เกมฟอร์มยักษ์อีกตัวในแวดวงเกมที่ถูกกล่าวขวัญกันมาในช่วงนี้บนเครื่องเอ็กซ์บ็อกซ์ 360 และพีซีกับ “ไบโอช็อก” เกมที่อาจสร้างอาการช็อกให้กับผู้เล่นบางคนระหว่างเล่นอยู่คนเดียวเงียบๆ แต่สำหรับบางคนก็อาจจะไม่ได้ถึงขั้นสร้างความหวาดหวั่นตามชื่อเกมได้ ถ้าพูดถึงความสนุกแบบองค์รวมที่ได้รับจากตัวเกมนี้ตั้งแต่ต้นจนจบก็คงเพียงพอแล้วที่จะยกคำว่า “ยอดเยี่ยมสมการรอคอย” สำหรับคอเกมผู้ใหญ่โดยเฉพาะ
ย้อนหลังกลับไปเมื่อปี 2006 บริษัทเทค-ทู อินเตอร์แอคทีฟได้ประกาศข่าวว่าทีมพัฒนาเกม “อิเรชันแนล เกมส์” กำลังสร้างเกม “ไบโอช็อก” (Bioshock) อยู่ภายใต้แบรนด์ “2K เกมส์” ด้วยเอนจินพัฒนาเกมสุดแรงอีกตัววงการ “อันเรียล3” แต่พอเอาเข้าจริงเทค-ทูได้ปรับเปลี่ยนมาขายในแบรนด์ “2K บอสตัน” และ “2K ออสเตรเลีย” แทนตอนเกมวางจำหน่ายจริงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แถมดันมีข่าวเกมหลุดออกมาขายก่อนกำหนดอีกต่างหาก
เนื้อเรื่องของ “ไบโอช็อก” เริ่มขึ้นในปี 1960 ภายใต้ท้องทะเลแถบตอนกลางของมหาสมุทรแอตแลนติก หลังจากเกิดเหตุการณ์เครื่องบินตก ผู้เล่นบังเอิญรอดตายและหาทางเอาชีวิตรอดจากอุบัติเหตุจึงว่ายน้ำไปพบกับทางเข้าเมืองใต้ทะเลที่ชื่อ “แรปเชอร์” (Rapture) เข้าให้ แน่นอนว่าคุณไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องลงไปสำรวจมัน เรื่องวุ่นๆสุดพิสดารจึงเริ่มต้นขึ้น
“แรปเชอร์” เมืองที่สร้างขึ้นโดย “แอนดรูว์ ไรอัน” ผู้ที่มีความคิดที่จะสร้างเมืองให้เป็นอิสระจากทุกสิ่ง เขาจึงเดินหน้าสร้างเมืองขึ้นในปี 1946 เมืองนี้ผลิตอาหาร,กระแสไฟฟ้า,น้ำบริสุทธิ์ และระบบป้องกันด้วยตัวเองโดยอาศัยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ แต่ด้วยความที่วิทยาศาสตร์รุดหน้าไปมากเกินขอบเขต มันจึงส่งผลกลับมาทำร้ายตัวเองในที่สุดจากความขัดแย้งกันของสองนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบสิ่งที่เรียกว่า “ADAM” ที่สามารถเปลี่ยนแปลงมนุษย์ให้เป็นผู้ทรงอำนาจด้วยพลังเหนือธรรมชาติมากมาย เรื่องราวจะจบลงอย่างไร ใครจะเป็นวายร้ายตัวฉกาจคงต้องไปติดตามกันเองภายในเกม
จุดเด่นของเกมนี้อยู่ที่การยำรวมเอาเกมการเล่นที่หลากหลายเข้ามาใช้ในหลายๆส่วน แถมยังดูลงตัวและชวนติดตาม เป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งผสม RPG ที่ทำภาพกราฟิกและเอฟเฟกต่างๆออกมาได้ดี (แต่คงไม่เท่า “เกียร์ ออฟ วอร์” ถ้าวัดจากตัวเอนจินเดียวกัน) ในเมนูอ็อปชันจะให้ผู้เล่นเลือกเปิด-ปิดอันล็อกเฟรมเรตได้ หากคุณเลือก “On” มันจะช่วยเพิ่มเฟรมเรตของเกมเพิ่มขึ้น แต่พวกคุณภาพของภาพเกมในส่วนอื่นๆจะถูกลดทอนลง น่าจะเป็นเกมคอนโซลเกมแรกๆที่มีการให้ปรับระบบการแสดงภาพแบบนี้ได้
มือทั้งสองข้างของผู้เล่นซ้าย-ขวาจะถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการเล่น โดย “มือขวา” จะใช้สำหรับถืออาวุธปืนนานาชนิดเป็นหลัก แล้วกดเลือกเอาว่าจะใช้อะไรไปสู้กับพวกมนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้ดีตามจำนวนกระสุนที่คุณมีอยู่ ขณะที่ “มือซ้าย” ลักษณะดูหงิกงอจะใช้สำหรับปล่อยพลังเหนือธรรมชาติจากการฉีดน้ำยาที่ชื่อ “EVE” คล้ายๆ Mana แบบเกม RPG เพื่อเติมพลังเวทมนตร์ เพียงแต่ในตอนต้นเกม เราจะมีทั้งอาวุธและพลังวิเศษไม่กี่อย่างให้ใช้ แต่หลังๆจะเพิ่มเข้ามามากมาย แถมพลังต่างๆจะเยอะมากจนต้องมีการหาตู้ “ยีน แบงก์” เพื่อสลับสับเปลี่ยนการใช้งาน
พลังจากมือหงิก มีตั้งแต่การปล่อยกระแสไฟฟ้า,ไฟ,พลังดูด,แมลง,พลังให้บิ๊กแดดดี้กลายมาเป็นพวกเราได้ชั่วขณะ และอื่นๆอีกเพียบ ส่วนอาวุธก็มีประแจ(ตอนท้ายเกมมันจะมีส่วนสำคัญ),ปืนสั้น,ปืนลูกซอง,ปืนกล,ปืนยิงระเบิด,หน้าไม้ ,ปืนยิงน้ำแข็ง-ไฟ-ไฟฟ้า และแม้แต่กล่องถ่ายรูป(มันใช้ประโยชน์อย่างไรคงต้องไปเล่นกันเอง) ซึ่งทั้งอาวุธและค่าพลังสามารถอัปเกรดให้มันมีอานุภาพเพิ่มขึ้นได้
ไอเทมต่างๆในเกมนอกจากจะเก็บจากซากศพและตามตู้แล้ว ผู้เล่นสามารถหาซื้อได้จากตู้ขายที่มีอยู่หลายประเภทให้เลือก โดยใช้เงินสดซื้อหาและค่า ADAM ที่ได้มาจากการสังหารเจ้าหุ่นเหล็กพ่อใหญ่ “บิ๊ก แดดดี้” (มี 2 ชนิดโรซี่และเบาว์เซอร์)ที่ปกปักรักษา "ลิตเติล ซิสเตอร์"(เด็กผู้หญิง) อย่างกับไข่ในหิน หากเราไม่ไปข้องแวะกับมันก่อน มันก็จะไม่โจมตีคุณ เวลาเดินทีพื้นจะสั่นยวบๆได้ใจเอามากๆ ผู้เล่นสามารถเช็กจำนวนบิ๊ก แดดดี้ในแต่ละด่านได้จากการกดปุ่ม “สตาร์ท” แล้วจะมีสัญลักษณ์ขึ้นที่บริเวณด่านล่างจอ หากจะจบเกมอย่างสวยงามแล้วผู้เล่นควรต้องจัดการมันให้ครบ แล้วเลือกช่วยชีวิตเด็กน้อยตาดำๆที่ภายในตัวเธอมี "ADAM" หลบซ่อนอยู่ แทนการเลือกบริโภค นับว่าเป็นการเล่นกับอารมณ์คนเล่นที่ดูรุนแรงเกินไป
นอกจากนี้ ยังมีการเข้าไปแฮ็กตู้ขายไอเทม,ตู้เซฟ และระบบรักษาความปลอดภัยด้วยมินิเกมต่อท่อให้น้ำยาไหลไปยังจุดทางออก รวมทั้งการค้นหารหัสเพื่อปลดล็อกประตู ระหว่างเล่นหากเดินแบบไม่ดูตาม้าตาเรืออาจจะถูกเครื่องยิงต่างๆกราดกระสุนใส่ได้ หรืออาจจะถูกเครื่องรักษาความปลอดภัยบนเพดานฉานแสงสีแดงมาพบคุณ จากนั้นหน่วยรักษาความปลอดภัยบินได้จะตามไล่ล่าคุณจนกว่าเวลานับถอยหลังจะหมด ยกเว้นคุณหนีมันไปได้ไกล
ความฉลาดของ AI ระบบปัญญาประดิษฐ์สำหรับตัว NPC ของเกมถือว่าทำได้ดี หากมันถูกไฟเผาแล้วมีแหล่งน้ำอยู่ใกล้ๆมันจะวิ่งไปดับไฟ มันจะไม่อยู่นิ่งๆให้คุณส่องได้ง่ายๆแถมยังลัดเลาะทางมาจ๊ะเอ๋กับคุณได้อีกทาง ด้านการทำให้ผู้เล่นรู้สึกหวาดผวาตื่นเต้นได้จริงๆมีเพียงไม่กี่จุด เท่าที่จำได้คงเป็นฉากไฟดับจนมืดสนิท แสงไฟเริ่มส่องมาเป็นวงกลมรอบตัว จากนั้นจะเป็นอย่างไรลองไปจินตนาการดู และอีกฉากเห็นจะเป็นฉากใช้เงาบอกว่ามีศัตรูกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ แต่พอไปดูแล้วไม่เจอใคร ความรู้สึกตอนนั้นคุณคิดว่ามันต้องอยู่ที่ไหนสักแห่งแถวนั้นแน่ (ไม่ขอบอกต่อ)
ภาพกราฟิกของเกมนี้ทำออกมาย้อนยุค บรรยากาศ โทนสี แสงเงาทำมาได้ลงตัว แม้จะไม่ได้เน้นรายละเอียดทุกรูขุมขน ส่วนที่เด่นจริงๆคงเป็นเรื่องเสียงประกอบเกมตามที่สื่อหลายค่ายการันตีมา ผู้เล่นจะทราบการเคลื่อนไหวจากเสียงว่ามาจากทิศทางได้ ช่วงที่เกมกำลังเข้มข้นซาวด์จะออกมาบีบคั้นเร้าอารมณ์ได้ดีจริงๆ และอย่างพวกกีตาร์หรือเปียโนที่พบในเกมหากเรากดปุ่ม A รัวๆไปเรื่อยๆมันจะบรรเลงออกมาเป็นเพลง และในส่วนของเมนูเกมเวลาเราเลือกขึ้นลงไปมา เสียงเปียโนจะออกตามการเลือก
สิ่งที่ดูมีปัญหาในเกมเท่าที่พบมาเห็นจะเป็นขั้นตอนการโหลดเกมจากที่เราเซฟเอาไว้ มันจะไม่เรียงไปตามเวลาล่าสุด หากใครเลือกเปิดเซฟใหม่ทุกครั้งอาจจะต้องใช้เวลาหานานพอสมควร การใช้แกนแอนาล็อกเลือกปืนหรือสลับค่าพลังมันมักจะติดขัดไม่ไปตามที่ต้องการ และอีกส่วนคงเป็นการเดินของเราในบางช่วงที่รู้สึกเหมือนติดอะไรหนืดๆบางอย่าง จุดเกิดใหม่ Vita Chamber บางครั้งมันก็ดูไกลไป
องค์ประกอบของเกมในภาพรวมทำออกมาค่อนข้างเยี่ยม แผนที่มีประโยชน์กับผู้เล่นมากในการค้นหาเส้นทางที่เรายังไม่เคยผ่านไปและหาตู้ขายไอเทมได้ง่ายกว่า ในตอนท้ายก่อนจะไปเจอกับบอสใหญ่แนะนำว่าควรเติมยุทโธปกรณ์ให้ครบครันก่อนจะไปลุย ตามความรู้สึกส่วนตัวแล้วสำหรับเด็กๆที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่ควรเล่นเกมนี้เพราะเนื้อหาในบางช่วงมันดูโหดร้ายจนเกินไป
เกมการเล่น | 9.5 |
กราฟิก | 9 |
เสียง | 10 |
ความคิดสร้างสรรค์ | 9.5 |
ความคุ้มค่า | ลงตัวในทุกเรื่อง |
ภาพรวม | 9.5 |
By… เอาไม้สั้นไปรันขี้