xs
xsm
sm
md
lg

"DiRT" แรลลี่ชีวิตเปื้อนฝุ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


---คลิกชมวีดีโอตัวอย่างเกม "Colin McRae : DiRT" ได้ที่นี่---
ดูวีดีโอประกอบจาก Manager Multimedia

คอเกมขับรถแบบแรลลี่คงไม่อาจปฏิเสธความเยี่ยมยอดของเกมตระกูล “โคลิน แมคเร” ผลงานขึ้นชื่อจากค่ายโค้ดมาสเตอร์ไม่น้อย ออกมากี่ภาคก็ล้วนแล้วแต่มีจุดดึงดูดความสนใจให้กับแฟนเกมทุกครั้งไป เมื่อทีมพัฒนาประกาศสร้างเกมภาคใหม่“โคลิน แมคเร : เดิร์ธ” (Colin McRae : DiRT) ออกมา การันตีได้เลยว่าต่อมความเร็วของคุณจะเริ่มหลั่งอีกครั้ง

ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม้ตัวเองจะเคยเล่นเกมขับรถมาหลายเกม แต่ก็ไม่เคยเล่นเอาจริงเอาจังถึงขั้นจะรีวิวเกมให้ทุกคนรับทราบกัน แต่ก็ไม่รู้ว่ามีอะไรมาดลใจให้เล่น “เดิร์ธ” จนจบได้ เนื่องจากเกมแนวขับรถไม่ใช่แนวทางเกมที่ถูกโฉลกกับตัวเองมากนัก หรืออีกนัยหนึ่งก็คือไปไม่รอดกับเกมแนวนี้ว่างั้นเถอะ

สำหรับการซิ่งใน “เดิร์ธ” บนเวอร์ชั่น Xbox360 ที่ได้ลองนั้น สิ่งที่ดึงดูดใจได้มากในตอนต้นของการเล่นที่ใครๆก็ไม่อาจปฏิเสธว่าดูแปลกตาไปจากเกมอื่นๆ นั่นก็คือ “เมนูเกมการเล่น” ที่ดูล้ำสมัยลอยโดดเด่นออกมาจากฉากพื้นหลังสีขาว ผู้เล่นสามารถใช้แกนแอนนะล็อกขวาหมุนมันไปมาทั้งตอนเลือกเมนูและรอการโหลดเกม ในจังหวะการระหว่างรอโหลด เกมจะบอกสถิติต่างๆที่คุณได้ทำไว้มากมายเพื่อลดความเบื่อหน่ายในการรอคอยได้ในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการขับชนะกี่ครั้ง กระโดดได้สูงที่สุดแค่ไหน เวลาที่ขับ ระยะทางที่ขับขับทั้งหมด ด้วยความเร็วสูงสุดกี่กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่เมนูการขับใน “โหมดอาชีพ” (Career) จะทำออกมาในรูป "ปิรามิด" เป็นขั้นๆขึ้นไปจนถึงยอด 11 ขั้น

มุมมองการขับรถของ “เดิร์ธ” แบ่งออกเป็น 6 รูปแบบ โดยเฉพาะมุมมองที่เห็นตัวรถทั้งคัน ขอชมว่าผู้พัฒนาเลือกปรับมุมมองให้ผู้เล่นได้เห็นแล้วดูมีมิติในลักษณะของท้ายรถใหญ่แบบได้ใจจริงๆพร้อมมุมเอียงที่พอเหมาะต่อการขับ แต่หากรถที่เราขับเป็นรถบรรทุก รถที่ไล่จี้เรามาทางด้านหลังจะสร้างปัญหาบดบังทัศนียภาพได้ ขณะที่มุมมองที่มองออกมาจากภายในตัวรถแบบเห็นพวงมาลัยและแผงหน้าปัดรถ ผู้เล่นสามารถใช้แอนนะล็อกซ้ายเลื่อนไปสบตากับเนวิเกเตอร์ทางขวาหรือมองไปซ้ายของตัวรถได้ ซึ่งเราก็ไม่ค่อยเห็นบ่อยนักที่เกมขับรถจะมีมุมมองนี้ แต่ทว่ามุมมองนี้ไม่เวิร์คกรณีรถใหญ่บางคันที่มีช่องมองภาพแคบเอามากๆ

ด้านความเสียหายของรถ “เดิร์ธ” จะแสดงลักษณะการบุบสลายและหลุดร่วงออกมาให้เห็นหลายชิ้นส่วน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระดับความยากที่เราเลือกก่อนจะเล่นด้วยที่มีอยู่ 5 ระดับ หากเลือกขั้น Pro แค่คุณขับชนจังๆทีเดียวเกมก็จบทันที ซึ่งความยาก 5 ระดับนี้จะไล่ระดับยากลดหลั่นลงไปทั้งความเสียหายของเครื่องยนต์ ,ตัวรถ ,ความฉลาดของ AI รถคันอื่น ,จำนวนเวลา และจำนวนเงินผู้ชนะที่1-3

เวลาเราขับรถแบบบ้าบิ่น มุทะลุมากไปจนหักพวงมาลัยไม่พ้น สภาพตัวรถจะค่อยบุบสลายไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น กระจกที่จะค่อยๆร้าวหากชนแค่เบาะๆ แต่ถ้าชนแรงบางทีก็แตกไปเลยก็มี ,ฝากระโปรงรถหน้า/หลัง ,ประตู ,กันชน ,เครื่องยนต์ ไปจนถึงล้อรถ ซึ่งในส่วนของเครื่องยนต์จะมีสัญลักษณ์สีแดงขึ้นมาบอกว่าอะไรในรถเราเจ๊งไปบ้าง และหากชนแรงถึงขึ้นล้อหลุด คุณก็ต้องกลับไปเล่นใหม่ทันที และบางครั้งเศษชิ้นส่วนที่หลุดจากรถมากองบนพื้นผิวถนนก็เป็นอุปสรรคทำให้รถเราเสียหลักได้เช่นกัน

เมื่อเริ่มเข้าสู่ถนนอาชีพแข่งรถ ผู้เล่นจะต้องเลือกสัญชาติตัวเองก่อน ซึ่งในจำนวนนั้นก็มีธงชาติประเทศไทยของเราเด่นเป็นสง่าอยู่ด้วย เกมจะทำการเก็บคะแนนการขับของคุณตามฝีไม้ลายมือที่คุณทำได้ โดยผู้ที่เข้าเส้นชัยในอันดับ 1-3 นอกจากได้คะแนน 10,8 และ6 ตามลำดับแล้ว คุณจะได้เงินรางวัลด้วย ซึ่งผู้เล่นต้องนำเงินจำนวนนั้นไปปลดล็อคเพื่อซื้อรถมาขับในสนามต่างๆ ซึ่งมีรถหลากหลายถึง 13 ประเภท 42 คัน (ถ้าจำไม่ผิด) แบ่งเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า/หลัง ขับเคลื่อน 4 ล้อ,รถแบบคลาสสิค,รถ Buggy,รถบรรทุกและอื่นๆ จากหลายค่าย มิตซูบิชิ ,ซีตรอง ,เปอโยต์ ,ซูบารุ,โตโยต้า,เฟียต,ออดี้,BMW ซึ่งทุกคันทำโมเดลรถออกมาได้ดีและมีความแรงเวลาขับต่างกัน

ความเป็นแรลลี่ที่วัดผลแพ้ชนะกันที่เวลา เกมภาคนี้ค่อนข้างจะถูกกลืนหายไปพอสมควร เนื่องจากมีการแข่งแบบไล่บี้กันในสนามด้วย หนำซ้ำในโหมดอาชีพยังนำสนามแข่งเดิมๆมาวนให้ขับใหม่ แค่เปลี่ยนรถ เพิ่มรอบเท่านั้น ความเบื่อหน่ายจึงเกิดขึ้นได้เมื่อเล่นเกมนี้ไปนานๆ ส่วนตัวเข้าใจว่าผู้พัฒนาคงอยากให้ผู้เล่นเห็นภาพตอนเราไล่จี้รถคันอื่นว่าพวกเขาทำภาพออกมาได้อารมณ์อย่างไร แต่บางครั้งมันก็ทำให้เกมมัวหมองลงไปได้ ทั้งเวลาเซตตัวรถใหม่เมื่อรถเสียหลัก ลองนึกดูซิว่าเวลาภาพรถ 2 คัน ทะลุผ่านกันไปได้ ทั้งๆที่บางครั้งก็พบว่ามันก็ชนกันได้ด้วย



ภาพฉากในสนามต่างๆและเส้นทางใน “เดิร์ธ” สร้างความตื่นตาตื่นใจได้เกือบทั้งหมด ทั้งโทนสี,เส้นทางลดเลี้ยวเคี้ยวคด,อุปสรรคกีดขวางทาง ,ต้นไม้ใบหญ้าที่พลิ้วไหว และแสงเงาที่พาดผ่านลงมา บางสนามที่ขับเข้าไปในป่า เราจะได้ยินเสียงจิ้งหรีดดังออกมาด้วย ส่วนเสียงรถยนต์เวลาขับก็ทำออกมาได้ดี ยิ่งเวลาเราเลือกมุมมองจากในตัวรถสภาพเสียงจะเปลี่ยนไปเป็นอีกโทนหนึ่งเลย

นอกจากนี้เรายังได้ยินเสียงเพื่อนที่บอกเส้นทางข้างๆ (เนวิเกเตอร์) บอกโค้ดให้เราทราบด้วยว่าโค้งนี้จะต้องเลี้ยวมากน้อยขนาดไหน เส้นทางข้างหน้าจะมีเนินให้กระโดดหรือเปล่า และมีทางตรงยาวขนาดไหน เมื่อผู้เล่นมองไปที่เส้นยาวๆทางด้านซ้ายมือของจอนั้นจะเป็นตัวที่บ่งบอกระยะทางที่เราขับ โดยจะมีขีดขั้นเป็นช่วงๆ ตรงจุดนั้นเองจะเป็นตัวเช็คเวลาว่าเราขับเร็วหรือช้ามากน้อยขนาดไหน ถ้าเป็นสีแดงขึ้นมาก็แสดงว่าผู้เล่นขับได้ช้ากว่าจะเอาชนะได้แล้ว

สนามที่ผู้เล่นต้องขับ 3 เที่ยวในเส้นทางแบบไม่วนซ้ำในโหมดอาชีพ สนามสุดท้ายจะเปิดให้ผู้เล่นซ่อมรถส่วนที่เสียหายได้ โดยมีเวลาเป็นนาทีในจำนวนจำกัดให้เลือกซ่อมส่วนต่างๆ แต่หากใครอยากจะปรับแต่งรถเอง ตัวเกมก็มีให้เลือกแต่งได้ 6 ส่วนด้วยกัน ขณะที่ในโหมดการเล่นแบบมัลติเพลเยอร์ “เดิร์ธ” ทำออกมาแบบลวกๆ แค่เอาเวลาผู้เล่นมาวัดกันผ่านออนไลน์ เล่นแบบ 2 คนแข่งกันในเครื่องเดียวก็ไม่ได้ แต่หากเอาเครื่องมาต่อลิงค์กันจึงจะสามารถเล่นกันได้ จุดนี้เองเป็นข้อด้อยที่โดนวิพากษ์วิจารณ์ไปเยอะ ส่วนการเล่นในโหมดอื่นในเกมยังมีโหมด “Rally World” และโหมด “Championship” ที่แยกการแข่งเป็นระดับชาติ,ยุโรป,นานาชาติและระดับโลก

เมื่อเราย้อนกลับไปมองเกมภาคเก่าของ “โคลิน แมคเร” รถเราสามารถเปิดไฟในยามค่ำคืน หรือใช้ที่ปัดน้ำฝนทำงานกรณีฝนตกลงมา แต่ในภาคนี้อารมณ์ขับในตอนฝนตกและช่วงเวลากลางคืนหดหายไป เนื่องจากตัวเกมจะเน้นไปที่สภาพสนามเชอะแฉะ โคลน ฝุ่น มาเปรอะเปื้อนตัวรถเวลาขับผ่านมากกว่า

ลองคิดดูซิว่า หากเรามีจอยพวงมาลัยแบบครบชุด สวรรค์ในโลกแห่งความเร็วที่คุณไม่สามารถทำได้ในชีวิตจริงรอคุณอยู่ในแนวเกมแรลลี่ที่พยายามเอาความสมจริงกับการเล่นแบบเอามัน มาบรรจบอยู่ใน “เดิร์ธ” แล้ว แม้จะไม่เต็มร้อยก็เถอะ...



---------------------------------------------------------------------------------------






เกมการเล่น9
กราฟิก9
เสียง8
ความคิดสร้างสรรค์8.5
ความคุ้มค่าเกมเล่นเอามัน
ภาพรวม8.9


By… FMMAN
กำลังโหลดความคิดเห็น