xs
xsm
sm
md
lg

"Dragon Quest 4" (DS) ตำนานผู้กล้าบนมือคุณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




ถ้าพูดถึงเกม ภาษา หรือ RPG ที่ข้ามกาลเวลามาจนถึงปัจจุบัน โดยรูปแบบของเกม ยังคงรูปแบบเดิมไม่เคยเปลี่ยน คงต้องนึกถึง Dragon Quest เกม RPG ที่มีรูปแบบดั้งเดิมมาตลอด แถมยังได้รับความนิยม (ในญี่ปุ่น) อย่างถล่มทลายมาทุกภาค จนถึงขนาดมีกฎหมายห้ามขาย Dragon Quest ในวันธรรมดา เพราะไม่ต้องการให้เด็กๆโดดเรียนเพื่อไปซื้อกันเลย เรียกได้ว่า Dragon Quest ซึมซับอยู่ในวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นมานาน และด้วยโอกาสอันดีที่จะให้คนรุ่นใหม่ที่เกิดไม่ทันสัมผัสความยอดเยี่ยมของเกมจึงเกิดโครงการ รีเมค ภาค 4 , 5 และ 6 ลงเครื่องเกมที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่นอย่าง DS โดยจะเริ่มรีเมคจากภาค 4 ก่อน

ใน Dragon Quest IV นี้ไม่ใช้การรีเมคครั้งแรก เพราะเคยออกบนเครื่อง PS1 มาก่อน การมาครั้งนี้จึงขาดความสดใหม่ไปพอสมควรเพราะ ด้วยตัวเกมมีกราฟิกที่ไม่ได้แตกต่างจากภาค PS1 มากนัก แถมไม่ได้ใช้จอสัมผัสของ NDS ให้เป็นประโยชน์เลย แต่ก่อนที่คุณจะบ่นว่าแล้วจะรีเมคทำไม เกมนี้ได้ใช้ 2 หน้าจอของ NDS ได้คุ้มค่าสุดๆ เพราะเป็นการเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะเวลาเดิน ดันเจี้ยน ช่วยให้เดินไม่หลงทาง เพราะแสดงผลฉากทั้ง 2 หน้าจอ

ส่วนในฉากต่อสู้ จอบนจะแสดงค่าพลังของตัวละคร ส่วนจอล่างจะเป็นฉากสู้กับศัตรู ทำให้แม้จะอยู่ในจอเครื่องมือถือที่เล็ก แต่กลับไม่รู้สึกว่าเล่นลำบาก เพราะมีการแบ่งจอที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม และอย่างน้อยภาพระดับ PS1 ก็ดูดีเมื่อมาอยู่ในจอเล็กๆของ NDS

ตัวเกมถูกปรับให้เข้าใจง่ายขึ้น เพราะแต่ก่อน Dragon Quest จะแสดงชื่อไอเทม ตัวละคร คาถาเป็นเพียงตัวอักษรเท่านั้น มาคราวนี้เกมถูกแสดงด้วยรูปและสัญลักษณ์ที่เล่นง่ายกว่าเดิม ที่เอารูปแบบมาจากภาค 8 เวอร์ชัน US ที่แฟนประจำชนิดฮาร์ดคอร์อาจไม่ค่อยชอบ แต่เอาใจแฟนๆหน้าใหม่ ทาง สแควร์ อีนิกซ์จึงใช้ระบบนี้ แต่สำหรับคนไทยคงชอบเพราะเป็นระบบที่สะดวก ไม่ต้องมานั่งจำภาษาญี่ปุ่นมากมายเหมือนเมื่อก่อน ยกเว้นชื่อคาถาที่ต้องจำเหมือนเดิม แถมการโหลดในเกมก็ทำได้อย่างดีเยี่ยม เพราะเล่นได้ไหลลื่นรวดเร็ว แม้แต่เวลาโหลดเซฟยังถือว่าเร็วมาก แม้จะเทียบกับเกมที่ใช้ตลับด้วยกันก็ตามที

นอกนั้นระบบเกมยังคงเป็นเกม RPG ฉบับดั้งเดิมที่คุณต้อง เก็บ เลเวล เก็บเงิน แก้ปริศนา ตะลุยดันเจี้ยนที่ระบบเกมมีความสมดุลอย่างมาก และเกมยังคงมีความยากและท้าทายให้เล่นเช่นเดิม เรียกได้ว่าถ้าไม่วางแผนกันดีๆรับรองไปไม่รอดแน่

ส่วนเนื้อเรื่องที่ในยุคนี้อาจดูว่าเชย แต่เรียบง่าย คลาสสิก ตัวละครที่ออกแบบโดยคุณ “โทริยามา อากิร่า” ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยในภาคนี้มีการแบ่งเนื้อเรื่องเป็น 5 บทโดยในแต่ละบทก็มีความแตกต่างในรูปแบบการเล่นทั้ง นักรบตะลุยเดี่ยว เจ้าหญิงแสนซนกับพวกพ้อง พ่อค้าที่เน้นการหาเงินเป็นหลัก ไปจนถึง 2 พี่น้องจอมเวท และสุดท้ายตำนานผู้กล้าที่สามารถเลือกเพศได้ทั้งชายและหญิง ทำให้เกมมีความหลากหลายในรูปแบบการเล่น ที่แม้จะเปลี่ยนอาชีพไม่ได้ แต่ด้วยตัวละครที่มากมายและต่างคนก็มีอาชีพของตัวเอง จึงแทนสามารถแทนกันได้อย่างดี

สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือดนตรีประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ จนถึงคุณจะหลับตาก็รู้ว่าเป็นเพลงจาก Dragon Quest จากฝีมือการประพันธ์เพลงของ “โคอิจิ ซุงิยามา” ที่สามารถสร้างบรรยากาศได้เข้ากับเกม ด้วยเพลงบรรเลงที่ถือว่าสุดยอด และถือเป็นเพลงประกอบวีดีโอเกมที่ข้ามกาลเวลา แฟนๆประจำคงทราบกันดีว่า ไพเราะติดหูมากแค่ไหน ส่วนเนื้อเรื่องพิเศษและการสร้างเมืองที่เป็นของแถมจากจากภาค PS1 ก็ยังอยู่ เรียกว่ามาคราวนี้แม้จะไม่มีอะไรใหม่มากนัก แต่ก็คุ้มค่าที่จะนั่งรำลึกถึงความหลังอีกครั้ง

สำหรับแฟนๆแล้วคงไม่พลาด เพราะภาค 4 นี้ถือว่าเป็นภาคที่มีตัวละครเยอะและรูปแบบการเล่นที่หลากหลาย แต่สำหรับแฟนๆรุ่นใหม่ที่เกิดไม่ทันหรือไม่เคยเล่น ก็อยากให้ลองเล่นดู เพราะตัวเกมได้ถูกปรับให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น แล้วคุณจะได้รู้ว่าทำไม เกมภาษาที่ไม่ได้มี CG สวยๆ หรือไม่มีพระเอกหน้าหล่อ นางเอกหน้าสวย ทำไมถึงได้ขายดีอย่างถล่มทลาย ในทุกๆภาค หรือแม้แต่ภาคนี้ที่เป็นการ รีเมคครั้งที่ 2 ก็ยังขายดี จนไม่น่าเชื่อเลยว่าเกมภาษาที่มีระบบพื้นฐานที่ดูภายนอกแสนจะธรรมดา จะทำให้คุณสนุกได้ “ต้องลอง” คุณจะรู้ว่าทำไมเกมนี้ถึงข้ามกาลเวลามาได้จนถึงปัจจุบัน โดยแทบไม่ได้เปลี่ยนรูปแบบการเล่นไปเลย

เกมการเล่น9
กราฟิก8
เสียง9
ความคิดสร้างสรรค์8
ความคุ้มค่าคุ้มที่จะนั่งเล่นอีกครั้ง
ภาพรวม8.5


วงศกร ปฐมชัยวัฒน์ (Darth.vader)





กำลังโหลดความคิดเห็น