ผู้เชี่ยวชาญแย้ง "ติดเกม" ไม่ใช่โรค

ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์แย้ง AMA อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าผู้ที่มีอาการติดวีดีโอเกมจัดอยู่ในประเภทเดียวกับกลุ่มผู้ป่วยทางจิต แนะควรศึกษาค้นคว้าข้อมูลให้ละเอียดก่อนทำการวินิจฉัยวินิจฉัย จิตแพทย์ย้ำถึงจะไม่มีการจัดประเภทผู้ป่วยที่ติดเกม แต่การเล่นเกมเป็นเวลานานก็ทำให้เกิดเสียต่อพฤติกรรมการเข้าสังคมของผู้ที่เล่น

ผู้เชี่ยวชาญจากหลายฝ่ายยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่นำมาอภิปรายในการประชุมประจำปีของ "สมาคมการแพทย์แห่งอเมริกา" (American Medical Association หรือ AMA) โดยกล่าวชี้แจงว่า เรื่องที่ AMA เสนอให้จัดประเภทผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการเล่นเกมออนไลน์และวีดีโอเกม ว่าควรจะทำการค้นคว้าวิจัยให้ลึกกว่านี้เสียก่อน จึงจะสามารถสรุปได้ว่ากรณีนี้เป็นลักษณะของอาการป่วยทางจิต

"ยังไม่มีข้อสรุปใดที่สามารถยืนยันได้ว่ากรณีนี้ (การติดเกม) ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยทางด้านสรีระร่างกายเช่นเดียวกับผู้ป่วยที่ติดแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดประเภทอื่น และยังไม่มีการนำคำจำกัดความใด มาใช้เรียกลักษณะอาการนี้"

กลุ่มจิตแพทย์ ได้เสนอความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า อาการเสพติดวีดีโอเกมควรจะจัดให้เป็นหนึ่งในอาการผิดปกติทางจิตใจในการวินิจฉัยโรคในผู้ป่วยอเมริกัน และจัดทำขึ้นเป็นคู่มือสถิติให้สมาคมจิตเวชศาสตร์ของอเมริกาได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการวินิจฉัยผู้ป่วยที่มีอาการทางจิต พร้อมทั้งเพิ่มเงื่อนไขลงในกรมธรรม์ประกันภัยให้คุ้มครองผู้ป่วยที่มีอาการนี้ด้วย และกล่าวต่ออีกว่า ถ้าเรื่องได้รับคำรับรองจากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์แล้ว ก็จะได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในอาการป่วยทางจิตซึ่งจะรวมอยู่ในคู่มือวินิจฉัยโรคที่จะตีพิมพิ์ในปี 2012

"บางครั้งการเล่นวีดีโอเกมก็ไม่ได้ทำให้เกิดอันตราย แต่ในบางกรณีอาจจะต้องได้รับได้ความช่วยเหลือเช่นเดียวกับผู้ที่มีอาการจิตหลอน ถ้าเป็นผู้ป่วยที่อยู่ในขั้นรุนแรงก็จะต้องเฝ้าดูอาการกันวันต่อวัน", "ในส่วนของการแก้ไขปัญหานี้ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากการรักษาผู้ป่วยที่ติดแอลกอฮอล์ เพราะผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมเหมือนๆ กันคือ ควบคุมตนเองไม่ได้, ไร้เหตุผล และขาดความสามารถในการหักห้ามใจไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งนั้น" Dr. Thomas Allen จากศูนย์การแพทย์ Osler Medical Center in Towson Maryland กล่าว

Dr. Louis Kraus จากสถาบันการศึกษาทางด้านจิตวิทยาในเด็กและวัยรุ่นในอเมริกา (American Academy of Child and Adolescent Psychiatry) และเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาที่ มหาวิทยาลัย Rush University Medical Center กล่าวว่า ในเรื่องนี้ยังไม่สามารถสรุปแน่ชัดได้ว่าการติดวีดีโอเกมถือเป็นอาการเสพติดได้หรือไม่ และมันไม่มีรูปแบบพฤติกรรมการติดเกมที่ตายตัว เนื่องจากเด็กแต่ละคนจะมีเหตุจูงใจหลายประการเป็นองค์ประกอบในการเล่นเกม

"แม้ว่ามันจะใช่หรือไม่ใช่การเสพติดก็ตาม แต่การเล่นเกมเป็นเวลานานก็เป็นการทำให้ผู้ที่เล่นเกมมีพฤติกรรมแยกตัวออกห่างจากกิจกรรมที่สำคัญอื่นๆ โดยจะทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับการเล่นวีดีโอเกม แต่ใช้เวลาเพียงน้องนิดในการอยู่กับครอบครัว, เข้าสังคม และออกกำลังกาย พฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้พวกเขาสูญเสียสิ่งสำคัญหลายๆ อย่าง ซึ่งอาจจะมีทั้งสิ่งที่สามารถชดเชยในภายหลังได้อย่างความบกพร่องด้านการศึกษา แต่พวกเขาจะไม่สามารถชดเชยในเรื่องของการเข้าสังคมภายนอกได้"

คณะกรรมการของ AMA จะทำการพิจารณาความคิดเห็นทั้งหมดที่เสนอมา พร้อมทั้งเปิดรับความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยวิธีการโหวตผ่านทาง AMA 555 ในปลายสัปดาห์นี้

สมาคมการค้าคอมพิวเตอร์และอุตสาหกรรมวีดีโอเกม (The Entertainment Software Association) กล่าวว่า การทำวิจัยเพิ่มเติมในเรื่องนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่จะทำการจัดประเภทให้ผู้ป่วยที่มีอาการติดวีดีโอเกมเป็นผู้ป่วยทางจิต

"ติดเกม" เป็นโรคชนิดใหม่ ?

ข้อมูลและภาพประกอบจาก
สำนักข่าวรอยเตอร์