xs
xsm
sm
md
lg

รู้จัก"กำพล ลีลาภรณ์"คนไทยผู้สร้างตัวละครเกมซิมส์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คนไทยคนเก่งในวงการเกมระดับโลกยังคงไม่หมดเพียงที่เคยนำเสนอไป หลังจากทีมงานผู้จัดการเกมได้รับคำแนะนำจากนักพัฒนาเกมไทยคนหนึ่งให้ได้รู้จัก “กำพล ลีลาภรณ์” หนึ่งในคนไทยที่ทำหน้าที่ออกแบบตัวละครเกมซิมส์ให้กับค่าย“อิเล็กทรอนิกส์ อาร์ต” หรือ EA บริษัทจัดจำหน่ายและพัฒนาเกมที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลก แถมเขายังประจำอยู่ที่ “อีเอ เรดวูด ชอร์” สำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

“กำพล” บอกเล่าประวัติความเป็นมาของตัวเขาเองถึงสาเหตุที่ตัดสินใจเดินทางไปเรียนต่อในอเมริกาก่อนจะมุ่งตรงมาทำงานด้านเกมว่า ตอนที่เขาร่ำเรียนวิศวะ คอมพิวเตอร์ชั้นปี 3 อยู่นั้น เขามีโอกาสไปฝึกงานอยู่ที่ “NECTEC” ได้ฝึกงานแบบวิศวกรคอมพิวเตอร์แล้วก็เริ่มรู้สึกว่ามันยังไม่ตรงกับสิ่งที่อยากทำ ตอนนั้นรู้สึกว่าอยากเห็นกราฟิกบนหน้าจอคอมพิวเตอร์นอกเหนือไปจากโค้ดเพียงอย่างเดียว

ในขณะนั้นตัวเขาก็สนใจด้านการสร้างและออกแบบเว็บ พอเรียนจบจึงไปทำงานเป็นเว็บ ดีไซเนอร์อยู่ 1 ปี ระหว่างนั้นดันเกิดไปสนใจการสร้างเกมบนแฟลชด้วย เลยเปลี่ยนงานมาเป็น “แฟลช เกม ดิเวลลอปเปอร์” (นักพัฒนาเกมแฟลช)ให้กับบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง ช่วงนั้นก็รู้สึกสนุกไปกับการทำเกมราว 2 ปี แต่ก็พยายามหาข้อมูลเรียนต่อในสายคอมพิวเตอร์ กราฟิก(CG)ไว้ด้วย พอได้มาทำเกมแฟลชทั้งส่วนออกแบบเกม ,กราฟิก และเขียนโปรแกรม ทำให้ตัวเองเริ่มแน่ใจว่าสิ่งที่เหมาะที่สุดกับตัวเองและอยากทำก็คือ “เกม” เลยตัดสินใจมาเรียนต่อทางสายนี้ที่อเมริกา

“พ่อ”คือจุดเริ่ม

เมื่อถามว่าทำไมถึงสนใจมาทำงานทางด้านเกม มากกว่าการไปทำงานบริษัทอย่างพวกภาพยนตร์แอนิเมชัน กำพลตอบว่า ตัวเขามีโอกาสได้สัมผัสกับเกมและคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่เด็ก ทั้งนี้ก็ต้องยกความดีให้กับผู้เป็น “พ่อ” เพราะเป็นคนสนใจเรื่องเทคโนโลยีอยู่แล้ว เขาจึงมีโอกาสได้จับคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ยุค “แอปเปิ้ล II” รวมไปถึงเกมคอนโซลตั้งแต่ยุค “อาตาริ” เรื่อยมา

“คงเหมือนเด็กอีกหลายๆ คนที่โตมากับวิดีโอเกม และมีโอกาสได้จับคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เด็ก โดยมีพ่อช่วยสอนให้เริ่มหัดเขียนโปรแกรม ทำให้มีความคิดที่อยากทำเกมเองให้ได้อยู่เป็นพื้นฐาน จากนั้นก็หัดสร้างเกมง่ายๆ ขึ้นเอง เช่น พวกแพคแมนหรือ RPG ง่ายๆเล่นกับน้อง หรือในบางครั้งก็วาดเกมใส่กระดาษไปเล่นกับเพื่อนที่โรงเรียน” กำพลเล่าถึงจุดกำเนิดให้สนใจเกมในวัยเด็ก

เกือบทิ้งความฝันในวัยเด็ก

กำพลกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงทางความคิดในช่วงวัยรุ่นว่า ตอนนั้นคิดว่าจะต้องเป็น “โปรแกรมเมอร์” ถึงจะสร้างเกมได้ แต่พอหัดทำไปถึงจุดหนึ่งก็รู้สึกว่า "กว่าจะทำเกมดีๆ ได้นี่ ทำคนเดียวยากนะ "พอจบม.ต้น จึงเลิกล้มความสนใจที่จะเป็นคนทำเกม หันไปสนใจเรื่องอื่นแทน แม้แต่ตอนเรียนวิศวะ คอมพิวเตอร์ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะเป็น “เกม โปรแกรมเมอร์”แล้ว เริ่มเบนความสนใจทางด้านกราฟิกและออกแบบแทน

ช่วงนั้นเป็นยุคเริ่มต้นของเกม 3D บนพีซีและเพลย์สเตชัน ความสนใจด้านทำเกมเลยย้อนกลับคืนมาอีกครั้ง พร้อมกับได้มุมมองใหม่ว่า "จริงๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ก็เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเกมได้" ความสนุกมันก็เกิดขึ้นได้กับการทำงานในส่วน CG และการออกแบบด้วยเช่นกัน จากนั้นพอมีโอกาสได้ทำเกมเอง แล้วมีคนได้เล่นเกมที่เราทำ มันเลยยิ่งทวีคูณความแน่ใจว่าตัวเองอยากทำเกม ตอนนั้นก็เหมือนความฝันตอนเด็กๆ มันฟื้นกลับมาใหม่ ดังนั้นในช่วงเรียนปริญญาโทก็เลยเน้นหนักไปในส่วนของ “เกม” เป็นหลัก

เพียรพยายามจึงสำเร็จ

กำพลเล่นถึงช่วงก่อนที่ตัวเขาจะเข้าไปร่วมงานกับทางอีเอว่า ระหว่างที่เรียนปริญญาโทอยู่นั้นจะคอยหาข้อมูลว่ามีบริษัทเกมใดในอเมริการับฝึกงานบ้าง ก็ลองส่งผลงานสมัครไปหลายๆที่ โดยที่อีเอได้ใบสมัครไปถึง 3 ครั้ง ทุกครั้งทางอีเอก็จะติดต่อกลับมาว่า "สนใจงานที่ส่งไป" แต่แล้ว 2 ครั้งแรกก็เงียบหายไป จึงพยายามพัฒนาผลงานแล้วส่งกลับไปใหม่ จนกระทั่งเทอมซัมเมอร์ปี 2548 ทีมพัฒนาเกมจากอีเอติดต่อมาให้สัมภาษณ์ในที่สุด จากนั้นจึงได้เริ่มได้ไปฝึกงานกับอีเอสำนักงานใหญ่ที่ “เรดวูด ชอร์”เป็นเวลา 3 เดือน

“วันสุดท้ายของการฝึกงานฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลเดินมาบอกว่า ทางทีมอยากให้ผมได้ทำงานต่อ แต่ผมยังเหลืออีก 1 เทอมถึงจะจบ เลยเป็นข้อตกลงให้ผมกลับไปเรียนต่อเทอมสุดท้ายให้จบเสียก่อน พอเรียนจบจึงได้ไปเริ่มงานในตำแหน่ง ‘คาแร็กเตอร์ อาร์ตติส’ (Character Artist) ตั้งแต่เดือนม.ค.ปี 2549” ทำตัวละครเกมออกมาเป็น 3D โมเดลและเท็กซ์เจอร์ ขณะที่บางงานก็สร้างจากแบบที่มีการออกแบบเอาไว้แล้ว" กำพลกล่าว

กำพลเปิดเผยว่า ที่ “อีเอ เรดวูด ชอร์” ยังมีคนไทยอีก 2 คน แต่จะทำอยู่คนละทีม ส่วน EA สาขาอื่นก็ได้ยินว่ามีคนไทยทำงานอยู่ด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกันก็มีรุ่นพี่ที่จบจากสถาบันเดียวกันทำงานอยู่ที่บริษัท“แอ็กติวิชัน”(Activision)อีกหนึ่งคน โดยส่วนใหญ่คนไทยที่มาเรียนต่อจะสนใจและไปทำงานด้านภาพยนตร์และแอนิเมชันมากกว่า

ออกแบบตัวละครให้ซิมส์

แน่นอนว่าการทำงานที่ผ่านมาของ “กำพล” ที่อีเอ ย่อมมีผลงานของเขาผ่านหูผ่านตาคนเล่นเกมในบ้านเรากันโดยไม่มีใครทราบว่าคนไทยเป็นคนทำมันขึ้นมาแท้ๆ กำพลเปิดเผยว่า เริ่มแรกๆที่เข้าไปทำงาน ตอนนั้นอีเอใกล้ที่จะปิดโปรเจ็กต์ ”The Sims 2 Family Fun Stuff” เขาจึงได้ออกแบบชุดให้ตัวละครไปเพียง “ชิ้นเดียว” จากนั้นก็ตามมาด้วยชุด “Glamour Life” อีกนิดหน่อย แต่ได้มีส่วนร่วมและสัมผัสกระบวนการทำงานเกมจริงๆ ก็คงเป็นภาคเสริมซิมส์ในชุด “The Sims 2 Pets”(เดอะซิมส์ 2 ตัวโปรดจอมป่วน) โดยงานจะเปลี่ยนไปทำเป็นพวกโมเดลและเท็กซ์เจอร์เกี่ยวกับ “สัตว์เลี้ยงและมนุษย์หมาป่า” ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ที่ยอมรับว่าสนุกดี และทำต่อเนื่องมาตัวละครให้กับชุด “Seasons” (เดอะซิมส์ 2 สี่ฤดูแสบ)อีกเล็กน้อย

กำพลบอกต่อไปว่า จังหวะนั้นเองที่ทีมทำเกม “มายซิมส์” (MySims)เพิ่งจะเริ่มตั้งต้นพัฒนากัน ประกอบกับตัวเขาเองก็ให้ความสนใจเครื่องนินเทนโด วี (Wii)เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หนำซ้ำสไตล์เกมนี้ค่อนข้างแปลกไปจากเกมอื่นๆของอีเอที่ออกไปทางแนวญี่ปุ่น เลยคิดว่าโอกาสที่จะได้ทำโปรเจ็กต์ที่มีสไตล์แปลกๆในอเมริกาแบบนี้คงมีไม่มากนัก เลยลองคุยกับทางทีมงานเพื่อขอย้ายงานไปทำในจุดนั้นแทน นั่นก็เป็นจุดเริ่มแรกกับการพัฒนาเกมบนเครื่องคอนโซลที่แตกต่างจากการทำเกมบนพีซีอยู่พอสมควร โดยเกม“มายซิมส์”เพิ่งวางขายไปเดือนที่ผ่านมา

สำหรับโปรเจ็กต์เกมตัวถัดไป หลายคนคงอยากจะทราบกัน กำพลระบุว่า ตอนนี้เพิ่งเริ่มทำกัน แต่ทางอีเอยังไม่ได้ประกาศออกมา โดยหน้าที่ความรับผิดชอบของเขาจะเพิ่มมาทางด้านเทคนิคมากขึ้น ทำพวก “Rigging” หรือการใส่กระดูกให้กับตัวละครเพื่อให้แอนิเมเตอร์นำไปขยับเคลื่อนไหวต่ออีกที และยังรับผิดชอบในส่วนการวิจัยและปรับปรุงเชดเดอร์สำหรับใช้ในเกมใหม่นี้ด้วย

อีเอใส่ใจพนักงานดี

ย้ายมากันที่สวัสดิการระหว่างทำงานภายใต้บริษัทเกมใหญ่ระดับโลกกันบ้าง กำพลบรรยายบรรยากาศให้ฟังว่า ที่อีเอสวัสดิการและสภาพความเป็นอยู่ในออฟฟิศอยู่ในระดับดีมาก บริษัทมีแผนกดูแลพนักงานในด้านต่างๆออกไป อย่างระบบอบรมพนักงานที่เรียกว่า “อีเอ ยูนิเวอร์ซิตี้” (EAU) จะมีคอร์สพัฒนาด้านต่างๆ ทั้งส่วนของอาร์ต,เทคนิคไปจนถึงการพัฒนารูปแบบทำงานที่เปิดให้เราเลือกเรียนได้ตลอดทั้งปี ขณะเดียวกันเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆที่ออฟฟิศก็ดีมากด้วย ทั้งยิม,สนามฟุตบอล, สนามบาสเกตบอล และห้องเล่นเกม

ในส่วนของเพื่อนร่วมงานก็มีคนจากหลายๆประเทศมารวมตัวกัน ทั้งคนอเมริกัน ญี่ปุ่น เกาหลี จีน อินเดีย และชาติอื่นๆ เมื่อถามว่ารู้สึกกดดันบ้างไหมในฐานะเป็นคนไทย กำพลตอบชัดเจนว่า “ไม่เลยครับ” ระบบที่อเมริกาค่อนข้างจะสร้างบรรยากาศไม่ให้มีเรื่องการแบ่งเชื้อชาติอะไรอยู่แล้ว ตอนมาเริ่มงานใหม่ๆก็ไม่ได้รู้สึกว่าแตกต่างกับผู้ร่วมงานชาติอื่นๆ จริงๆกลับมองว่าเป็นเรื่องดีซะอีกที่สร้างความหลากหลายทางวัฒนธรรมในออฟฟิศ บางคนเขาก็สนใจมาถามเรื่องเท่องที่ยวหรือเรื่องอาหารไทย แถมยังได้พูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองต่างวัฒนธรรมอีกด้วย

ด้านจำนวนทีมงานที่ทำงานทางด้านกราฟิกหรือออกแบบตัวละครเกมในอีเอนั้น กำพลอธิบายว่า จำนวนคนจะขึ้นกับทีมว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน ณ ขณะนั้น ฝ่ายศิลป์จะแยกเป็นส่วนตัวละคร, ฉาก, วัตถุ, แอนิเมเตอร์,เอฟเฟกต์ และเสียง ในส่วนตัวละครก็จะแยกย่อยๆเป็นฝ่ายที่ออกแบบคอนเซ็ปต์ 2D อย่างเดียว ,บางคนก็ทำ 3D อย่างเดียว หรือบางคนก็อาจจะได้ทำทั้ง 2 อย่างด้วยเหมือนกัน หากนับกันทั้งทีมทุกส่วนรวมกันแล้ว เกมล่าสุดที่ตัวเขามีส่วนร่วมก็ราวๆ 80 คน แต่บางเกมก็เคยสูงถึง 300 คนก็มี

เมื่อถามว่ามีความเป็นอิสระทางความคิดหรือไม่ นักออกแบบตัวละครคนไทยยอมรับว่า การทำงานในระบบบริษัทแบบนี้แน่นอนว่าจะต้องมีคนระดับโปรดิวเซอร์หรือไดเร็กเตอร์ในการตัดสินใจสุดท้าย แต่ทางทีมงานก็ยินดีรับฟังความคิดเห็นด้วยเหมือนกัน และเปิดโอกาสให้เสนอความคิดอยู่ตลอด

ตัวละครนักมวยไทยใน“มายซิมส์”

“อย่างในเกม ‘มายซิมส์’ ช่วงแรกๆ ก็เสนอเทคนิคหลายๆ อย่างเพื่อทำให้ตัวละครออกมาดูดีขึ้นก็ได้นำไปใช้ในเกม หรือตัวละครบางตัวที่เกมดีไซเนอร์คิดว่าจะต้องมีในเกม อย่างเวลาผมเห็นเขาวางไว้ว่าจะมีตัวละครเป็น ‘นักมวยไทย’ ผมก็ขอกับทีมงานว่าอยากจะรับหน้าที่ออกแบบตัวละครตัวนี้เอง เขาก็เปิดโอกาสให้ผมออกแบบและก็นำไปใช้ในเกมจริงๆ คงเรียกได้ว่าให้อิสระทางความคิด แต่ก็ขึ้นกับเหตุผลประกอบด้วย” กำพลขันอาสาพามวยไทยไปเป็นตัวละครเกม

“ผมมองว่าเกมก็เป็นสื่ออย่างหนึ่ง เหมือนหนังสือ เหมือนภาพยนตร์ การเล่นเกมดีๆ และรู้จักมองหาจุดดีๆ ของมันก็ไม่ต่างกับการอ่านหนังสือ หรือดูหนังดีๆ บางครั้งเกมก็เป็นสื่อบันเทิง และในบางครั้งก็สามารถเป็นสื่อพัฒนาความรู้ และกระบวนการทางความคิดได้อย่างดี แต่แน่นอนว่าผู้เสพสื่อก็ต้องรู้จักมอง ,วิเคราะห์ และหาจุดดีของมันด้วย”

คนไทยขาดเพียงประสบการณ์

คำพูดที่คนส่วนใหญ่มักคิดว่า “ชาตินี้ คนไทยคงทำเกมสู้ต่างชาติไม่ได้ คาดว่าอีกสักกี่ปีเกมคนไทยระดับมาตรฐานสากลจะเกิด” กำพลแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า คนไทยฝีมือดีๆมีก็เยอะ แต่ต้องยอมรับว่าในอุตสาหกรรมด้านนี้เรายังเพิ่มเริ่มต้นและอาจจะขาดบุคคลากรที่มีประสบการณ์ เป็นก้าวแรกที่หัดเดิน ก็ต้องมีล้มบ้าง แต่ถ้ามีความพยายามและพัฒนาต่อไป ทั้งแนวคิด,ขยายมุมมองให้กว้างออกไป รวมถึงการทำงานเป็นทีมมันก็จะช่วยให้ก้าวเดินต่อไปได้

“แน่นอนว่าเราสามารถมีทีมที่พัฒนาเกมในระดับต่างชาติได้อยู่แล้ว เรื่องงบประมาณคิดว่าไม่ใช่ปัญหาหลักจากที่ได้สัมผัสการพัฒนาเกมในบริษัทใหญ่ๆ ต้นทุนพัฒนาเกมส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ค่าจ้างบุคคลากรในหน้าที่ต่างๆ ซึ่งสามารถลดต้นทุนส่วนนั้นได้มากทีเดียว เนื่องจากเรามีข้อได้เปรียบกว่ามากในเรื่องค่าครองชีพที่ต่ำกว่า ผมเลยมองว่าถ้าจะเทียบว่าเราต้องมีงบเท่ากับการพัฒนาเกมที่อเมริกา หรือญี่ปุ่นอาจจะเป็นการเอาเปรียบต่างชาติไปสักหน่อยด้วยซ้ำ” กำพลชี้ความแตกต่างให้เห็น

เกมโปรดในดวงใจ

มาถึงคำถามเกมในดวงใจที่ชื่นชอบของนักออกแบบตัวละครเกมชาวไทยรายนี้กันบ้าง กำพลบอกถึงเกมที่ตัวเองชอบว่า ปกติแล้วชอบเล่นเกมหลากหลายแนว หลักๆจะเป็นแนว RPG อย่างไฟนอล แฟนตาซี,เวิลด์ ออฟ วอร์คราฟต์ หรือ RTS อย่าง คอมมานด์&คองเคอร์,สตาร์คราฟต์ รวมไปถึงเกม 2D อย่างคาสเทิลวาเนีย,มาริโอ และแม้แต่เกมเก่าๆ อย่าง “โคนามิ ไว ไว เวิลด์” กำพลยอมรับว่าเป็นเกมสุดโปรดของเขาเลยทีเดียว

ส่วนโปรเจกต์เกมที่ใฝ่ฝันอยากจะทำออกมานั้น กำพลคิดว่าอยากมีโอกาสและพัฒนาตัวเองให้ทำตัวละครในหลายๆ สไตล์ ตัวเขาค่อนข้างจะมีแนวความคิดเน้นที่การทำงานเป็นทีม เลยรู้สึกว่าต้องมีความยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง ถ้าพูดถึงแนวที่อยากทำในตอนนี้ก็คงมีทั้งแบบที่ดูเท่ๆ อย่างไฟนอล แฟนตาซี,เรสซิเดนต์ อีวิล หรือปริ๊นซ์ ออฟ เปอร์เซีย รวมไปถึงตัวละครเน้นสไตล์อย่าง เซลด้า เดอะ วินด์เวเคอร์ หรือ โอกามิ เป็นต้น

“ผมเองไม่ได้ยึดติดกับสไตล์ใดสไตล์ พยายามทำให้ได้หลากหลายทั้งตัวละครคนหรือมอนสเตอร์” กำพลกล่าวถึงสไตล์ตัวละครของตัวเอง

สำหรับรุ่นน้องคนไทยที่อยากทำฝันให้เป็นจริงเหมือนกำพลบ้าง กำพลแนะนำว่า อย่างแรกก็ต้องรู้ว่าตัวเองชอบอะไร การชอบเล่นเกมไม่ได้แปลว่าต้องทำเกม และการเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาเกมก็มีหลายๆ ส่วนที่แตกต่างกันออกไป อย่างของตัวเขาเองจะเน้นไปทาง “คาแร็กเตอร์ โมเดลลิ่ง” ก็คงจะต้องมีความสนใจการออกแบบตัวละครไม่ว่าจะเป็นเกม ,การ์ตูน และการหัดสังเกตวิเคราะห์การออกแบบที่ดีและไม่ดี แน่นอนว่าพื้นฐานศิลปะเช่นการวาดรูป ,องค์ประกอบ ,การมองภาพในระนาบ 3 มิติ และการจัดสีก็มีส่วนสำคัญไม่น้อย

ในการทำเกมส่วน 3D ก็ต้องมีความเข้าใจทางด้านเทคนิคต่างๆ บ้าง เพราะเราต้องทำงานคู่กับเทคนิคอล อาร์ตติสและโปรแกรมเมอร์ ซึ่งก็ต้องเข้าใจถึงข้อจำกัดของระบบและสร้างงานให้ตรงกับเงื่อนไขของ “เกม เอนจิน” นอกจากนี้ก็ต้องขยันหาความรู้รอบตัว หรือในอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอ เพราะเทคโนโลยีพวกนี้ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เราก็คงต้องไล่ตามมันไป

ความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญ

“ที่สำคัญที่สุดผมมองว่าต้องมีความรับผิดชอบ ทั้งงานและตัวเอง จุดนี้ผมมองว่าคนทำงานที่นี่ให้ความสำคัญมากในด้านการเรียนและการทำงานมาก มันฟังดูเป็นเรื่องง่ายๆนะ แต่ก็เห็นคนพลาดกับจุดนี้มาเยอะแล้ว ผมเลยค่อนข้างให้ความสำคัญกับจุดนี้มาโดยตลอด” กำพลแนะนำให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบ

นอกจากนี้ กำพลยังบอกต่อไปอีกว่า สำหรับคนเล่นเกมก็คงเหมือนๆที่รู้ๆกันอยู่ ให้รู้จักแบ่งเวลา ถ้ามีความรับผิดชอบ เรื่องพวกนี้มันก็จะตามมาอยู่แล้ว เราจะรู้ตัวเองว่าส่วนไหนที่เราต้องรับผิดชอบก่อนหลัง จัดแบ่งความสำคัญของการใช้เวลา และมีสติอยู่ตลอด

สำหรับนักพัฒนาเกมในไทย กำพลเห็นว่า เราต้องยอมรับว่าเราไม่ได้เป็นเจ้าของเทคโนโลยี วันนี้เราเริ่มเดินตามเขา แต่ก็ต้องสะสมประสบการณ์และมองหาบุคคลากรมาประกอบเป็นทีมที่ดี คนในทีมที่ดีไม่ใช่แค่เก่ง แต่ต้องมีความรับผิดชอบและทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ด้วย ในขณะเดียวกันเกมที่ดีในมุมมองของเขานั้น “ไม่จำเป็นต้องเป็นเกมที่จะต้องสนุกไม่ซ้ำใคร แต่ต้องมีความสมดุลในทุกๆส่วน” ทั้งเล่นสนุก ,ชวนให้เล่นต่อเนื่อง ,อาร์ตเวิร์กมีความกลมกลืนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเป็นเกมที่มองความต้องการตลาดด้วย เกมบางเกมแนวคิดดี แต่ไม่ถูกแนวตลาดทำให้ไม่ประสบผลสำเร็จก็มีไม่น้อยเช่นกัน

กำพลฝากคำพูดที่ขมวดไว้ในตอนท้ายว่า การไปทำงานในต่างแดนเพียงเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แต่สุดท้ายก็คงอยากกลับไปอยู่เมืองไทย และหาโอกาสที่จะทำเกมที่บ้านเกิดแน่นอน ตอนนี้ก็เฝ้าศึกษาตลาดและบริษัทเกมในไทยว่าเป็นอย่างไรไปด้วยในตัวระหว่างทำงานอยู่ต่างแดน

ประวัติ
กำพล ลีลาภรณ์

๏ปริญญาตรี: วิศวกรรมศาสตร์ คอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
๏ปริญญาโท: Master of Fine Arts – Game Modeling – Academy of Arts, University San Francisco

เกียรติประวัติ และรางวัล
๏ชนะเลิศการประกวด Flash Game จัดโดย Alienware
๏Ballistic คัดเลือกผลงานให้ลงในหนังสือ d'artiste Character Modeling
๏Academy of Arts University คัดเลือกผลงานสำหรับนำไปใช้ประกอบโฆษณาในนิตยสารเกม
๏Intel คัดเลือกผลงานสำหรับใช้ประกอบโฆษณาชุด Intel VIIV Gaming



ขออภัยที่ทางเราไม่สามารถเปิดเผยหน้าตาของเจ้าของเรื่องได้ ถือเป็นการให้เกียรติแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์จะเปิดเผย -ทีมงานผู้จัดการเกม









“ผู้จัดการเกม” เปิดโครงการสนับสนุนกลุ่มพัฒนาเกมไทยที่อยากจะเผยแพร่ผลงานเกมและการถ่ายทอดความรู้ผ่านทางสื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบกัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอินดี้เล็กๆในกลุ่มหรือบริษัทพัฒนาเกมรายย่อยอื่นๆ ด้วยการเป็นกระบอกเสียงหนึ่งเพื่อช่วยอุตสาหกรรมเกมของคนไทยให้เติบโตไปในอนาคต สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 0-2629-4488 ต่อ 1453 หรือ 1454 ในเวลา 14.00-18.00 น. วันจันทร์-ศุกร์
กำลังโหลดความคิดเห็น