การควบคุมเบื้องต้น
-หยอดเหรียญเข้าไป และกดปุ่ม START
-ในหน้าจอจะปรากฏให้เลือกจำนวนผู้ขับขี่, รถที่จะใช้, รูปแบบของเกม, เพลง และอื่น ๆ ผู้เล่นเปลี่ยนการเลือกโดยการหมุนพวงมาลัย และเหยียบคันเร่งหรือกด START เพื่อเลือก
การควบคุมเกม
-ควบคุมรถด้วยการหมุนพวงมาลัย เคลื่อนรถไปด้านหน้าด้วยการเหยียบคันเร่ง และหยุดรถด้วยการเหยียบเบรก
-หากเลือกใช้เกียร์แบบ Manual จะต้องสับเปลี่ยนเกียร์ขึ้นหรือลงให้เหมาะกับความเร็วรถ
-เปลี่ยนมุมมองรถให้เป็นแบบบุคคลที่ 3 ด้วยปุ่ม VIEW CHANGE
-หยุดการเคลื่อนไหวของตัวถังรถด้วยปุ่ม MOTION STOP เมื่อกดแล้วเครื่องเล่นจะหยุดเคลื่อนไหวตลอดระยะเวลาที่เหลือในเกม
ลักษณะเบื้องต้นของเกม
เกมนี้เป็นเกมขับรถที่สามารถขับเพียงคนเดียว หรือขับคู่กันได้ โดยหากเป็นการขับคู่กันการเปลี่ยนผู้ขับจะเกิดขึ้นเมื่อเกิดการ “ขับรถชนคันอื่น, ขับชนกำแพง, หรือถึงจุดที่เป็นทางแยกในถนน”
ในเกมนี้ผู้เล่นจะต้องพยายามขับให้ถึงเส้นชัยภายในเวลาที่กำหนด เวลาที่จำกัดไว้จะมีการต่อให้เมื่อถึงจุด checkpoint และเกมจะจบลงทันทีหากเวลาหมด หรือขับจนถึงเส้นชัย แต่ละด่านในเกมจะจบลงด้วยทางแยกของถนน ซึ่งผู้เล่นจะต้องเป็นผู้เลือกเส้นทางที่จะขับเอง โดยเส้นทางด้านซ้ายจะเป็นเส้นทางที่มีความยากน้อยกว่าเสมอ
ใน 1 Course จะประกอบไปด้วยด่านทั้งสิ้น 15 ด่าน ประกอบด้วย 5 ทางแยก และภายในเกมจะมีให้เลือก 2 Course คือ OutRun2SP Course และ OutRun2 Course หากเล่นคนเดียวจะสามารถเลือกโหมดการเล่นได้ 3 แบบ คือ โหมด OutRun, โหมดเก็บหัวใจ และโหมด Time Attack
การเล่นแบบแข่งขัน (Versus) จะสามารถให้ผู้เล่นเข้าร่วมแข่งขันได้มากถึง 8 คน
หน้าจอการตั้งรูปแบบการเล่น
1.การเข้าสู่รูปแบบการแข่งขัน – หากเครื่องเล่นหลายเครื่องถูกต่อไว้ด้วยกัน เมื่อผู้เล่นทำการหยอดเหรียญและกดปุ่ม START เครื่องจะปรากฏหน้าจอ “Entry has been closed. Please stand by.” ที่หน้าจอของผู้เล่นคนนั้น ซึ่งหากผู้เล่นอื่นต้องการที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน จะสามารถเข้าร่วมได้จากการหยอดเหรียญที่เครื่องเล่นอื่น ซึ่งจะมีข้อความปรากฏบนหน้าจอว่า “Waiting for entries” และต้องทำการหยอดเหรียญก่อนที่เวลาจะนับจนเหลือ 0
การปิดการแข่งขัน – ให้ผู้เล่นที่ทำการกดปุ่ม VIEW CHANGE และเหยียบเบรกพร้อมกัน ก่อนที่จะมีผู้เล่นอื่นทำการหยอดเหรียญ (เหยียบเบรกขณะที่กดปุ่ม VIEW CHANGE ค้างไว้) การปิดการแข่งขันสามารถกระทำได้อีกวิธีด้วยการกดปุ่ม START ค้างไว้ เวลาที่นับรอการแข่งจะเป็น 0 เมื่อทำการปิดการแข่งขัน ระบบการเล่นแบบคนเดียวจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอแทน
การตั้งค่าการเล่นแบบคนเดียว
เลือกคนขับหลัก
การเลือกคนขับหลัก (ผู้ที่จะทำการขับก่อน) สามารถเลือกโดยการเหยียบคันเร่งของที่นั่งที่จะทำหน้าที่เป็นคนขับหลัก ในขณะที่แสดงหน้าจอ “Step on the gas pedal to select the main driver” จากนั้นส่วนควบคุมต่าง ๆ ของคนขับหลักจะปรากฏเป็นสีเขียว และคนขับหลักจะต้องทำหน้าที่เป็นผู้เลือกรายละเอียดต่าง ๆ ที่เหลือต่อไป
เลือกจำนวนคนขับ
ในหน้าจอเลือกจำนวนคนขับ “Select the number of drivers” ให้คนขับหลักทำการเลือกว่าจะขับแบบคนเดียวหรือ 2 คน หากเป็นการขับแบบคนเดียว จะมีโหมดการเล่นให้เลือก คือ “โหมด OutRun” “โหมดเก็บหัวใจ” และ “โหมด Time Attack” ทว่าการเลือกขับแบบ 2 คน จะสามารถเลือกได้เพียง “โหมด OutRun” เท่านั้น หากเลือกเล่นแบบ 2 คน หน้าจอหยอดเหรียญเพื่อเพิ่ม credit จะปรากฏขึ้น
การเลือกรถ
หมุนพวงมาลัย: ดูตัวเลือก
เหยียบคันเร่ง: เลือก
เหยียบเบรก + เปลี่ยนเกียร์: เปลี่ยนสีรถ
ผู้เล่นสามารถเลือกรถจากรถทั้งสิ้น 10 คัน คือ:
“F50”, “Enzo Ferrari”, “360 Spider”, “F40”, “Testarossa”, “288 GTO”, “512 BB”, “Dino 246 GTS”, “365 GTS/4, Daytona”, “250 GTO”
การเปลี่ยนสีรถ
เมื่อเหยียบเบรกในขณะทำการเลือกรถ สีของรถที่สามารถเป็นไปได้จะแสดงขึ้นที่บริเวณขวาล่างของจอ การเปลี่ยนสีสามารถกระทำโดยการใช้เกียร์ทำเปลี่ยนสีขึ้นรถ
การเลือกระบบเกียร์
หมุนพวงมาลัย: ดูตัวเลือก
เหยียบคันเร่ง: เลือก
หลังจากทำการเลือกรถ ผู้เล่นจะต้องทำการเลือกระบบการเปลี่ยนเกียร์ โดย
-ระบบอัตโนมัติ: การเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
-ระบบ Manual: ผู้เล่นทำการเปลี่ยนเกียร์ด้วยเกียร์
สำหรับเกียร์ในระบบ Manual จำนวนเกียร์จะขึ้นอยู่กับรุ่นของรถ คือ
6 เกียร์ : F50, Enzo Ferrari, 360 Spider
5 เกียร์ : F40, Testarossa, 288 GTO, 512 BB, Dino 246 GTS, 365 GTS/4, Daytona, 250 GTO
การเลือกโหมดเกม
หมุนพวงมาลัย: ดูตัวเลือก
เหยียบคันเร่ง: เลือก]
ปุ่ม View Change: OutRun2/OutRun2SP]
ผู้เล่นทำการเลือกรูปแบบของเกม
-โหมด OutRun <พยายามพารถเข้าเส้นชัยให้ได้พร้อมกับแฟนของคุณ>
เก็บแต้มจากการจัดการกับคู่แข่งของคุณบนเส้นทางไปยังเส้นชัย
-โหมดเก็บหัวใจ พยายามเก็บ “หัวใจ” ให้ได้มากที่สุด ด้วยการทำตามความต้องการของแฟนคุณ
ทำตามภารกิจต่าง ๆ ที่ปรากฏขึ้นตามการเรียกร้องของแฟนคุณ เพื่อสร้างหัวใจและพยายามรักษาไว้ให้ได้
-โหมด Time Attack แข่งกับรถผี “Ghost Car” เพื่อให้ได้รับการบันทึกชื่อและสถิติ
แข่งขันกับรถที่ทำเวลาเร็วที่สุดที่ผู้เล่นอื่น ๆ ทำไว้บนเครื่อง หรือ “Ghost Car” เพื่อสร้างสถิติใหม่
การกดปุ่ม VIEW CHANGE จะทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกCourse ระหว่าง OutRun2SP และ OutRun2 ได้
การเลือกโหมดขับแบบ 15 ด่านต่อเนื่อง
หากมีการเปิดใช้งานโหมดดังกล่าว ผู้เล่นจะสามารถเลือกขับแบบ 15 ด่านต่อเนื่องได้ทั้งในโหมด OutRun และโหมด Time Attack
การปรับแต่งค่า (สำหรับโหมด Time Attack เท่านั้น)
หมุนพวงมาลัย: ดูตัวเลือก
เหยียบคันเร่ง: เลือก
จะสามารถปรับแต่งค่าได้ คือ:
-แบบปรกติ: มุ่งเน้นด้านการควบคุม, ความเร็วสูงสุดของรถจะอยู่ที่ 293 km/h
-แบบ Tuned หรือปรับแต่ง: มุ่งเน้นด้านความเร็ว, ความเร็วสูงสุดของรถจะอยู่ที่ 300 km/h
หมายเหตุ: การตั้งค่าแบบ Tuned จะเน้นผู้เล่นที่มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากรถจะบังคับยากกว่า
การเลือกเพลงประกอบ
หมุนพวงมาลัย: ดูตัวเลือก
เหยียบคันเร่ง: เลือก
ปุ่ม View Change: เปลี่ยนหน้าจอเลือกเพลง
เหยียบเบรก + เปลี่ยนเกียร์: ปรับแต่งสมดุลเสียง
เพลงประกอบในเกมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ถึง 14 เพลง การเลือกปุ่ม RANDOM ที่บริเวณขวาสุด จะเป็นการสุ่มเลือกเพลงที่จะใช้
การปรับแต่งเสียงสามารถทำได้ด้วยการเหยียบเบรก และการปรับเกียร์ขึ้นลง ซึ่งการปรับแต่งจะส่งผลให้เสียงเพลงประกอบ และเสียงเครื่องยนต์เปลี่ยนแปลงไปอย่างสอดคล้องกัน
การตั้งค่าการเล่นแบบแข่งขัน
การเลือกด่าน
หมุนพวงมาลัย: ดูตัวเลือก
เหยียบคันเร่ง: เลือก
ผู้เล่นเลือกด่านต่าง ๆ ดังนี้
-แบบพิเศษ: เป็น Course ที่ออกแบบมาเพื่อเล่นแบบแข่งขันโดยเฉพาะ เป็น Course ที่เกิดจากการประสมประสานระหว่าง OutRun2SP และ OutRun2
-แบบ OutRun2SP: เป็น OutRun2SP Course
-แบบ OutRun2: เป็น OutRun2 Course
การเลือกโหมดแข่งขันแบบ 15 ด่านต่อเนื่อง
หากมีการเปิดใช้งานโหมดดังกล่าว ผู้เล่นจะสามารถเลือกขับแข่งขันกันแบบ 15 ด่านต่อเนื่องได้
การเลือกรถ
สามารถเลือกได้ต่อเมื่อได้ทำการตั้งค่าเป็น “สามารถเลือกรถได้” เท่านั้น
หมุนพวงมาลัย: ดูตัวเลือก
เหยียบคันเร่ง: เลือก
เหยียบเบรก + เปลี่ยนเกียร์: เป็นการเปิดใช้ระบบ Player Only “PO” หรือระบบผู้เล่นเท่านั้น
ปุ่ม View Change + เปลี่ยนเกียร์: เป็นการเปิดใช้ระบบ No Handicap “NH” หรือระบบไม่มีการต่อ
เช่นเดียวกับการเล่นคนเดียว ผู้เล่นจะสามารถเลือกรถได้ทั้งสิ้น 10 คันตามที่กล่าวไป ในโหมดแข่งขันสีของรถจะถูกกำหนดไว้ตายตัวดังนี้ – ผู้เล่นคนที่ 1: แดง, ผู้เล่นคนที่ 2: เหลือง, ผู้เล่นคนที่ 3: ขาวหรือเงิน (ขึ้นอยู่กับ Model), ผู้เล่นคนที่ 4: ดำ
การเปิดใช้ระบบไม่มีการต่อ (NH) ในการเล่นแบบแข่งขัน ผู้เล่นที่ขับอยู่ในลำดับที่ 2 และลำดับถัด ๆ ไป จะสามารถไล่ตามผู้เล่นที่ขับนำได้ง่ายขึ้นด้วยระบบนี้ ระบบไม่มีการต่อ (NH) คือ การแข่งโดยที่ไม่มีการต่อดังกล่าวหากผู้เล่นทุกคนที่เข้าแข่งมีการเลือกระบบไม่มีการต่อ การแข่งจะเริ่มต้นขึ้นในระบบดังกล่าว
การเปิดใช้ระบบผู้เล่นเท่านั้น (PO)ในระบบผู้เล่นเท่านั้น จะไม่มีรถอื่นใดปรากฏในสนาม นอกเหนือไปจากรถของผู้เล่นหากผู้เล่นทุกคนที่เข้าแข่งมีการเลือกระบบผู้เล่นเท่านั้น การแข่งจะเริ่มต้นขึ้นในระบบดังกล่าว
การควบคุมแบบพิเศษ
-วิธีลัด-ในระหว่างการตั้งค่าการเล่น ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะเริ่มต้นเกมได้ด้วยรูปแบบการตั้งค่าที่เหมือนกับเกมที่ผ่านมา ด้วยการปฏิบัติดังนี้ เหยียบเบรก + ปุ่ม View Change + ขึ้นเกียร์สูง (ตบเกียร์ลงในขณะที่เหยียบเบรกและกดปุ่ม View Change) เมื่อกระทำแล้วจะปรากฏหน้าจอลัดขึ้นเพื่อสอบถามตอบรับการตั้งค่าดังกล่าว หมายเหตุ : หากเกมที่ผ่านมาเป็นเกมแบบขับ 2 คน, ขับแข่งขัน หรือขับ 15 ด่านต่อเนื่อง วิธีลัดจะไม่สามารถเลือกได้
หน้าจอแสดงผล (ทุกโหมด)
ตัวนับเวลาจะแสดงอยู่ด้านบนตรงกลางของหน้าจอ
-หากเวลาเหลือ 0 เกมจะจบทันที
-เวลาจะเพิ่มขึ้นเมื่อผ่านจุด Check Point
-หากขับแบบ 2 คน สัญลักษณ์คนขับจะอยู่บนด้านที่กำลังขับอยู่
-เมื่อเกิด Slipstreaming คำว่า “Slipstream” จะปรากฏอยู่ใต้เลขบอกเวลา
บนหน้าจอด้านซ้ายบน เวลาที่ใช้ไปทั้งหมด (สำหรับการเล่นคนเดียว) ตำแหน่งปัจจุบัน (สำหรับการเล่นแบบแข่งขัน) และเส้นทางรถจะปรากฏอยู่บนแผนที่
-เวลาที่ใช้ไปทั้งหมดจะแสดงให้เห็นว่าเวลาผ่านไปเท่าใดหลังจากเริ่มเกม
-ตัวแสดงอันดับจะบ่งบอกถึงอันดับในปัจจุบันของผู้เล่น ระหว่างจุดเริ่มต้น และเส้นชัย
-แผนที่เส้นทาง จะแสดงให้ทราบว่าผู้เล่นใช้เส้นทางใดอยู่
บนหน้าจอด้านซ้ายล่าง มิเตอร์บอกความเร็วและมิเตอร์บอกรอบเครื่องจะถูกแสดงไว้ เช่นเดียวกับตัวบ่งบอกเกียร์ที่ใช้อยู่ในขณะนั้น
-มิเตอร์บอกความเร็วจะบอกความเร็วขณะนั้น และเมื่อเกิด Slipstreaming มิเตอร์จะเป็นสีฟ้า
-มิเตอร์รอบเครื่องจะบอกอัตราการหมุนของรอบเครื่องยนต์
-ตัวบ่งบอกเกียร์จะบ่งบอกเกียร์ที่กำลังใช้งานอยู่
-ตัวบ่งบอกการเปลี่ยนเกียร์ จะมีไว้เพื่อบอกให้ทราบถึงจังหวะเปลี่ยนเกียร์ที่ถูกต้อง (จะเป็นสีแดงเมื่อถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนเกียร์ขึ้น)
หมายเหตุ: ตัวบ่งบอกการเปลี่ยนเกียร์จะไม่แสดงขึ้นหากเล่นแบบเกียร์อัตโนมัติ
การควบคุม (ทุกโหมด)
การดริฟท์
1.หลังจากผ่อนคันเร่งแล้ว ให้เหยียบเบรกทันที
2.หมุนพวงมาลัยอย่างเร็วและแรงไปยังทิศทางตามทางโค้ง และเหยียบคันเร่ง หรือ
หากใช้เกียร์ Manual ให้ลดเกียร์ลงก่อนถึงโค้ง และหมุนพวงมาลัยอย่างรวดเร็วไปตามทางโค้ง
Slipstreaming
เมื่อขับรถอยู่ตามหลังคู่แข่ง หรือผู้เล่นคนอื่น ผู้เล่นมีโอกาสที่จะเก็บ slipstream ได้ และเมื่ออยู่ในสถานะ slipstreaming ผู้เล่นจะสามารถขับรถได้เร็วขึ้นและสามารถที่จะขับได้เร็วเกินกว่าความเร็วจำกัดของรถที่ได้ระบุไว้
การเปลี่ยนแปลงเมื่อเกิด slipstreaming คือ
-“Slipstream” จะปรากฏอยู่ล่างตัวนับเวลา
-สีของมิเตอร์บอกความเร็วกลายเป็นสีฟ้า
-เสียงของเครื่องเบาลงเล็กน้อย
การเล่นแบบคนเดียว : โหมด OutRun
คะแนนจะถูกแสดงอยู่บนจอด้านบนขวา และตัวเลขด้านล่างจะบอกถึงคะแนนที่ได้รับจากการแซงคันอื่นได้ gป็นรูปแบบที่เล่นง่าย เหมาะจะเป็นการขับรถเล่นพร้อมแฟน เลือกเส้นทางซ้ายหรือขวาก็ได้เมื่อมาถึงทางแยกของถนน โดยเน้นเป้าหมาย คือ การไปให้ถึงเส้นชัยภายในเวลาที่กำหนด ฉากจบจะมีความแตกต่างกันออกไปโดยขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เลือก คะแนนของผู้เล่นจะขึ้นเมื่อสามารถแซงรถศัตรูได้
วิธีการที่จะทำให้ได้คะแนนสูง
ท่ามกลางรถของศัตรูจะมีรถของคู่แค้นอยู่ โดยจะมีสัญลักษณ์แสดงอยู่บนรถเป็นคำว่า “RIVAL”รถของคู่แค้นจะมีความเร็วสูง และยากที่จะแซงได้ แต่จะมีคะแนนโบนัสมากหากสามารถทำได้ คะแนนที่ได้จากการแซงรถศัตรู จะมีความแตกต่างกันออกไปตามวิธีการแซง พยายามค้นหาวิธีการแซงที่ได้คะแนนสูงที่สุด
การเล่นแบบคนเดียว : โหมดเก็บหัวใจ
จำนวนของหัวใจที่เก็บได้ในแต่ละภารกิจจะถูกแสดงไว้บนหน้าจอด้านขวาบน ที่มุมจอด้านขวาล่างจำนวนรวมหัวใจทั้งหมด และภาพเงาของผู้หญิงจะถูกแสดงไว้ เมื่อจำนวนรวมของหัวใจเพิ่มขึ้น ภาพเงาของผู้หญิงจะมีสีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ในการเล่นรูปแบบนี้ ผู้เล่นจะต้องสร้างความประทับใจให้กับหญิงสาวสวยโดยพยายามทำทุกอย่างที่เธอขอ ผู้เล่นต้องเก็บสะสมหัวใจซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงถึงความประทับใจต่อเธอที่มีต่อคุณ
ผู้เล่นต้องพยายามทำตามคำร้องขอของหญิงสาวในช่วงเวลาระหว่างคำว่า “START” และ “END” ปรากฏจำนวนหัวใจที่ได้รับขึ้นอยู่กับความยอดเยี่ยมของภารกิจที่ได้กระทำ โดยหญิงสาวจะให้คะแนนคุณเป็นระดับต่าง ๆ ดังนี้:
[AAA, AA, A, B, C, D, E]
วิธีการทำให้ได้หัวใจมาก
การขับรถชนศัตรูจะทำให้จำนวนหัวใจที่ได้ลดลง ดังนั้นจึงต้องขับด้วยความระมัดระวัง หากผู้เล่นสามารถทำภารกิจโดยได้คะแนนในระดับที่ดีติดกันหลายครั้ง จะมีสิทธิ์ได้รับ “การร้องขอพิเศษ” และเป็นโอกาสที่จะทำให้หญิงสาวพอใจและให้คะแนนระดับ AAA แก่ผู้เล่น
การเล่นแบบคนเดียว : โหมด Time Attack
มุมบนขวาจะปรากฏเวลาของรอบที่ใช้ในแต่ละด่าน (หากเวลาที่ทำได้มีค่าน้อยกว่า ghost car เวลาจะปรากฏเป็นสีเขียว) มุมขวาล่างเวลาที่ใช้ในแต่ละส่วนของด่านจะถูกแสดงไว้
เมื่อเสร็จสิ้นในแต่ละส่วน หรือเมื่อมาถึงทางแยก เวลาของ ghost car จะแสดงเป็น 2 ฝั่ง ทั้งด้านซ้ายกลางและขวากลางของจอ ซ้ายมือ คือ ข้อมูลของ ghost car ที่ใช้เส้นทางซ้าย ส่วนขวามือ คือ ข้อมูลของ ghost car ที่ใช้เส้นทางขวา
ข้อมูลเวลาจะเรียงลำดับดังนี้
-รูป ghost car (รุ่นและสี) และชื่อของคนขับ
-Ghost: เวลาที่ ghost car จบในแต่ละทางแยก
-Player: เวลาของผู้เล่นที่จบในแต่ละทางแยก
-Diff: ผลต่างเวลาระหว่าง ghost car และรถของผู้เล่น (จะเป็นสีเขียวถ้าผู้เล่นเร็วกว่า และสีแดงหาก ghost เร็วกว่า)
การตั้งค่ารถและเกียร์จะปรากฏที่มุมล่างซ้าย
ในโหมดนี้ผู้เล่นจะต้องแข่งกับรถ ghost car โดยพยายามที่จะทำเวลาให้เหนือกว่าในแต่ละ Course โดย ghost car จะเป็นตัวแทนของรถที่ทำสิติเวลาไว้เร็วที่สุดในแต่ละด่าน หากผู้เล่นขับเร็วกว่า ghost car เวลาของผู้เล่นจะถูกบันทึกไว้เป็นเวลาของรถ ghost car แทน และชื่อของผู้เล่นจะถูกบันทึกไว้ว่าเป็นผู้ขับ ghost car เช่นกัน
ในแต่ละด่านจะมีข้อมูลของ ghost car 2 คัน คือ ghost car คันที่เลือกทางด้านซ้าย และอีกคันที่เลือกทางด้านขวา ยกเว้นในด่านสุดท้าย คือ ด่านที่ 5 ซึ่งจะมีเวลาของ ghost car เพียงคันเดียวเท่านั้น เวลาของรถที่เร็วที่สุดในแต่ละ Course จะถูกบันทึกแยกไว้ เป็น “Top ghost car” หากผู้เล่นสามารถเข้าสู่ด่านสุดท้ายได้โดยใช้เวลาต่างจาก Top ghost car ไม่เกิน 1 วินาที เวลาของ Top ghost car จะถูกแสดงไว้แทนที่เวลาของ ghost car ปรกติ (จะมีเครื่องหมาย “TOP” อยู่ด้านบน) หากผู้เล่นสามารถเอาชนะ Top ghost car ได้ ผู้เล่นดังกล่าวจะกลายเป็นผู้ที่สามารถขับได้เร็วที่สุดใน Course นั้นทันที การเปิด/ปิดเวลาของรถ ghost car สามารถทำได้ด้วยการกดปุ่ม START ขณะเล่น
การเล่นแบบแข่งขัน
ข้อมูลของคู่แข่งแต่ละคนจะถูกแสดงไว้ที่มุมขวาบน โดยแต่ละผู้เล่นจะมีสัญลักษณ์รูปหน้าเป็นตัวแทน และสถานะของผู้เล่นแต่ละคนจะเปลี่ยนแปลงไปตามการแสดงออกทางสีหน้า และคำพูด ลำดับของหน้าจะเรียงตามลำดับสอดคล้องกับลำดับที่ในการแข่งขณะนั้น และจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างสัมพันธ์กันหากลำดับในการแข่งมีการเปลี่ยนแปลง
ลู่แข่งขันของผู้เล่นจะพิจารณาจากลำดับในการกดปุ่ม Entry เข้าร่วมการแข่งขัน ผู้เล่นที่ไปถึงทางแยกของถนนก่อนจะเป็นผู้เลือกเส้นทางว่าจะไปทางซ้ายหรือขวา สามารถที่จะเลือกการตั้งค่าแบบไม่มีการต่อหรือ “NH” ซึ่งจะทำให้ในการแข่งขันนั้น ไม่มีการต่อให้กับรถคันหลังตามที่ได้กล่าวไปแล้วเบื้องต้น หรือสามารถที่จะเลือกการตั้งค่าแบบผู้เล่นเท่านั้นหรือ “PO” ซึ่งจะทำให้ไม่เห็นรถของคู่แข่งคันอื่น ๆ ทันทีที่รถของผู้เล่นคนใดคนหนึ่งสามารถไปถึงเส้นชัยได้ ตัวนับเวลาจะแสดงคำว่า “Extra Time” ขึ้นมา ซึ่งเกมจะจบลงทันทีสำหรับผู้ที่ไม่สามารถไปถึงเส้นชัยได้ก่อนที่เวลา “Extra Time” จะสิ้นสุดลง
โหมดการขับแบบ 15 ด่านต่อเนื่อง
หากมีการเปิดใช้โหมดการขับแบบ 15 ด่านต่อเนื่อง โหมดการเล่นที่จะสามารถเลือกได้ตามมา คือ:
-“โหมด OutRun แบบ 15 ด่านต่อเนื่อง” (สำหรับเล่นคนเดียว)
-“โหมด Time Attack แบบ 15 ด่านต่อเนื่อง” (สำหรับเล่นคนเดียว)
-“โหมด OutRun2SP แบบ 15 ด่านต่อเนื่อง” (สำหรับเล่นแบบแข่งขัน)
-“โหมด OutRun2 แบบ 15 ด่านต่อเนื่อง” (สำหรับเล่นแบบแข่งขัน)
รูปแบบ 15 ด่านต่อเนื่องจะต่างจากรูปแบบปรกติ ดังนี้:
-แผนที่เส้นทางจะเปลี่ยนไปใช้แบบขับ 15 ด่านต่อเนื่อง
-จะมีการปรับปรุงหน้าจอแสดงตำแหน่ง สำหรับการขับแบบ 15 ด่านต่อเนื่อง
อธิบายรูปแบบ
รูปแบบ Course 15 ด่านต่อเนื่อง จะเป็น Course ที่รวมเอาด่านทั้ง 15 ด่านไว้ด้วยกัน โดยการเชื่อมต่อของแต่ละด่านจะเป็นไปตามลำดับด้านล่าง
[1A -> 2A -> 2B -> 3A -> 3B -> 3C -> 4A -> 4B -> 4C -> 4D -> 5A -> 5B -> 5C -> 5D -> 5E]
ทางแยกของถนนในแต่ละด่านทั้งด้านซ้ายและขวาจะนำไปสู่ด่านต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้
การหยุดเกม
การหยุดเกมจะต้องกระทำตามวิธีที่กำหนดไว้ด้านล่าง (สามารถใช้ได้ในการเล่นแบบคนเดียวเท่านั้น) ทำการหยุดรถ และให้กด [เหยียบเบรก + ปุ่ม View Change + ขึ้นเกียร์สูง (ตบเกียร์ลงในขณะที่เหยียบเบรกและกดปุ่ม View Change)] เมื่อกระทำตามวิธีดังกล่าว หน้าจอด้านล่างจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ หน้าจอดังกล่าวจะเป็นการหยุดเกม และจะเป็นการถามผู้เล่นว่าจะทำการออกจากเกมหรือไม่ ซึ่งหากเลือก “YES” เกมจะสิ้นสุดลงทันที หากเลือก “NO” เกมจะดำเนินต่อไป และหลังจากเลือก “NO” ไปครั้งหนึ่งแล้ว จะไม่สามารถเข้าสู่หน้าจอหยุดเกมได้อีก
การเข้าสู่หน้าจอคำสั่งหยุดเกม จะไม่สามารถทำได้ในเงื่อนไขด้านล่าง:
-เมื่อผู้เล่นยังอยู่ในระยะไม่ห่างจากจุดเริ่มต้น
-เมื่อเวลาที่ปรากฏบนตัวจับเวลาเหลือไม่ถึง 8 วินาที
-เมื่อการเข้าสู่หน้าจอหยุดเกมได้เกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว และมีการตอบ “NO” ไป
การป้อนชื่อ และการจัดอันดับใน INTERNET
การป้อนชื่อ
หมุนพวงมาลัย: ดูตัวเลือก
เหยียบคันเร่ง: เลือก
เหยียบเบรก: ลบ
กดปุ่ม START: สิ้นสุด
เลื่อนเกียร์ขึ้นลง: เลือกรูปแบบอักษร
หากผู้เล่นสามารถทำคะแนนได้ติดอันดับในเครื่อง ชื่อของผู้เล่นจะปรากฏในหน้าจอสาธิตการเล่น (DEMO) และหากผู้เล่นสามารถทำสถิติ ghost car ครั้งใหม่ได้ ชื่อของพวกเขาจะปรากฏอยู่ในหน้าจอข้อมูลเวลา ghost car นอกจากนี้ภายในเกมจะมีระบบซึ่งสามารถนำเอาผลการเล่นแบบคนเดียวไปลงทะเบียนใน INTERNET ได้ หลังจากสิ้นสุดการเล่นแบบคนเดียวในแต่ละครั้ง
อันดับบน INTERNET
หลังจากการป้อนชื่อผู้เล่น จะปรากฏรหัสลับหรือ Password สำหรับผู้เล่นขึ้น ผู้เล่นสามารถลงทะเบียนอันดับคะแนนทาง INTERNET ผ่าน website http://outrun.jp/