xs
xsm
sm
md
lg

Review: "Wii Fit Plus" แท่นอัศจรรย์สุดหรรษา ฉบับอัปเดต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


Rate ESRB E สำหรับผู้มีอายุ 6 ปีขึ้นไป
หลังจากเครื่อง Wii กำเนิดเกิดขึ้นมาบนโลก นิยามของวงการเกมได้เปลี่ยนไป เครื่องเกมที่แต่เดิมถูกมองว่าเป็นเครื่องทำลายสุขภาพ กลายมาเป็นเครื่องสร้างสุขภาพ และการเป็นเครื่องออกกำลังกายถูกตอกย้ำด้วย Wii Fit ที่มาพร้อมกับ “แท่นอัศจรรย์สุดหรรษา” (แท่นวี บาลานซ์ บอร์ด) ที่จับการเคลื่อนไหวที่เท้า แล้วนำไปสู่การออกกำลังกาย ที่ทั้งสนุกและเพลิดเพลินไปกับเกมต่างๆ วันเวลาผ่านไป แม้ว่าจะมีเกมออกกำลังกายตามออกมาอีกมากมายหลายเกม แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับ Wii Fit ได้ และเพื่อสานต่อความสำเร็จ ปู่นินจึงได้ออกภาคต่อเพื่อมาเพิ่มสมบูรณ์ของเกมที่เรียกง่ายๆว่า Wii Fit Plus


ก่อนอื่นขอเกริ่นกันสักนิดสำหรับผู้ที่ไม่เคยเล่นภาคแรกว่า Wii Fit คือ เกมออกกำลังกาย ที่จำหน่ายพร้อมแท่นวี บาลานซ์ บอร์ดที่มีความสามารถในการจับการเคลื่อนไหวของร่างกายที่เท้า เพื่อกำหนดเป็นรูปแบบการออกกำลังกายต่างๆได้หลายแบบ ทั้ง โยคะ กายบริหาร เกมสันทนาการ และการฝึกการทรงตัว โดยมีการตรวจจับที่แม่นยำ และมีครูฝึกมาบอกการออกท่าทางต่างๆ ทำให้การออกกำลังกายเกิดผลสูงสุด เหมือนได้เข้าฟิตเนส (ถ้าอยากรู้จัก Wii Fit ภาคแรกแบบละเอียด ติดตามอ่าน รีวิว Wii Fit ภาคแรกได้ที่ WiiFit แท่นอัศจรรย์สุดหรรษา)

แต่ก็ต้องยอมรับกันตรงๆว่าเวลาผ่านไปเกือบ 2 ปี ผู้เขียนเองก็ไม่ได้เอา Wii Fit มาเล่นเป็นประจำเท่าไรนัก อาจเป็นเพราะภาคแรกไม่มีการจัดระบบ ระเบียบการออกกำลังกายให้เป็นแบบแผนเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงทำให้ผู้เล่นไม่สามารถสร้างโปรแกรมการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดได้ และเกมที่ทำเพื่อ สันทนาการ ก็มีน้อยเกิน แถมเกมส่วนใหญ่ก็เล่นได้คนเดียว ทำให้แท่นวี บาลานซ์ บอร์ดอาจกลายเป็นที่ทับกระดาษ หรือซุกอยู่ใต้เตียงของใครหลายคน

มาในภาคนี้ ทุกอย่างดูจะเหมือนเดิม เพราะสำหรับผู้ที่ไม่มีภาคแรก ต้องทำการตั้งค่า และทดสอบเพื่อวัดค่า BMI (Body Mass Index)หรือ ดัชนีมวลกาย และมีแบบทดสอบความสมดุล เพื่อวัดอายุร่างกายของผู้เล่น ส่วนถ้าเคยเล่นภาคแรกแล้ว จะสามารถสานต่อได้จาก Save ภาคแรกได้เลย โดยจะมีเกมเพื่อวัดความสมดุลของร่างกายแบบใหม่ให้ผู้ที่เคยเล่นแล้วได้เล่นกันอีก รวมทั้งหมด 10 เกม โดย วี บาลานซ์ บอร์ด สามารถรับน้ำหนักได้ 150 กิโลกรัม(เวอร์ชั่น USA และเกาหลี) และ รับได้ 136 กิโลกรัม ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น

โดยเกมส่วนใหญ่ยังคงเหมือนกับภาคแรก ส่วนสิ่งที่เพิ่มมาในภาคนี้ คือ ท่ากายบริหารท่าใหม่ และท่าโยคะใหม่ๆ ส่วนเกมใหม่มีอยู่ในโหมด Training Plus ที่มีมาให้เล่นอีก 15 เกม โดยมีบางเกมที่สนุกมาก เช่น เกม Obstacle Course ที่เหมือนให้เราเล่นมาริโอ โดยใช้ บาลานซ์ บอร์ด เดินและกระโดดผ่านด่านที่เต็มไปด้วยเหวและกับดัก , เกมปั่นจักรยาน และ ขับรถ Sagway ที่ต้องใช้ วีโมตร่วมกับบอร์ดเพื่อควบคุม ส่วนเกมอย่างสเก็ตบอร์ด ก็ให้ไปยืนบนบอร์ดแล้วใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายเพื่อบังคับ และเกมปาหิมะที่ทั้งสนุกเพราะได้ปาหิมะโดยเล็งยิงจากวีโมต และหลบการปาของคู่ต่อสู้โดยการขยับตัวบนบอร์ด

นอกจากนี้ยังมีเกมที่ได้ฝึกสมองอย่าง Perfect10 ที่ต้องบวกเลขให้ได้ตามที่กำหนดโดยใช้การเคลื่อนไหวร่างกายไปโดนลูกบอลที่มีจำนวนตัวเลข ส่วนเกม Tilt City ที่ต้องขยับเท้าบนบอร์ดกับวีโมต เพื่อบังคับแท่นเพื่อเปลี่ยนทิศทางลูกระเบิดต่างสีให้ไปลงท่อที่ถูกต้องจะเกิดพลุที่สวยงาม และเกมที่เราต้องใส่ชุดไก่แล้ว บินไปยังเป้าหมายเพื่อเก็บแต้มทำเวลาโดยเราต้องยืนบนบอร์ด แล้วออกท่าทางให้เหมือนไก่กระพือปีก โดยการบินใช้การเอียงตัวเพื่อกำหนดทิศทาง และเกมที่เราต้องรับบทเป็นดรัมเมเยอร์ โดยต้องใช้การเขย่านันชักกับวีโมตเป็นตัวกำหนดตามจังหวะที่เกมกำหนดมา พร้อมทั้งเดินอยู่กับที่บนบอร์ด

ยังมีเกมกังฟูที่ให้เราออกกำลังกายได้ทั้งแขนและขาโดยการขยับตามจังหวะเหมือนรำมวยจีนบนบอร์ด และใช้วีโมตกับนันชักเพื่อทำท่าทาง ตัวเกมยังมีเกมฝึกไดร์ฟกอล์ฟ ที่ไม่ใช่แค่สวิง แต่ต้องวางเท้าให้ถูกด้วย และเกมที่ให้เราต้องทรงตัวบนบอลพร้อมกับโยนลูกบอลสลับกันแบบ juggle ส่วนเกมที่มาจากภาคที่แล้ว เช่น เกมวิ่ง และฝึกการทรงตัวก็อัปเกรดมาให้เล่นกัน ส่วนของแถมเล็กๆน้อยๆ คือ โหมดสัตว์เลี้ยงที่คุณสามารถวัดน้ำหนักน้องหมาน้องแมวของคุณได้โดยคุณต้องอุ้มน้องหมาไว้ขณะยืนบนบาลานซ์ บอร์ด ที่ดูไร้สาระไปสักหน่อย และโหมดเล่นหลายคนเป็นแบบผลัดกันเล่นที่ดูธรรมดาไปนิด

จุดเด่นของภาคนี้ที่ลบข้อด้อยของภาคที่แล้วคือโหมด Wii Fit Plus Routines โดยมีรูปแบบการออกกำลังกายที่จัดมาให้ตามรูปแบบการใช้ชีวิต และความต้องการของคุณ ไม่ว่าคุณจะเล่นเพื่อผ่อนคลาย หรือเล่นเพื่อลดน้ำหนักเฉพาะจุด เพียงแค่คุณเลือก เกมจะจัดโปรแกรมออกกำลังกายมาเป็นชุด ซึ่งถ้าไม่ชอบ ยังมีโหมด My Routines ที่สามารถจัดรูปแบบได้ตามใจคุณ ที่สำคัญมีโหมดอาหารที่จะบอกแคลอรี่อาหารที่คุณทานไป และยังมีโหมดเผาผลาญแคลอรี่ของอาหารที่คุณทานไปอีกด้วย ส่วนข้อเสียยังคงเป็นระบบภาพและเสียงที่เหมือนไม่ได้มีการพัฒนาจากภาคที่แล้ว แม้จะบอกว่าไม่ใช่สิ่งสำคัญแต่น่าจะทำให้ดูดีขึ้นสักนิด โดยเฉพาะการออกกำลังกายบางจุดถ้ามีดนตรีที่สนุกเร้าใจ จะสร้างแรงผลักดันให้อยากออกกำลังได้ดีกว่านี้

สรุปแล้ว Wii Fit Plus อาจเป็นเกมที่แย่ แต่เป็นเครื่องออกกำลังกายที่ดีมาก ยิ่งภาคนี้มีการใส่รูปแบบการฝึกไว้เรียบร้อย จึงส่งผลให้ Wii Fit Plus ยังคงเป็น “เครื่องออกกำลังกายที่สามารถเล่นเกมได้” และสำหรับราคาแท่นวี บาลานซ์ บอร์ด ตอนนี้ประมาณ 3,900 บาท ถือว่าไม่แพงมากนัก เพื่อแลกกับสุขภาพที่ดี นับว่าคุ้มค่า เพราะมีเกมอื่นนอกจาก Wii Fit ที่รองรับเจ้าแท่นวี บาลานซ์ บอร์ด นี้ ส่วนถ้าจะถามว่าเล่นแล้วน้ำหนักจะลดลงจริงหรือเปล่านั้น คงต้องขึ้นอยู่กับคุณเองว่ามีระเบียบวินัยแค่ไหน เพราะบอร์ดเป็นเพียงอุปกรณ์ ไม่ใช่ยาวิเศษที่จะเสกคุณให้ผอม แต่ถ้าคุณทำตามขั้นตอนที่เกมสร้างมาให้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง รับประกันได้ว่า นอกจากคุณจะผอมแล้ว คุณยังได้สนุกไปกับเกมอีกด้วย

ข้อดี : เกมออกกำลังกายใหม่ๆที่สนุก ,มีระบบจัดการที่ดี
ข้อเสีย : แต่บางเกมก็น่าเบื่อ กราฟิกไม่พัฒนา
คำเตือน : ใครเลี้ยง ล็อตไวเลอร์ (ที่โตแล้ว)อย่าเผลออุ้มมายืนบน บอร์ด

เกมการเล่น8.7
กราฟิก6.5
เสียง6.5
การควบคุมบังคับ8.5
ความคุ้มค่าเครื่องออกกำลังกายที่เล่นเกมได้
ภาพรวม8


Darth.Vader (วงศกร ปฐมชัยวัฒน์)
ติดตาม twitter ผู้เขียนได้ที่ http://twitter.com/darthdome
NEXT REVIEW Uncharted 2 among-thieves (PS3)
สนับสนุน บทความโดย ร้านเกม 4 Player ชั้น 6 เซ็นทรัลปิ่นเกล้า
(ใกล้โรงหนังชั้นบน โซนตู้เกม และคาราโอเกะ)
โทร 02 -884-5545










กำลังโหลดความคิดเห็น