระบบเดียวที่ให้คุณเป็นคอนโทรลเลอร์ ทั้งเสียง,กิริยาท่าทาง และร่างกายของคุณ
CEO ไมโครซอฟท์เปิดเผยต่อสำหรับ Xbox360 และเจ้า Kinectที่ขายดีเกิน 8 ล้านชุดไปแล้ว โดยยกตัวอย่างครอบครัวของตัวเองฟังว่า เมื่อก่อนเมียเขาเคยบ่นว่า ไม่ๆนั้นมันเป็นเครื่องสำหรับเด็กผู้ชายเขาเล่นกัน แต่ในตอนนี้เธอกลับคำพูดเสียใหม่ว่า เธอต้องการจะใช้มันดูหนัง และเล่นเกมเต้นซะแล้ว
“มันเป็นการเปิดประตูสู่ความบันเทิงสำหรับครอบครัวด้วย Kinect คุณควบคุมระบบด้วยตัวคุณ หรือเสียง พวกเราได้เปิดทางสู่โลกของคอนเทนต์ทั้งรายการทีวี และหนัง คุณอาจจะหย่อนก้นลงนั่งและพูดว่า Xbox หรือ play movie”บอลล์เมอร์กล่าว
ผู้บริหารไมโครซอฟท์เผยอีกว่า คุณอาจจะเห็นเด็กผู้ชายอายุเฉลี่ยสัก 15 ปี พูดว่า เขาอยากจะได้ Xbox สักเครื่อง ความจริงแล้วบอลล์เมอร์ก็ต้องการให้เด็กหญิงอายุ 15 ปีมีความตื่นเต้นไปกับ Kinect เช่นเดียวกัน โดยพวกเขายังทำมันได้ไม่ดีพอเพื่อให้ครอบคลุมกับประชากร
ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์ได้รวบรวมความบันเทิงต่างๆใส่ลงไปใน Xbox360โดยไม่ได้เจาะจงเฉพาะเกมเท่านั้น อย่าง Sky Player, Last.fm, Facebook หรือTwitter ส่วนผู้ที่เคยมีนโยบายในการผลักดันเกมคอนโซลให้เป็นความบันเทิงในบ้านมาก่อนก็คือ "เคน คุตารางิ" อดีตประธานบริษัทโซนี่ คอมพิวเตอร์ เอนเตอร์เทนเมนต์
นอกจากนี้ ก็ยังมีข่าวลือว่า ทางไมโครซอฟท์จะปล่อยชุดโปรแกรมพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Kinect และไดร์ฟเวอร์อย่างเป็นทางการสำหรับระบบปฏิบัติการวินโดวส์บนพีซีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดของบอลล์เมอร์ก่อนหน้านี้ในงาน CES ที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก...
www.usatoday.com
www.winrumors.com