สำนักข่าวเอเอฟพีบุกไปสัมภาษณ์ “ริวตะ คาวาชิมะ”ศาสตราจารย์ทางด้านวิทยาศาสตร์วัย 48 ปีจากมหาวิทยาลัยโตโฮกุ ยูนิเวอร์ซิตี้ ผู้อยู่เบื้องหลังซอฟต์แวร์เกมตระกูลฝึกสมองสุดฮิต "brain training" บนเครื่องเกมพกพา “นินเทนโด ดีเอส” โดยที่เขาปฏิเสธที่จะอยู่เฉยๆในฐานะเศรษฐีเงินล้าน แต่ชอบที่จะใช้ชีวิตกับการทำงานเสียมากกว่า
“คาวาชิมะ” ยอมรับว่า ตัวเขาเป็นคนบ้างานคนหนึ่ง เขาไม่ค่อยมีเวลามากนักสำหรับเกม แต่ถึงแม้เขาจะยุ่งในการทำงาน แต่ก็พยายามคิดค้นสิ่งใหม่ๆขึ้นมาเพื่อรองรับกับจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศญี่ปุ่น
“ไม่มีเงินแม้แต่แดงเดียวที่เข้ากระเป๋าผม ทุกคนในครอบครัวมองว่าผมเพี้ยนไปหรือเปล่า แต่ผมก็บอกพวกเขากลับไปว่า ถ้าอยากจะได้เงินละก้อ...ให้ออกไปหากันเอาเอง”คาวาชิมะกล่าว
สำหรับเกมฝึกสมองของเขานั้น เป็นการรวบรวมเอาแบบทดสอบไอคิวต่างๆมารวมเอาไว้ด้วยกันบนเครื่องเล่นเกม เพื่อให้ประชาชนพยายามที่จะชะลอการเป็นโรคอันเนื่องมาจากความแก่ชรา ทั้งนี้ เฉพาะค่าส่วนแบ่งจากการคิดค้นเกมฝึกสมองบนดีเอสก็มีมูลค่าถึง 2,400 ล้านเยน หรือประมาณ 750 ล้านบาท ด้วยยอดจำหน่ายเกมทั่วโลกราว 17 ล้านชุด นับตั้งแต่ออกมาจำหน่ายครั้งแรกในเดือน เม.ย. ปี 2005
คาวาชิมะระบุว่า ด้วยชีวิตสมรสกับลูกชาย 4 คน เขาก็มีความสุขดีอยู่แล้วกับเงินเดือนปีละประมาณ 11 ล้านเยน (3.5 ล้านบาท) และเขาก็บอกว่า เมื่อได้ยินตัวเลขส่วนแบ่งจากเกมแล้วหลายคนคงอยากจะลาออกจากงานประจำ แต่สำหรับเขาแล้วงานอดิเรกของเขาก็คืองาน หากเขามีเวลาว่างเมื่อไหร่ เขาก็คิดแต่การมุ่งมั่นทำงานวิจัย
คาวาชิมะเปิดเผยว่า เขาเริ่มที่จะสนใจเกี่ยวกับสมองมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น เขาต้องการที่จะเอาสมองของเขาเองใส่ลงไปในคอมพิวเตอร์ ด้วยความคิดที่อยากจะเห็นวาระสุดท้ายของมวลมนุษยชาติ และในส่วนของเงินที่ได้มากจากส่วนแบ่งนั้น เขาก็จะนำเงินไปเป็นทุนในการวิจัย เขาได้สร้างห้องแล็บที่สถาบันแห่งการพัฒนาทางด้านความชราภาพและมะเร็งภายในมหาวิทยาลัยเป็นจำนวนเงินถึง 300 ล้านเยน และยังมีแล็บอื่นๆอีกด้วยมูลค่า 400 ล้านเยน มีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนมี.ค.นี้
“คนทั่วไปสามารถฝึกสมองของตัวเองได้ เหมือนอย่างที่เขาฝึกฝนกับร่างกายของเขานั่นแหละ”คาวาชิมะกล่าว
คาวาชิมะยังเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวอีกว่า แม้ว่าเขาจะร่วมพัฒนาเกมกับนินเทนโด แต่เขาก็ตั้งกฎขึ้นมาสำหรับลูกชายทั้ง 4 คน อายุตั้งแต่ 14-22 เล่นเกมในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยให้เล่นได้แค่อาทิตย์ละ 1 ชั่วโมง ครั้งหนึ่งเขาก็เคยทำลายแผ่นเกมแผ่นหนึ่งมาแล้ว หลังจากลูกๆแหกกฎ ด้วยความกลัวที่ลูกๆจะเล่นเกมนานเกินไป ตัวเขาเองไม่ได้คิดว่าการเล่นเกมเป็นสิ่งเลวร้าย แต่มันก็สามารถทำให้เด็กๆไม่สามารถทำอะไรได้ในอย่างที่ควรจะทำ อาทิ การเรียนหนังสือ และการสื่อสารกับครอบครัวได้
นอกจากนี้ คาวาชิมะได้กล่าวถึง ผลงานวิจัยล่าสุดของเขาร่วมกับทางโตโยต้า มอเตอร์เพื่อพัฒนารถสำหรับคนขับที่สูงอายุ เพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น ด้วยจุดประสงค์ที่ว่าสักวันหนึ่งเขาก็ต้องแก่
ข้อมูลและภาพประกอบจาก...
สำนักข่าว AFP