นินเทนโด เปิดเผยผลประกอบการในช่วง 9 เดือนสิ้นสุดปี 2007 ทำรายได้ 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ(396,000 ล้านบาท) เครื่อง DS สามารถขายได้มากกว่า 24 ล้านเครื่อง ขณะที่ Wii เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ปลายปี 2006 ปัจจุบันทะลุ 20 ล้านเครื่องไปแล้ว
ในช่วงปีที่ผ่านมา ถือเป็นขาขึ้นอย่างแท้จริงของบริษัทเกมนินเทนโด เครื่องเกมตัวใหม่ทั้ง 2 ตัว ได้แก่ Wii(วี) และ DS มีกระแสความต้องการสูงมาก จนเกิดภาวะขาดตลาดไปทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่าความต้องการจำนวนมากดังกล่าวจะไปส่งผลดีต่อผลประกอบการของนินเทนโด
นินเทนโด เปิดเผยผลประกอบการในช่วง 9 เดือน(เม.ย.-ธ.ค. 2007) ปรากฏว่ามีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนถึง 1 เท่าตัว โดยในปี 2006 มีรายได้ในช่วง 9 เดือน 6,700 ล้านเหรียญสหรัฐ(221,100 ล้านบาท) แต่เมื่อถึงปี 2007 มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ(396,000 ล้านบาท) ซึ่งคิดเป็นรายได้สุทธิ 2,400 ล้านเหรียญสหรัฐ(79,200 ล้านบาท) มากกว่าปี 2006 ที่มีรายได้สุทธิ 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ(39,600 ล้านบาท)
เครื่องเกมพกพา DS ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยหนุนรายได้ข้างต้น ระหว่าง 9 เดือนเครื่อง DS สามารถขายได้ทั่วโลกถึง 24.5 ล้านเครื่อง ส่วนเครื่องวี สามารถขายออกไปได้แล้วมากกว่า 20 ล้านเครื่องตั้งแต่เริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2006
อีกหนึ่งแรงหนุนที่ลืมไม่ได้เลยคือส่วนของซอฟต์แวร์ ซึ่งนินเทนโดได้เกมยอดนิยมหลายตัวคอยสนับสนุนอยู่ ได้แก่ Wii Fit , Super Mario Galaxy และ Mario Party 8 นอกจากนั้น Wii Sports ที่ขายเป็นแพคเกจพร้อมกับเครื่องเกม และ Wii Play ที่ขายพร้อมกับจอยบังคับ ก็เป็นส่งเสริมที่ดีให้กับนินเทนโดอีกต่อหนึ่ง
เครื่องเกมพกพา DS ทำยอดขายได้ดีอย่างเทน้ำเทท่า ก็ต้องพึ่งพาซอฟต์แวร์ที่น่าสนใจด้วยเช่นกัน โดยมีดาราชูโรงอย่าง "The Legend of Zelda: Phantom Hourglass" และ "Mario Party DS" นอกจากนั้นยังมีซอฟต์แวร์เกมที่ออกมานานแล้ว แต่ยังได้รับความนิยมอยู่คอยหนุนอยู่ อย่าง "Nintendogs" และ "New Super Mario Bros."
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
www.gamespot.com
