ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งปลายปี เครื่องเล่นเกมเป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้บริโภคจะเลือกซื้อเป็นเจ้าของมากที่สุด จากความนิยมดังกล่าว ก็เป็นเงาสะท้อนได้อย่างดีว่าเครื่องเกมก็เป็นสิ่งที่เหล่าหัวขโมยจ้องจะฉกมากที่สุดด้วยเช่นกัน ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ข้อมูลของ FBI ระบุว่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา อัตราการขโมยเครื่องเกมเพิ่มสูงขึ้นเกือบสี่เท่า หรือคิดเป็นประมาณ 285 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับอัตราการขโมยในปี 2007
ข้อมูลจาก FBI เปิดเผยว่าในปี 2007 มีการขโมยเครื่องเกมเกิดขึ้น 11,074 ครั้ง จากนั้นในปี 2008 ก็มีอัตราเพิ่มขึ้นเป็น 21,732 ครั้ง และในปี 2009 ก็มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอีกเป็น 42,615 ครั้ง โดยในช่วงเทศกาลวันหยุดช้อปปิ้งปลายปี จะเป็นช่วงที่มีการขโมยเกิดขึ้นมากที่สุด
"Larry J. Siegel" นักอาชญวิทยา จากยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ แมซซาชูเซส กล่าวว่า "การขโมยเครื่องเกมสามารถอธิบายถึงหลักเหตุผลได้ พวกโจรจะขโมยสิ่งที่มีมูลค่าสูง พกพาได้สะดวก และสามารถขายต่อให้คนอื่นได้ง่าย ของที่มีราคาแพงที่สุดในบ้านผมคือตู้เย็น แต่ไม่มีใครหรอกที่จะพยายามจะขโมยตู้เย็น"
เครื่องเกมไม่ใช่สินค้าอิเลคทรอนิคส์เพียงอย่างเดียวที่มีอัตราการถูกขโมยเพิ่มสูงขึ้น สินค้าอิเลคทรอนิคส์ ประเภทอื่นอย่าง โทรทัศน์ , กล้อง และแลปท้อป ก็มีอัตราถูกขโมยเพิ่มสูงขึ้นตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ยกตัวอย่าง ในปี 2007 มีอัตราการขโมยแลปท้อปเกิดขึ้น 96,834 ครั้ง จากนั้นในปี 2009 มีอัตราการขโมยเพิ่มขึ้นถึง 128,280 ครั้ง ส่วนโทรทัศน์มีอัตราการขโมยในปี 2007 ประมาณ 27,176 ครั้ง จากนั้นในปี 2009 มีอัตราการขโมยเพิ่มขึ้นเป็น 78,227 ครั้ง อย่างไรก็ตามทาง FBI ได้ระบุเกี่ยวกับภาพรวมว่าในช่วงหลังคดีการขโมยทรัพย์สินมีอัตราลดลง จากในปี 2006 ที่มีการขโมยทรัพย์สินเกิดขึ้น 10 ล้านครั้ง พอมาในปี 2008 การขโมยทรัพย์สินก็เหลือ 9.8 ล้านครั้ง
จากอัตราการขโมยที่เพิ่มสูงขึ้น มีผลกระทบให้อัตราการเป็นเจ้าของเครื่องเกมเพิ่มสูงขึ้นในช่วงสามปีที่ผ่านมา จากการศึกษาครั้งใหม่จาก Deloitte พบว่าในปี 2007 ครัวเรือนในสหรัฐ 44 เปอร์เซนต์จะมีเครื่องเกมเป็นของตัวเอง จากนั้นในปี 2009 อัตราครัวเรือนที่มีเครื่องเกมเป็นของตัวเองเพิ่มสูงขึ้นถึงเกือบ 60 เปอร์เซนต์
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot.com
gamesindustry.biz
gamasutra.com