ถ้าพูดถึงเกมจากการ์ตูนฮิต "ดราก้อนบอล" นักเล่นหลายคนคงนึกถึงเกมเตะต่อยปล่อยพลังที่มีออกมาหลายภาคเหลือเกิน แต่ถ้าเป็นนักเล่นวัย 20 (ปลายๆ) หลายคนอาจจะยังจำกันได้กับภาคแรกของเกมนี้บนเครื่องฟามิคอม "ดราก้อนบอล 1"
"ดราก้อนบอล" เป็นผลงานการ์ตูนของ "โทริยามะ อากิระ" ที่เริ่มตีพิมพ์ในนิตยสารโชเนนจัมป์ตั้งแต่ปี 1984 และได้รับความนิยมต่อเนื่องยาวนานกว่า 10 ปี โดยมีเนื้อเรื่องในช่วงแรกๆ เป็นการผจญภัยของเด็กหนุ่ม "หงอคง" กับเด็กสาว "บลูม่า" เพื่อตามหาลูกแก้วมังกร 7 ลูกที่จะให้พรอะไรก็ได้ 1 อย่าง ซึ่งเป็นส่วนที่ถูกนำมาสร้างเป็นเกมในภาคนี้ (ส่วนช่วงหลังเริ่มออกแนวบู๊แหลกล้างจักรวาลไปซะยังงั้น)
สำหรับ "Dragon Ball: Shenlong no Nazo" (ดราก้อนบอล:ปริศนาเทพมังกร) เป็นเกมดราก้อนบอลภาคแรกบนเครื่องฟามิคอม ออกวางขายในปี 1986 โดยค่ายแบนได ซึ่งยังคงสร้างเกมดราก้อนบอลภาคใหม่ออกมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน
เนื้อเรื่องของเกมภาคนี้ ในช่วงแรกๆจะเอามาจากการ์ตูนถึงตอนรวบรวมดราก้อนบอลได้ครบครั้งแรก แต่มีการดัดแปลงไปจากต้นฉบับพอสมควร ส่วนเนื้อเรื่องช่วงครึ่งหลังของเกมเรียกได้ว่าแต่งขึ้นมาใหม่แทบทั้งหมด โดยจับเอาตัวละครหน้าคุ้นๆมาออกบ้าง
วิธีบังคับ "หงอคง" ตัวเอกของเกมจะใช้ปุ่ม B โจมตี,ปุ่ม A กระโดด และมีท่าพิเศษ "พลังคลื่นเต่า" ที่ต้องกด B ค้างรวมพลังแล้วกด A เพื่อยิง โดยต้องใช้ไอเทมกระดองเต่าในการยิงทุกครั้ง และตัวหงอคงจะมีพลังชีวิตเป็นตัวเลขแสดงอยู่ทางซ้ายบน ซึ่งจะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาหรือโดนจู่โจม
ไอเทมเกมนี้จะอยู่ในรูปแบบแคปซูล "ฮอยปอย" เหมือนการ์ตูน ต้องลุ้นเอาว่าจะมีอะไรอยู่ข้างในและอาจจะเจอศัตรูออกมาก็ได้ โดยไอเทมหลักๆจะมีของกินเป็นเนื้อเพิ่มพลัง 20 จุดและเค้กเพิ่มพลัง 100 จุด, กระบองที่เป็นอาวุธใช้ได้จนจบฉาก, กกน.ช่วยให้วิ่งเร็วได้ชั่วครู่, กระดองเต่าที่ต้องใช้ในการยิงพลังคลื่นเต่า, เครื่องหมาย "?" เป็นโบนัสคะแนน และเมฆสีทองจะช่วยพาข้ามไปท้ายๆฉากได้
เกมจะมีฉากการเล่นอยู่ 2 แบบ คือแบบมองจากด้านบนเป็นหลัก ผู้เล่นต้องสำรวจ,ลุยฝ่ากับดักและบางทีก็ต้องกวาดศัตรูให้หมดเพื่อเปิดทาง กับอีกแบบคือฉากมุมมองด้านข้าง เป็นห้องสู้กับบอสแบบตัวต่อตัวหรือบางครั้งก็เป็นห้องให้หาของ โดยในแต่ละฉากจะไม่ใช่แค่เดินๆลุยให้ผ่านแต่ต้องทำตามเงื่อนไขอย่างเช่นหากุญแจ หรือหาดราก้อนบอลที่ถูกขโมยไปให้ครบ
ศัตรูในเกมก็นับได้ว่าโหดไม่ใช่เล่น ส่วนใหญ่โดนทีเดียวไม่ตาย บางตัวก็อึดมากต้องอัดเป็นสิบๆที บางตัวก็ต้องใช้ "พลังคลื่นเต่า" กำจัดเท่านั้น และระดับบอสจะมีอะไรโหดๆอีกอย่างเช่นเจ้ากระต่าย "โตนินจินก้า" ถ้าเผลอไปแตะถูกตัวจะทำให้เรากลายเป็นแครอททันที ต้องสู้ด้วยกระบองเท่านั้น หรือเจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์ "บุยอน" ที่อัดไม่เข้าเลย จำเป็นต้องหาจุดอ่อนให้เจอ
ระหว่างทางเกมจะมีห้องให้เข้ามากมาย ทั้งแบบเห็นๆและแบบซ่อนอยู่ตามซอกหลืบที่ต้องสุ่มหาเอาเท่านั้น โดยในห้องจะมีทั้งของที่ให้หาตามเนื้อเรื่อง, แคปซูลไอเทมให้เก็บ หรือเป็นห้องทางลัดข้ามไปท้ายฉาก แถมบางครั้งจะมีศัตรูอยู่ด้วย
จุดสำคัญอีกอย่างคือเมื่อรวบรวมดราก้อนบอลได้ครบในช่วงกลางเกม เทพมังกรจะออกมาให้พรเรา 1 ข้อโดยจะมีให้เลือกระหว่าง "ทำให้มังกรในฉากไตเติ้ลขยับได้", "ขอดูอนาคต" ที่จะข้ามเกมไปช่วงท้ายๆได้เลย, ""พาวเวอร์อัพ" จะทำให้พลังชีวิตสูงสุดของเราเพิ่มเป็น 250 และข้อสุดท้ายคือ "กกน. 1 ตัว" ตามต้นฉบับการ์ตูนที่หลายคนอาจจะยังจำได้ ส่วนช่วงท้ายที่รวบรวมดราก้อนบอลได้ครบครั้งที่ 2 ก็จะเป็นอันจบเกม
เกมรวมๆนับว่ายากถึงยากมาก การที่พลังชีวิตลดลงไปเรื่อยๆทำให้ต้องรีบอยู่ตลอด และของเติมพลังก็หาได้จำกัด บางช่วงจะเจอไอเทมเยอะจนเกินจำเป็น แต่บางช่วงก็ขาดแคลนไปเลย แถมถ้าพลาดตายจะเกมโอเวอร์ทันที ต้องคอนทินิวไปเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นฉาก
เนื้อเรื่องในเกมแม้ว่าจะบิดเบือนไปบ้าง แต่ก็มีใจความหลักๆครบ (เฉพาะครึ่งแรก) และทำฉากเล่าเรื่องออกมาได้ดี ยิ่งถ้าใครเคยอ่านการ์ตูนมาจะเข้าใจเงื่อนไขการผ่านฉากและจุดอ่อนของศัตรูบางตัวได้บ้าง
สำหรับฉบับภาษาอังกฤษของเกมนี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "Dragon Power" พร้อมทั้งเปลี่ยนเนื้อหา,ชื่อตัวละคร,สิ่งของและสถานที่ไปหมดแบบไม่เหลือซากเดิม (ขอเตือนว่าแฟนๆอาจรับไม่ได้) รวมถึงกราฟิกบางส่วนอย่างหงอคงก็กลายเป็นลิงจริงๆไปเลย (ดังรูป)
เกมจากการ์ตูน "ดราก้อนบอล" อาจเรียกได้ว่ามีมากเป็นอันดับต้นๆเมื่อเทียบกับการ์ตูนเรื่องอื่น สำหรับภาคต่อๆไปของเกมนี้ที่นักเล่นชื่นชอบไม่แพ้กัน ทางผู้จัดการเกมจะขอเก็บไว้นำเสนอต่อไปในโอกาสหน้า ^_^
Dragon Ball: Shenlong no Nazo /Dragon Power
เครื่อง: ฟามิคอม /NES
ภาษา: ญี่ปุ่น /อังกฤษ 1986
บริษัท: Bandai
แนวเกม: Action
จำนวนผู้เล่น: 1 คน
ภาพกล่องเกมจาก...
Famicom.biz