เมื่อพูดถึงเกมยิงเอเลี่ยนที่พระเอกหน้าโหดกล้ามโตๆ เด็กในยุคนี้คงนึกถึงเกม “เกียร์ ออฟ วอร์” แต่ถ้าเป็นเมื่อ 20 ปีก่อน แน่นอนคงคงหนีไม่พ้นเกม “คอนทรา” เกมแอ็กชันชูตติ้ง 2 มิติมุมมองด้านข้าง พร้อมสูตร 30 ตัว บนๆ ล่างๆ ซ้ายขวาๆ ที่สุดแสนคลาสสิก ในสมัยนั้นถือว่าเป็นเกมที่ดังมาก ไม่แพ้ “ซูเปอร์ มาริโอ”
เมื่อพูดถึงเกมยุค 8 บิท ต้องมีชื่อ “คอนทรา” ติดอยู่ด้วยเสมอๆ ที่แม้เกม ในซีรีส์คอนทราจะมีภาคต่อออกมาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ด้วยภาพที่สวยขึ้นและมีการใช้โพลิกอนที่สวยงาม แต่ถึงอย่างไรก็ตามเมื่อพูดถึงเกมคอนทราหลายคนมักจะนึกถึงเกมรูปแบบของ 2 มิติในกราฟิกแบบด็อทพิกเซลเสียมากกว่า
ดังนั้นการฉลองครบรอบ 20 ปี “คอนทรา” ในปีนี้ทางโคนามิอาจจะเห็นเป็นโอกาสดีที่จะปลุกผีเกมยิงสุดแสนคลาสสิกเกมนี้ อีกครั้งในรูปแบบดั้งเดิมทุกประการ และด้วยชื่อภาคนี้เป็นตัวเลข 4 แสดงถึงการกลับคืนสู่สามัญอย่างแท้จริง ด้วยเนื้อเรื่อง 2 ปีหลังจากคอนทรา 3 ที่เจ้า Black Viper กลับมาถล่มโลกของเราอีกครั้ง “บิล” กับ “เลนซ์” พร้อมเหล่าทหารกล้า จึงต้องออกตะลุยเอเลี่ยนอีกครั้ง แน่นอนเมื่อกลับคืนสู่จุดเริ่มต้นของเกม ภาพจึงกลับมาเป็นด็อทพิกเซลแบบดั้งเดิม ตัวเอกก็ถอดเสื้อโชว์กล้ามเหมือนเดิม ทั้งฉากต่างๆก็ย้อนคืนวันสู่ภาค 1 เป็นหลักโดยพัฒนาให้สวยงามกว่าภาค คอนทรา 3 ของเครื่อง SFC เล็กน้อย และสำหรับแฟนๆ คอนทรา เมื่อได้สัมผัสครั้งแรกต้องร้องอุทานว่า “นี่แหละ คอนทรา ที่เรารอคอย” แน่นอน
ด้านรูปแบบการเล่นนั้นจะสานต่อจากคอนทรา ภาค 2 มิติทุกประการ ด้วยเกมที่เป็นแอ็กชันเดินตะลุยไปข้างหน้า พร้อมท่วงท่าเดิมๆก็กลับมาครบถ้วน ทั้งกระโดดม้วนตัว, กระโดดเกาะกำแพง ,ระบบสลับอาวุธ หรือฉากหลุดโลกอย่างเกาะมิไซด์ และบอสของภาคก่อนก็กลับมา เพียงแต่ปรับปรุงให้มันยิ่งขึ้นไปอีก ฉาก 3 มิติที่มองด้านหลังที่สุดแสนคลาสสิกก็ยังอยู่ แถมมีการใช้ตะขอเกี่ยวที่เหมือนไปยืมมาจากเกมไบโอนิคคอมมานโดมาอีก แต่ที่เพิ่มมาก็คือ การใช้ทั้ง 2 หน้าจอของ DS ในการเล่นเกม ทำให้มิติในการเล่นเกมมีมากขึ้น เพราะเราสามารถโลดแล่นไปได้ทั้งจอบนและจอล่าง โดยเฉพาะการเล่น 2 คน ที่เคยมีปัญหาในการดึงหน้าจอกัน ภาคนี้ก็หมดปัญหา เพราะการเล่น 2 คนก็ต้องมี DS กันคนละเครื่องแล้วเล่นผ่านไวเลสกัน
ส่วนระบบอาวุธที่อัปเกรดได้นั้นเหมือนกับภาค Hard Corps ที่ทำออกมาได้สะใจเพราะอาวุธดั้งเดิมของคอนทรา ทั้งปืน S ปืนไฟ หรือ ปืน C ถูกอัพเกรดแบบเต็มที่ และเป็นระบบที่จำเป็นมากเสียด้วย เพราะปืนกลเริ่มต้นของเรานั้นไร้พลังสิ้นดี แถมความยากของเกมที่อยู่ในขั้น “มหาโหด” ที่แม้แต่เซียนคอนทรายังยอมรับว่า “นี่เป็นภาคที่ยากที่สุด” ถ้าเล่นในโหมดง่าย ก็จะไม่สามารถเล่นจนจบได้ แถมสูตร 30 ตัวก็ไม่มี อีกทั้งการเซฟก็ทำได้เฉพาะตอนผ่านด่านแถมต้องเสียคอนทินิว 1ครั้ง แปลว่าเกมนี้ต้องการให้คุณเล่นรวดเดียวจบเหมือนเกมสมัยก่อนจริงๆ นี่สิการกลับคืนสู่สามัญอย่างแท้จริง “ถ้าคุณจบเกมนี้โดยไม่ใช้สูตรโกงได้ คุณคือเซียนเกมตัวจริงแน่นอน”
เมื่อหันมามองที่ดนตรีประกอบกันบ้าง ซาวด์ดนตรีสานต่อคอนเซ็ปต์ของเกมเดิมด้วยการเอาเพลงธีมเก่าๆของคอนทรามาจัดการรีมิกซ์ใหม่ได้อย่างดี ระบบเสียงสำหรับเครื่องมือถือก็มีความดังใส กว่าเกมอื่นๆ และเพื่อฉลองครบรอบ 20 ปี ทางโคนามิได้ขนของแถมมาอย่างไม่อั้นจริงๆ ทั้งประวัติคอนทรา ,เกมคอนทราภาคเก่าๆก็ใส่มาให้เล่น,การ์ตูนคอนทรา และโหมด ชาเลนจ์ ที่ต้องผ่านตามเงื่อนไขที่กำหนด เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆ แต่เสียดายที่ไม่สามารถเล่น 2 คนในแบบออนไลน์เท่านั้นเอง
การใช้ 2 หน้าจอที่ยังมีจุดบอดของระหว่างจอล่างและจอบน แถมความหลากหลายของเกมก็ยังสู้ภาค Hard Corps ของ เมก้าไดร์ ไม่ได้ แต่โดยรวมแล้ว ทางโคนามิสร้างเกมนี้เพื่อให้เล่นจริงๆจังๆมากกว่าเอาไว้เล่นขำๆ หรือแค่ฉลองครบรอบ 20 ปี ตัวเกมมีความแน่น ดูจริงจัง และตั้งใจทำ โดยเฉพาะความยากที่ถึงว่าสุดโหด สะใจแฟนๆคอนทรา และท้าทายให้เด็กยุคใหม่ที่อยากลิ้มลองความรู้สึกของเกมใน ยุค 2 มิติว่าโหดหิน ขนาดไหน
แม้ในตอนนี้จะมีคนใช้สูตรโกงได้แล้ว แต่ส่วนตัวคิดว่าการได้เล่นเกมนี้ เหมือนได้ย้อนเวลาไปเป็นเด็กที่นั่งเล่นเกมในยุค 8 บิต ที่ในสมัยนั้นเกมส่วนมากล้วนมีความยาก ไม่มีเซฟ ไม่มีสูตรโกง จนทำให้ตอนเล่นจบจะรู้สึกภาคภูมิใจจนต้องกระโดดโลดเต้น ไม่เหมือนเกมสมัยนี้ที่แทบจะมีเซฟกันทุก 10 นาที แถมด้วยสูตรโกงที่หลับตาเล่นยังจบ เกมนี้อาจจะช่วยให้คุณได้รำลึกถึงความหลังวัยเด็กอีกครั้ง
เกมการเล่น | 8 |
กราฟิก | 8 |
เสียง | 9 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 8 |
ความคุ้มค่า | ย้อนคืนสู่สามัญอย่างแท้จริง |
ภาพรวม | 8.3 |
วงศกร ปฐมชัยวัฒน์ (Darth.vader)