CESA เผยตัวเลขอุตสาหกรรมเกมแดนปลาดิบปี 2005 ขยับขึ้น 13.9 % ยอดขายเครื่องเกมพกพาฉุดทะยานไปถึง 51.9 % ขณะที่เครื่องคอนโซลรูดต่ำ 36.8% ส่วนยอดส่งผลิตภัณฑ์เกมไปทั่วโลก 436,000 ล้านบาท PSP นำโด่ง 11.36 ล้านเครื่อง พร้อมแจ้งค่าเฉลี่ยต้นทุนทำเกม PS2 แพงสุด 44 ล้านบาทต่อเกม
ทุกๆปีทาง CESA (Computer Entertainment Supplier's Association) หรือสมาคมผู้ผลิตธุรกิจความบันเทิงคอมพิวเตอร์ของญี่ปุ่นจะรายงานสภาพการเติบโตอุตสาหกรรมเกมญี่ปุ่นออกมาให้ทราบกัน โดยเปรียบเทียบจากตัวเลขปีที่ผ่านๆมา สำหรับในปี 2005 ยอดขายฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์เกม เมื่อคิดรวมกันแล้วจะเพิ่มขึ้นจากปี 2004 13.9 % เพิ่มจาก 436.1 พันล้านเยน(140,000 ล้านบาท)มาเป็น 496.5 พันล้านเยน (160,000 ล้านบาท)
ในส่วนของฮาร์ดแวร์เกมสามารถทำรายได้ 182.4 พันล้านเยน (58,000 ล้านบาท) ยอดพุ่งแบบก้าวกระโดดถึง 51.9 % สืบเนื่องมาจากยอดขายของ 2 เครื่องเกมพกพา โดย DS ขายไปได้ 4.25 ล้านเครื่อง ขณะที่ PSP ขายได้ 2.61 ล้านเครื่อง
ทั้งนี้ มากกว่า 2 ปีที่ผ่านมา เครื่องเกมพกพามีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถึง 63.2 % จากส่วนแบ่งตลาดเกมญี่ปุ่น ตรงข้ามกับเครื่องเกมคอนโซลที่มีแนวโน้มลดลงจากปี 2003 ที่ทำไว้ถึง 68.3 % หล่นมาอยู่ที่ 36.8 % ในปี 2005 หดหายไปถึง 159.8 พันล้านเยน (51,000 ล้านบาท)
ด้านยอดขายฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เกมของญี่ปุ่นที่ส่งไปขายทั่วโลก มีจำนวนถึง 1.36 ล้านล้านเยน (436,000 ล้านบาท) แยกออกเป็นซอฟต์แวร์เกม 487.1 พันล้านเยน (156,000 ล้านบาท) และฮาร์ดแวร์เกม 872.7 พันล้านเยน (280,000 ล้านบาท) ซึ่งตัวเลขที่ถีบตัวสูงขึ้นก็เนื่องมาจากความสำเร็จของเครื่องเกมพกพา โดยนินเทนโดส่ง DS ออกไปขายได้ 7.34 ล้านเครื่อง ส่วนเครื่องเกมบอย แอดวานซ์ SP ขายได้ 6.24 ล้านเครื่อง ขณะที่โซนี่ส่งออก PSP ไปได้ถึง 11.36 ล้านเครื่อง
ตัวเลขหนึ่งที่น่าสนใจที่ทาง CESA เปิดเผยออกมาก็คือค่าเฉลี่ยต้นทุนในการพัฒนาซอฟต์แวร์เกมหนึ่งเกมในแต่ละเครื่องพบว่า การทำเกมลงบนเครื่อง PS2 มีต้นทุนในการทำแพงที่สุด อยู่ที่ 139 ล้านเยนต่อเกม (44 ล้านบาท) ส่วนต้นทุนการทำเกมบน PSP อยู่ที่ 63 ล้านเยนต่อเกม (20ล้านบาท) ขณะที่เกมของเครื่อง DS ใช้ต้นทำเกมอยู่ที่ 39.8 ล้านเยน (12ล้านบาท)
ข้อมูลจาก...
www.gamespot.com