xs
xsm
sm
md
lg

ย้อนตำนาน Diablo II ตอนปิดฉากตำนานอันแสนยาวนาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


---คลิกชมวีดีโอ Diablo II ได้ที่นี่---
ดูวีดีโอประกอบจาก Manager Multimedia

หลังจากที่ Diablo เจ้าแห่งความสยดสยอง ได้ถูกกำจัดไปแล้ว โลกดูเหมือนจะเข้าสู่ความสงบสุข แต่แล้วความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อ Diablo กลับพื้นขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมด้วยพลังที่มากกว่าเดิม โลกกำลังก้าวเข้าสู่ความหายนะ และแล้วก็มีฮีโร่กลุ่มใหม่ปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือเหล่ามวลมนุษย์ใน Diablo II และภาคเสริม Lord of Destruction

เกม Diablo II เป็นเช่นเดียวกับเกม Diablo คือเป็นเกม action role-playing ในลักษณะของ hack and slash ซึ่งเป็นการผจญภัยใน Dungeon หรือคุกใต้ดิน ซึ่งออกจำหน่ายทั้งสำหรับ Microsoft Windows และ Mac OS ในปี 2000 โดย Blizzard Entertainment และพัฒนาโดยทีม Blizzard North

ต่อมาในเดือน เมษายนปี 2001 Diablo II ก็กลายมาเป็นสุดยอดออนไลน์เกมยอดนิยมจากหลายๆเกมที่มีผู้คนนิยมเล่นกันผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งสิ่งที่ช่วยผลักดันให้เกิดความสำเร็จก็เนื่องมาจากการที่ผู้เล่นสามารถเข้าไปเล่นเกมได้อย่างง่ายๆผ่าน Battle.net อีกทั้งยังสามารถเล่นแบบผู้เล่นเดี่ยวหรือผู้เล่นหลายคนผ่านระบบ LAN และอินเทอร์เน็ตหรือผ่าน Battle.net ได้ ซึ่งนำไปสู่การเป็นหนึ่งในจำนวน10 อันดับสุดยอดเกมขายดีบนเครื่องคอมพิวเตอร์ และอันดับ 1 ของเกม role-playing ขายดีสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์

เกมขายดีบนเครื่องคอมพิวเตอร์ แบ่งตามประเภท
-ประเภท Sim - The Sims (16 ล้านชุด)
-ประเภท Adventure - Myst (11 ล้านชุด)
-ประเภท RTS - StarCraft (9 ล้านชุด)
-ประเภท FPS - Half-Life (8 ล้านชุด)
-ประเภท MMORPG - World of Warcraft (6 ล้านชุด)
-ประเภท RPG - Diablo II (7 ล้านชุด)
-ประเภท Action/Adventure - Tomb Raider II (2.24 ล้านชุด)

แนวคิดเกมโดย Stieg Hedlund โดยมีผู้ก่อตั้ง Blizzard North David Brevik Eric และ Max Shaefer ทำหน้าที่ Project Leads สำหรับหน้าที่ต่างๆคือ Engineering, ออกแบบตัวละคร และ ออกแบบสภาพแวดล้อม, การลำดับตอน ส่วนหัวเรือใหญ่ของโปรดักชั่นนี้คือ Matthew Householder และ Bill Roper มีภาคเสริมคือ Diablo II: Lord of Destruction ในปี 2001 และตอนนี้เวอร์ชั่นล่าสุดคือ 1.11b

เนื้อเรื่องของภาคนี้เริ่มขึ้นไม่นานจากภาคที่แล้ว เมื่อ Diablo เจ้าแห่งความสยดสยอง ได้ถูกทำลายลงไป ฮีโร่ของเราจึงได้เก็บหินวิญญาณของ Diablo เอาไว้ ซึ่งเป็นหินวิญญาณที่ผูกพันกันระหว่างเทพและปีศาจ และนำมันใส่ไว้ในร่างของตนเพื่อที่หวังว่าจะเก็บกักมันไว้ตลอดกาล แต่ว่ามันช่างเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เมื่อฮีโร่กลับถูกครอบงำโดย Diablo และไม่สามารถบังคับตัวเองได้

ในไตเติ้ลของ Diablo II ชายที่ชื่อ Marius ได้เล่าถึงการเป็นพยานในตอนที่ ฮีโร้ได้เปลี่ยนไป กลายเป็น Dark Wanderer และปีศาจก็ได้ปรากฏตัวในร้านเหล้า และเขาก็ได้ตาม Dark Wanderer ไปด้วยเหตุผลที่เขาก็ไม่อาจเข้าใจได้

เราก็ได้เริ่มเรื่องในตอนที่หายนะได้ตื่นขึ้นมา และตามรอย Dark Wanderer ไป สุดท้ายก็ไปพบกับเขาที่เมือง Kurast แต่ไม่สามารถหยุดเขาได้ ในเกมจะมีฉากใหญ่ๆทั้งหมด 4 ฉากเรียกว่า Act คือ Act ที่ 1 ถึง Act ที่ 4 และเราจะไม่ได้สู้แค่ Diablo แต่ยังมีพี่น้องของ Diablo อีกสองนั่นก็คือ Mephisto และก็ Baal ซึ่ง Diabloได้ปลดปล่อยพวกเขาออกจากที่กักขัง เราต้องเดินทางไปหลายๆดินแดนเพื่อขัดขวางการยึดครองโลกของ Diablo

ในเกมจะมีตัวละครให้เลือกทั้งหมด 4 ตัวได้แก่ Amazon ซึ่งถนัดการต่อสู้โดยใช้อาวุธระยะไกลคือธนูซึ่งสามารถรวมกับการใช้ธาตุไฟและน้ำแข็ง ถ้าดูโดยทั่วไปจะใกล้เคียงกันกับ Rogue ในภาคแรก แต่ที่แตกต่างกันคือการที่ Amazon ใช้หอกหรือแหลนและหอกซัดได้ ซึ่งใช้รวมกับธาตุสายฟ้าและพิษได้ และมีสกิลพื้นฐานที่มีความแตกต่าง

Barbarian เป็นคาแร็กเตอร์ที่ทรงพลังในการใช้สกิลเกี่ยวกับอาวุธระยะประชิด ใช้อาวุธคู่ได้ สกิลของเขาจะเต็มไปด้วยหลากหลายสกิลสำหรับอาวุธ ทำให้สามารถใช้อาวุธระยะประชิดได้หลากหลาย ซึ่งจะเรียกได้ว่าเป็นคลาสเดียวกับ Warrior ก็ได้ แถมยังมีความอึด ทน และถึกเป็นอย่างมากอีกด้วย

Paladin ก็เป็นตัวละครที่มีอาชีพสาย warrior อีกแบบหนึ่ง แต่เขาจะถนัดการใช้สกิลต่อสู้กับพวก undead พวกซากที่ไม่ยอมตายทั้งหลาย และเขายังถนัดสกิลแบบใชัโล่ด้วย เช่นการใช้โล่กระแทกให้มึน การเพิ่มพลังให้โล่ในการป้องกันต่างๆ หรือการโจมตีรัวๆหลายครั้งโดยใช้ความสามารถ Zeal ความสามารถพิเศษอีกอย่างของ Paladin คือการใช้สิ่งที่เรียกว่าการ buff สำหรับตัวเองและเพื่อนๆในทีม โดยการใช้ auras ต่างๆ เช่น เพิ่มพลังป้องกันพิษ เพิ่มพลังชีวิต เพิ่มความเร็ว หรือการใช้ auras ในการสร้างความเสียหายแก่ศัตรู เป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมด้วยพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง การโจมตีที่รุ่นแรง และ auras ต่างๆที่น่าใช้

Sorceress เป็นตัวละครที่แข็งแกร่งไปด้วยเวทมนตร์สายต่างๆ พวกน้ำแข็ง สายฟ้า และไฟ หรือคาถาที่ทำให้ศัตรูช้าลง และคาถาแช่แข็ง ซึ่งเป็นคาถายอดนิยม เพราะเมื่อศัตรูถูกแช่แข็งเราก็จะสามารถทุบให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ ถึงแม้จะเป็นตัวละครที่แข็งแกร่งเพราะมีคาถาแรงๆให้ใช้มากมาย แต่ว่าตอนเริ่มต้นจะอ่อนแอมากๆ และแพ้การโจมตีทุกชนิด เพราะพลังป้องกันต่ำ ที่สำคัญเป็นตัวละครที่เรียกได้ว่าดื่มขวดยาเพิ่ม mana แทนน้ำเปล่า เพราะการใช้เวทมนตร์ต่างๆต้องใช้ mana จำนวนมาก Sorceress ที่ไม่มี mana ก็เหมือนคนตายดีๆนี่เอง

Necromancer เป็นพวกที่ใช้เวทมนตร์เหมือนๆกับ Sorceress แต่วิธีการใช้แตกต่างกัน เพราะ Necromancer ใช้เวทมนตร์ชุบชีวิตคนตายขึ้นมาเพื่อใช้งาน โดยการเรียก keleton หรือ golem จากศพของศัตรู และใช้มันจัดการกับศัตรูซะ และก็เช่นเดียวกับ Sorceress เพราะตอนเริ่มต้น Necromancer จะอ่อนแอมากๆ และอีกอย่างก็คือ Necromancer ที่ปราศจากลุกสมุน undead ของเขาละก็ Necromancer ก็คือคนตายดีๆนี่เอง

เล็กน้อยๆ
-ชื่อของคนและ ไอเท็ม หรือชื่อสถานที่ส่วนใหญ่ใน Diablo II เอาชื่อของคนใน บริษัท Blizzard มาใช้ครับ
-Secret Cow Level เป็นเรื่องตลกในอินเทอร์เน็ตของ Diablo ซึ่งเล่าถึงการปรากฏตัวของวัวในเกม Diablo ทาง Blizzard เองก็ได้เขัาใจและเห็นใจ จึงได้นำมันมาใส่ใน Diablo II โดยการที่เราต้องสังหาร Diablo หรือใน Lord of Destruction คือต้องสังหาร Baal และกลับไปยัง Act 1 ที่ Rogue Encampment แล้วนำ Wirt's Leg กับ Tome of Town Portal มารวมกันโดยใช้ Horadric Cube เราจะสามารถเปิดประตูสู่ฉาก Secret Cow Level ได้

Diablo II: Lord of Destruction

Diablo II: Lord of Destruction เป็นภาคเสริมแท้ๆของ Diablo II จาก Blizzard North โดยเพิ่มฉากใหม่คือ Act ที่ 5 ซึ่งเป็น ส่วนรอบๆของ Mount Arreat ในดินแดน Barbarian ตอนเหนือ และหัวหน้าฉากคือ Baal และมีสองตัวละครใหม่มาเพิ่มคือ Assassin และ Druid

Assassin จะถนัดการต่อสู้ระยะประชิดการโจมดีด้วย Katar ซึ่งเป็นอาวุธชนิดเดียวที่ Assassin สามารถถือคู่กันทั้งสองมือได้ สกิลท่าไม้ตายเตะต่อย การวางกับดักต่างๆ และยังสามารถเรียกตัวละครเงาซึ่งเป็นร่างเงาของตัวเราออกมาช่วยได้ ดูจะใกล้เคียงกับของ Amazon แต่จะดีกว่า

Druid จะเป็นพวกใช้ธาตุต่างๆเช่นการเรียกไฟ หรือภูเขาไฟขนาดเล็ก และจะถนัดในการเรียกสัตว์มาเป็นผู้ช่วย อย่าง อีกา หมี และหมาป่า และสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์สมิงคือมนุษย์หมีและมนุษย์หมาป่าได้อีกด้วย

อะไรคือเอกลักษณ์ของ Diablo II นอกจาการต่อสู้แบบ hack and slash และการเล่นแบบ point-and-click แล้ว อาชีพของตัวละครจำนวนมาก เสื้อผ้าชุดเกราะเกือบทุกชิ้นที่ใส่จะมีการแสดงกราฟิกให้เห็น มีระดับความยากที่หลากหลายให้ท้าทาย

สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างคือฉากที่มีการสุ่มในแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน ไอเท็มต่างๆพวกอาวุธหรือชุดเกราะที่มีการสุ่มและการแยกประเภทความยอดเยี่ยมของสิ่งของโดยใช้สีเป็นตัวกำหนด เช่นสีฟ้าคือสิ่งของที่มีเวทมนตร์ สีเขียวคือส่วนหนึ่งของไอเท็มเซ็ท สีเหลืองคือไอเท็มหายาก สีทองคือ ไอเท็มพิเศษ พวกไอเท็มเซ็ทก็คือไอเท็มที่เมื่อใส่รวมกันเป็นเซ็ทครบสมบูรณ์จะเพิ่มความสามารถพิเศษให้

ไอเท็มรูซึ่งจะมีรูตั้งแต่ 1 รูขึ้นไป และสามารถจะเอาเพชรชนิดต่างๆหรือหัวกระโหลก และไอเท็มพวก Rune words ใส่เข้าไปเพื่อเพิ่มความสามารถของไอเท็มชิ้นนั้น โดย เฉพาะ Rune words ซึ่งถ้าสามารถหามาและเอามาใส่ในรูเรียงกันได้อย่างถูกต้องก็สามารถที่จะได้ความสามารถพิษแบบมหาศาลไม่แพ้ไอเท็มเซ็ทหรือไอเท็มพิเศษเลย

ไอเท็มสุดมหัศจรรย์ Horadric Cube ซึ่งสามารถเอาไอเท็มหลายๆอย่างมารวมกันแล้วอัพเกรดหรือสร้างไอเท็มใหม่ได้ ซึ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้ามีเกมอื่นๆที่มีอะไรใกล้เคียงหรือเหมือนๆกัน เราอาจจะเรียกได้ว่าเกมแนว Diablo ก็ว่าได้

แล้ว Diablo III ล่ะหายไปไหน มีข่าวลือหลายกระแสว่ามีการสร้างเกม Diablo III แต่แล้ว Blizzard ก็บอกมาปฏิเสธอย่างสม่ำเสมอ จนทำให้มิตรรักแฟนเกมต่างรู้สึกเซ็งไปตามๆกัน แต่ก็มีข่าวที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นเมื่อมีข่าวออกมาว่าผู้สร้าง Diablo ได้ออกจากบริษัท Blizzard และไปสร้างเกมใหม่ที่ชื่อว่า “Hellgate London”

Flagship Studios ซึ่งนำทีมโดย Bill Roper และ David Brevik ได้นำเสนอเกมใหม่ของพวกเขาชื่อว่า Hellgate London โดยที่จะเอาระบบส่วนใหญ่ของ Diablo มาใช้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นฉากที่จะมีการสุ่มในแต่ละครั้งของการเล่น การสุ่มไอเท็ม ลักษณะของไอเทมต่างๆ และระบบการเล่นออนไลน์ในแบบของ Diablo แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือการการเล่นด้วยมุมมองแบบบุคคลที่ 1 และบุคคลที่ 3 และจะเป็น action มากขึ้นกว่าเดิม ด้วยแนวคิดเรื่องระบบการเล่นแบบ Diabloและวิธีการบังคับแบบ Half-Life จะสร้างมิติใหม่อะไรให้กับเกมซีรีย์นี้ และจะถูกใจแฟนเกมรุ่นเก๋าที่ยังรักจะเล่นเกมในรูปแบบ Diablo เดิมๆหรือไม่คงต้องติดตามดูกันต่อไป

ความลับใน Patch 1.11

สำหรับ Patch 1.11 นั้นได้ใส่สิ่งที่เป็นความลับเพิ่มลงไปอีก นั่นก็คือ "Überquest" เราจะต้องเก็บสะสมกุญแจ คือ Key of Hate จาก the Summoner,Key of Destruction จาก Nihlathak และ Key of Terror จาก the Countess แล้วนำไปรวมกันใน Horadric Cube เพื่อเปิด ประตูเข้าไปต่อ สู้กับ Lilith (Andariel),Über Izual หรือ Über Duriel ซึ่งจะให้ชิ้นส่วนต่างๆของร่างกาย และนำไปรวมกันใน Horadric Cube เพื่อเปิดประประตูเข้าสู่ฉากพิเศษ Chaos Tristram

Chaos Tristram เมื่อเข้าไปแล้วเราต้องสู้กับหัวหน้าใหญ่ในเกมทั้งหมด 3 ตัว ซึ่งจะได้ไอเท็มพิเศษนั่นคือ Hellfire Torch เป็น charm ชนิดพิเศษ ซึ่งจะให้ +3 to all skills of a random class, random bonuses to all attributes และ all resistances, และให้ 25% chance to cast Diablo's Firestorm attack on striking จะจริงแท้แค่ไปก็ต้องลองไปค้นหากันดู

สุดท้ายนี้ส่วนตัวแล้วยังไม่อยากกล่าวคำอำลากับ Diablo II แต่จากสถานการณ์ต่างๆทำให้ดูเหมือนว่านี่คือภาคสุดท้าย แม้แต่ตอนจบของเกมก็จบอย่างสมบูรณ์แล้วไม่ได้ทิ้งเชื้อเยื่อใยอะไรไว้อีก คงจะต้องกล่าวคำอำลากับ Diablo จนกว่าจะเจอกันอีกใน Diablo III ถ้ามันมีจริง...

คลิกอ่านตอนแรกได้ที่นี่
ย้อนตำนาน Diablo

ข้อมูลจาก
Wikipedia the free encyclopedia

http://www.answers.com










Secret Cow Level


D&D Diablo II
D&D Diablo II
Art work
Fan Art
ภาพจากโฆษณา Diablo II
กำลังโหลดความคิดเห็น