โตชิบาแถลงข่าวใหญ่ล้มโปรเจกต์ “เอชดี-ดีวีดี” ลงอย่างเป็นทางการ เปิดโอกาสฟอร์แมตคู่แข่ง “บลู-เรย์” เป็นมาตรฐานใหม่ของสื่อบันทึกข้อมูลความจุสูง ประกาศปิดการโปรโมตสิ้นเดือนมี.ค.นี้ แต่พร้อมให้บริการหลังการขายต่อไปสำหรับ 1 ล้านเครื่องที่วางขายไปแล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข่าวล่าสุดในวันนี้ (20 ก.พ.)ว่าบริษัท “โตชิบา” เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเพื่อยุติการผลิตและโปรโมตสื่อบันทึกข้อมูลยุคใหม่ในฟอร์แมต “เอชดี-ดีวีดี” (HD DVD) หลังจากบรรดาสตูดิโอ,ค่ายหนัง และร้านจำหน่ายหันไปถือหางฟอร์แมต “บลู-เรย์ ดิสก์” (Blu-ray Disk) ที่มีโซนี่เป็นแกนนำ โดยโตชิบาระบุว่า บริษัทจะเริ่มลดจำนวนการส่งเครื่องเล่นเอชดี-ดีวีดีและเครื่องบันทึก (เครื่องไรท์)เพื่อจบธุรกิจนี้ภายในช่วงสิ้นเดือนหน้า
ทั้งนี้ นั่นก็หมายความว่าชัยชนะของบลู-เรย์ในครั้งนี้จะทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องเลือกว่าจะบริโภคสื่อใดสื่อหนึ่งอีกต่อไป และถูกมองว่าเป็นการแก้มือหลังจากฟอร์แมต “เบต้าแม็กซ์” (Betamax) ของโซนี่เคยพ่ายให้กับฟอร์แมต “วีเอชเอส” (VHS) ของพานาโซนิก ในศึกมาตรฐานวีดีโอคาสเซ็ตเมื่อปี 1980
“อะซึโตชิ นิชิดะ” ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทโตชิบากล่าวว่า มันค่อนข้างยากในการตัดสินใจเลิกล้มโครงการ แต่พวกเราก็เล็งเห็นว่ามันคงจะสร้างความหนักใจทั้งผู้บริโภคและหุ้นส่วนของเรา มันคงไม่ถูกต้องนักหากยังดันทุรังทำอยู่ต่อไป พวกเราจึงตัดสินใจยุติมันลง
อย่างไรก็ตาม โตชิบาจะยังคงให้บริการสำหรับผลิตภัณฑ์เอชดี-ดีวีดีที่ออกมาวางขายแล้วต่อไป เพียงแต่จะตัดส่วนของการโปรโมตลงไป
“ในตอนนี้ทางโตชิบายังไม่มีแผนที่จะผลิตและขายเครื่องเล่นบลู-เรย์” นิชิดะกล่าว
ก่อนหน้านี้ ทางฝั่งของเอชดี-ดีวีดีนั่นมีสตูดิโอต่างๆให้การสนับสนุนไม่ว่าจะเป็น ยูนิเวอร์แซล พิกเจอร์ของเอนบีซี ยูนิวเวอร์แซล,พาราเมาต์ พิกเจอร์ของเวียคอม และดรีมเวิร์กส์ แอนิเมชัน เอสเคจี แต่ในปัจจุบันก็กลับไปหนุนบลู-เรย์กันหมด ปัจจุบันโตชิบาขายเครื่องเล่นและบันทึกเอชดี-ดีวีดีไปได้แล้วราว 1 ล้านเครื่อง นับตั้งแต่เปิดขายเมื่อเดือนมี.ค.ปี 2006 และมีการขายไดร์ฟอ่านเอชดี-ดีวีดีแบบแยกขายเพื่อเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นเกมของไมโครซอฟท์ “เอ็กซ์บ็อกซ์360” (Xbox360) ทั้งนี้ โต้โผคนสำคัญอย่างโซนี่ได้ใช้ฟอร์แมตบลู-เรย์นำร่องตลาดมาพร้อมกับเครื่องเกม “เพลย์สเตชัน3”(PS3)เลย
ข้อมูลและภาพประกอบจาก...
สำนักข่าวรอยเตอร์