ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากวิดีโอเกมแอ็คชันชูตติ้งมุมมองบุคคลที่สามในตำนานเรื่องล่าสุด "Max Payne" ดูเหมือนว่าจะไปได้สวยในบ็อกซ์ออฟฟิศที่สามารถทำได้รายอันดับหนึ่งประจำสัปดาห์ไปครองได้แบบเหนือความคาดหมาย 18 ล้านเหรียญสหรัฐ ท่ามกลางหนังน่าสนใจหลายๆเรื่อง
"Max Payne" ในภาควิดีโอเกมนั้นถูกสร้างด้วยฝีมือทีมพัฒนาเกมชาวฟินแลนด์ “Remedy Entertainment”ออกมาวางจำหน่ายในปี 2001 บนเครื่องพีซี จากนั้นจึงพอร์ตมาออกบน Xbox และ PS2 โดยทางค่ายร็อกสตาร์ เกมส์เป็นผู้จัดจำหน่าย ส่วนภาคสอง “Max Payne 2: The Fall of Max Payne” ถูกส่งออกมาขายในปี 2003 เรียกว่าตัวเกมมีความโดดเด่นทั้งคาแร็กเตอร์,ฉากแอ็คชันที่แตกต่าง และเรื่องราว ส่งผลให้เกมในซีรีส์นี้ขายดีกว่า 7 ล้านชุดทั่วโลก เทคนิคหนึ่งที่สร้างเอกลักษณ์และเป็นที่จดจำของแฟนเกมทั่วโลกก็คือ “Bullet time” ที่สโลโมชันภาพการต่อสู้อย่างช้าๆแบบหนังของ “จอห์น วู” ยังไงยังงั้น
สำหรับ "Max Payne" (แม็กซ์ เพย์น ฅนมหากาฬถอนรากทรชน)ในเวอร์ชันภาพยนตร์นั้น ได้ตัวดาราหนุ่มมาดเท่ “มาร์ค วอห์ลเบิร์ก”มารับเป็นนายตำรวจที่ต้องออกค้นหาผู้ที่ฆ่าภรรยาและลูก โดยมี “จอห์น มัวร์”มานั่งแท่นกำกับ ขณะที่ภาพยนตร์ที่คาดว่าจะทำได้รายในช่วงก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ "W." หนังอัตชีวประวัติของ “จอร์จ ดับเบิลยู บุช” จากฝีมือผู้กำกับสุดเก๋า “โอลิเวอร์ สโตน”กลับทำได้แค่อันดับที่ 4 เท่านั้น ด้วยจำนวนรายได้ 10.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
ด้านแชมป์เก่าเมื่อสัปดาห์ก่อน “Beverly Hills Chihuahua” ยังเกาะตำแหน่งที่ 2 เอาไว้ได้ ทำรายได้เพิ่มไปอีก 11.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามมาด้วยหนังเข้าใหม่ “The Secret Life of Bees” 11.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ หากวัดความสำเร็จจากการดัดแปลงเกมมาเป็นหนังก็ถือว่า "Max Payne” เจริญรอยตาม "Tomb Raider" ที่มีแองเจลินา โจลีมาสวมบทเป็นสาวตูม “ลาร่า ครอฟต์” ซึ่งได้รับความนิยมในการเข้าฉาย แต่โดนสับแหลกจากบรรดาเกมเมอร์
ข้อมูลจากและภาพประกอบจาก...
สำนักข่าวรอยเตอร์
สำนักข่าว AFP
www.boxofficemojo.com