แม้“แกรนด์ เตฟต์ ออโต้” หรือ GTAจะเป็นวิดีโอเกมตัวหนึ่งที่ถูกหมายหัวจากสังคมในเชิงลบอย่างเสมอต้นเสมอปลายมาโดยตลอด แต่ก็มิอาจทำให้เหล่าทีมพัฒนารู้สึกท้อแท้ใจเลิกสร้างภาคต่อออกมาปั่นป่วนสมาคมผู้ปกครอง เกมภาคล่าสุด “GTA IV”ที่ออกมาจำหน่ายเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เพียงแค่สัปดาห์แรกก็ทำรายได้ถล่มทลายกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ (16,700ล้านบาท) ล่าสุดสื่ออังกฤษ “ไทม์ส ออนไลน์”ได้สัมภาษณ์หนึ่งในพี่น้องตระกูลเฮาเซอร์เกี่ยวกับผลงานภาคที่ 5 ของซีรีส์นี้
“แดน เฮาเซอร์” หนึ่งในทีมโปรดิวเซอร์ของร็อกสตาร์ เกมส์ในสังกัดเทค-ทู เปิดเผยถึงการทำเกมภาคใหม่ว่า ปกติแล้วพวกเขามักจะคิดถึงเมืองๆหนึ่งก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นค่อยขยับมาเป็นตัวละคร โดยตัวเขาเองจะร่วมเขียนบทขึ้นมาราวๆ 1,000 หน้า ซึ่งเกือบเป็น 10 เท่า พอๆกับภาพยนตร์เรื่องหนึ่งทีเดียว
แดนกล่าวถึงความรุนแรงของเกมว่า ในท้ายที่สุดแล้วทีมงานก็กำลังเดินหน้าออกมาจากกระแสต่อต้าน เมื่อผู้เล่นมีวัยเลย 30 แล้ว ดังนั้น ทั้งหมดมันจะกลายเป็นสิ่งที่ดูไร้สาระไป พวกเขาไม่เคยพูดเลยว่าทุกเกมเหมาะสำหรับคนทุกคนในสังคม ปกติแล้วเกม GTA ก็ติดเรตอายุผู้เล่นเกิน 18ปี ซึ่งพวกเขาก็รู้สึกโอเคกับมันอยู่แล้ว พวกเขาค่อนข้างผิดหวังเมื่อมีสื่อบันเทิงที่เป็นวิดีโอเกมเพียงตัวเดียวถูกตราหน้า ขณะที่ภาพยนตร์ผ่านฉลุย อย่างเกม “แมนฮันต์2”(Manhunt 2) ถูกแบนในสัปดาห์เดียวกับหนังโหดๆอย่าง “ซอว์”(Saw)ออกฉาย ตัวเขารู้สึกขบขันเมื่อคนมักโต้เถียงว่าเกมมีความเป็นอันตรายมากกว่าวิดีโอที่เป็นถ่ายมาให้เห็นกันจะๆ
ผู้สร้าง GTA เผยความรู้สึกต่อว่า บางครั้งพวกเขาก็รู้สึกว่าผลงานเกมที่ทำมาเหมือนถูกสังคมตีตราในเชิงชั่วช้า ทั้งๆที่ต้องการจะบอกเรื่องราวเกี่ยวกับตัวละคร เหมือนหนังเรื่อง GoodFellas ของมาร์ติน สกอร์เซซี่ ที่มีเนื้อหาใจความคล้ายกัน เมื่อตัวละครดันเป็นอาชญากร
ทั้งนี้ แดนได้ยอมรับว่า ภายในภาคเสริม GTA4 ที่ชื่อ The Ballad of Gay Tony เขาได้ใส่นักแซ็กโซโฟนคนหนึ่งในสวนสาธารณะที่เมือง Liberty City นั่นก็คือ “พ่อ”ของเขานั่นเอง ในฐานะที่เป็นศิลปินแจ๊สคนหนึ่งในวงการเพลง
ข้อมูลจาก...
www.industrygamers.com
technology.timesonline.co.uk
