หลังจากความสำเร็จของเกมยานยิง "กราดิอุส" ภาคแรก ค่ายโคนามิก็ได้ทดลองระบบและลูกเล่นใหม่ๆจนกลายเป็นตอนพิเศษ "ซาลามันเดอร์" ขึ้นมา ก่อนจะถึงคิวของภาคต่ออย่างแท้จริงที่ปรับปรุงในทุกๆด้านจนกลายเป็นสุดยอดเกมยิงของยุคนั้น "กราดิอุส 2"
ในทีแรก "กราดิอุส" ได้มีภาคต่อลงบนเครื่อง MSX ก่อนใคร โดยใช้ระบบ,เนื้อเรื่องและศัตรูเฉพาะของตัวเอง ก่อนจะมีการสร้าง "กราดิอุส 2" จริงๆลงเกมตู้โดยใช้ระบบและเรื่องราวที่ต่างกัน ทั้งสองเกมจึงถูกเรียกแยกกันด้วยตัวเลขภาค ให้ฉบับ MSX ใช้เลข 2 อาราบิก ส่วนฉบับเกมตู้และที่แปลงลงแฟมิคอมจะใช้เลข II แบบโรมันแทน
เนื้อเรื่องของเกมยังคงวนๆอยู่กับการต่อสู้เพื่อปกป้องดาวเคราะห์กราดิอุสเช่นเดิม หลังจากการพ่ายแพ้ของกองทัพแบคทีเรียนผ่านไปเป็นเวลานาน ก็มีกองกำลังชั่วร้ายกลุ่มใหม่นำโดย "โกเฟอร์" เข้ามาโจมตี ทำให้เราต้องใช้ยานรบ "วิกไวเปอร์" ออกรบอีกครั้ง
วิธีบังคับหลักๆจะใช้ปุ่มทิศทางบนล่างซ้ายขวาขับยาน ปุ่ม B ยิงอาวุธและปุ่ม A เป็นการใช้แคปซูลพาวเวอร์อัพตามที่สะสมไว้ โดยในภาคนี้จะเพิ่มลูกเล่นใหม่ให้เราเลือกแถบพาวเวอร์อัพต่างกันได้ถึง 4 แบบกับอาวุธที่ไม่ซ้ำกันบางส่วน
อุปกรณ์หลักๆจะมี Speed up เร่งความเร็วของยาน สามารถใช้เพิ่มได้หลายขั้นแต่ก็ทำให้บังคับยากขึ้นด้วย, Option ตัวช่วยยิงที่ใช้อาวุธตามเราได้ทุกอย่าง มีได้สูงสุดถึง 4 ลูกเพิ่มจากภาคแรกที่มีแค่ 2 ลูก และ Force Field สร้างบาเรียรอบตัวช่วยรับกระสุนได้ระดับหนึ่ง
ส่วนของอาวุธภาคนี้จะแบ่งเป็นอาวุธรองที่เน้นการยิงขึ้นบนหรือลงล่างได้แก่ Missile, Spread Bomb, Photon Torpedo, 2 Way อาวุธหลักแบบเน้นทิศทางได้แก่ Double, Tail Gun และอาวุธหลักแบบเน้นพลังทำลายได้แก่ Laser, Ripple ทั้งหมดผสมกันเป็นชุดๆ 4 แบบให้ผู้เล่นเลือกใช้เอง
รูปแบบของทุกด่านจะเริ่มจากอวกาศโล่งๆ มียานศัตรูแบบโดนทีเดียวตายมาเป็นฝูงให้สอยเก็บแคปซูลเพิ่มพลัง ตามมาด้วยพื้นที่จริงๆของฉากที่มีอุปสรรคกับดักต่างกันไป ก่อนจะจบที่บอสด่านละ 1 หรือ 2 ตัวแล้ววนกลับไปห้วงอวกาศใหม่ ถ้าตายตรงไหนก็ต้องย้อนไปเริ่มจากจุดที่กำหนดไว้
ด่านแรกของเกมจะเริ่มจากเขตดวงอาทิตย์จำลอง มีเปลวไฟพวยพุ่งจากรอบด้านและศัตรูอย่างนกไฟ, มังกรไฟคล้ายกับฉาก 3 ของเกม "ซาลามันเดอร์" ตามด้วยด่านสองเป็นป้อมปราการหิน มีตาข่ายเส้นใยและเศษหินเล็กๆขวางทางให้ยิงฝ่าไป
ด่านที่สามจะเริ่มด้วยเขตภูเขาไฟแบบเดียวกับภาคแรก ส่วนครึ่งหลังจะเป็นกลุ่มก้อนคริสตัลพุ่งมาจากรอบทิศ และด่านสี่จะเป็นกองทัพรูปปั้นหิน "โมอาย" ยิงลำแสงรูปวงแหวนออกจากปาก เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของซีรี่ย์ที่แฟนๆรู้จักกันดี
เมื่อมาถึงด่านห้าจะเป็นการรวมมิตรบอสจากภาคอื่นๆมาให้สู้รวดเดียว และด่านหกจะเป็นป้อมปราการจักรกลที่ฉากเลื่อนไปด้วยความเร็วสูง มีพื้น, เพดานและกำแพงเคลื่อนที่ได้คอยบีบให้เราหลบหลีก จนถึงฉากสุดท้ายจะเป็นด้านในของสิ่งมีชีวิตคล้ายฉากแรกของเกม "ซาลามันเดอร์" ในแบบที่โหดกว่าเดิม
กราฟิกของเกมจัดได้ว่ามีการพัฒนาขึ้นในหลายจุด แก้ปัญหาภาพช้าลงและเพิ่มจำนวน Option จนใกล้เคียงต้นฉบับเกมตู้ ฉากหลังสามารถเปลี่ยนแปลงขยับไปมาได้เป็นอย่างดี แถมยังสร้างบอสแต่ละตัวออกมาได้ยิ่งใหญ่อลังการสมเป็นบอสจริงๆ
โดยรวมแล้ว ความยากของเกมมีการไล่ลำดับขึ้นไปได้ค่อนข้างดี ถึงยานจะมีอุปกรณ์เพียบแต่ถ้าเจอศัตรูยิงจากมุมอับก็หมดสิทธิ์รอดเหมือนกัน หรือถ้าพลาดตายไปเริ่มใหม่จากยานเปล่าๆก็ยังพอมีศัตรูให้เก็บแคปซูลใช้บ้าง ไม่ถึงกับหมดหวังซะทีเดียว
สำหรับสูตรในตำนาน "บนบน ล่างล่าง ซ้ายขวา ซ้ายขวา BA" ที่เริ่มใช้เป็นครั้งแรกในกราดิอุส 1 ก็ถูกนำมาใช้ต่อในภาคนี้เช่นกัน โดยเปลี่ยนจากการให้พาวเวอร์อัพครบชุด กลายเป็นสูตร 30 ตัวเหมือนเกมยอดฮิตอย่าง "คอนทรา" แทน
Gradius II -Gofer no Yabou-
เครื่อง: ฟามิคอม
ภาษา: ญี่ปุ่น 1988
บริษัท: Konami
แนวเกม: Shooting
จำนวนผู้เล่น: 1-2 คน
สูตรโกง (สปอยล์...หากต้องการดูให้กด Ctrl+A)
- ที่ไตเติ้ลกดคำสั่ง "บนบน ล่างล่าง ซ้ายขวา ซ้ายขวา BA" แล้ว Start จะเริ่มด้วยยาน 30 ลำ (ถ้าจะเล่น 2 คนกด Select ก่อน Start)
- ที่ไตเติ้ลกด AB Start พร้อมกันจะเข้า Sound Mode ให้เลือกฟังเพลงได้
**********************