ถ้าถามถึง"นินจา"ในใจของเด็กปัจจุบัน หลายคนอาจนึกถึงการ์ตูนและเกมประเภทปล่อยพลังเข้าสู้กันตูมตามด้วยวิชาทำลายล้างหรือไม่ก็ปาดคอกันเลือดสาด แต่สำหรับเด็กๆในอดีตแล้ว คงต้องนึกถึงการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่มาพร้อมความสนุกเบาสมองไม่เป็นพิษภัยอย่าง "นินจาฮัตโตริคุง"
"นินจาฮัตโตริคุง" เป็นผลงานการ์ตูนของนักเขียนชาวญี่ปุ่น "ฟูจิโกะฟูจิโอะ A" (ชื่อจริงคืออาบิโกะ โมโตโอะ) ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นตำนานควบคู่ไปกับ "ฟูจิโกะ F ฟูจิโอะ" (ชื่อจริงคือฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ) ผู้เขียนเรื่องโดราเอมอน โดยทั้ง 2 ท่านมีนามปากการ่วมกันว่า "ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ"
สำหรับเนื้อเรื่องของการ์ตูนมีอยู่ว่า นินจาฮัตโตริหรือชื่อจริงว่า "ฮัตโตริ คันโซ" อายุประมาณ 10 ขวบ เป็นนินจาหนุ่มสังกัด "อิงะ" ที่เดินทางมายังโตเกียวเพื่อศึกษาหาความรู้และได้อาศัยอยู่กับครอบครัวของเด็กคนหนึ่งชื่อว่า "มิซึบะ เคนอิจิ" เป็นจุดเริ่มของเรื่องราววุ่นวายสนุกสนานด้วยวิชานินจาพิสดารของฮัตโตริและพรรคพวก อย่าง "ชินโซ" น้องชายขี้แยของฮัตโตริ "ชิชิมารุ" หมาน้อยจอมกินจุ และ "เคมุมากิ" นินจาคู่แข่งจากสำนัก "โคงะ"
ส่วนฉบับวีดีโอเกมของ "นินจาฮัตโตริคุง" ชื่อเต็มๆว่า " Ninja Hattorikun Ninja wa Shugyo de gozaru no maki" สร้างโดยค่ายฮัดสันซอฟท์ ลงบนเครื่องฟามิคอมเมื่อปี 1986 สามารถทำยอดขายถล่มทลายถึง 1 ล้าน 5 แสนชุดจนครองสถิติเกมจากการ์ตูนที่ขายดีที่สุดได้ยาวนาน ก่อนจะถูกเกม "ยูกิโอ ดูเอลมอนสเตอร์" ของเครื่องเกมบอยทำลายสถิติลงได้ในปี 1998
ระบบของเกมจะเป็นแอคชั่นตะลุยด่านแบบเลื่อนไปด้านข้างมีนินจาฮัตโตริเป็นตัวเอกและเล่นได้คนเดียว โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การใช้คาถานินจาของฮัตโตริช่วยในการผ่านด่านต่างๆ วิธีบังคับหลักคือใช้ปุ่มซ้ายขวาเดิน ปุ่ม A กระโดด ปุ่ม B ขว้างดาวกระจาย และปุ่ม Select ใช้เลือกคาถานินจาซึ่งต้องเก็บมาจากศัตรูก่อนจึงจะใช้ได้
คาถานินจาของฮัตโตริมีมากมายถึง 11 ชนิดบางอันมีผลตลอดทั้งฉาก และบางอันมีผลอยู่แค่ชั่วครู่ ตั้งแต่แบบพื้นๆอย่าง วิ่งเร็ว,กระโดดสูง,เดินบนน้ำ,เหินฟ้า,ขว้างดาวกระจายไกล,ขว้างดาวกระจายรอบทิศทาง ไปจนถึงวิชาพิสดารอย่างคาถาสะกดเงาที่ทำให้ศัตรูทั้งจอหยุดนิ่ง,คาถาล่องหนที่ทำให้อมตะชั่วครู่,คาถาขี่เมฆที่ทำให้เคลื่อนที่ไปรอบๆได้อย่างอิสระ และคาถาที่เรียกพรรคพวกมาช่วย อย่างน้องชินโซที่มีเสียงร้องไห้ถล่มศัตรูได้ทั้งจอ และเจ้าหมาน้อยชิชิมารุที่กลายเป็นลูกไฟกำจัดศัตรูตรงหน้า
การรวบรวมคาถานินจานั้นผู้เล่นต้องกำจัดนินจาศัตรูธรรมดาให้ได้ 10 ตัวแล้วจะมีนินจาหุ่นยนต์ออกมา เมื่อทำลายได้ก็จะได้รับม้วนคาถา 1 อันซึ่งสามารถสะสมไปได้เรื่อยๆ แต่ก็ต้องระวังเจ้าแมว "คาเงะจิโยะ" ที่จะออกมาขโมยคาถา และบางครั้งนินจาหุ่นยนต์ก็จะให้ของเป็น "กบ" สิ่งที่ฮัตโตริกลัวที่สุด (ถ้าใครเคยอ่านการ์ตูนคงจำได้) ซึ่งถ้าเผลอไปเก็บจะตายทันที
ตัวฮัตโตริจะมีพลังชีวิตเป็นตัวเลขทางขวาบน (ตัวP) เต็มที่ถึง 9 และจะลดลงเมื่อถูกจู่โจม สามารถเพิ่มด้วยการเก็บผลไม้ที่อยู่ในฉากให้ได้ 4 อันติดต่อกันแล้วจะมีอักษรญี่ปุ่น "พลัง" ออกมาเมื่อเก็บก็จะได้พลังเพิ่ม หรืออีกวิธีหนึ่งคือบางฉากจะมี "เคมุมากิ" คู่แข่งของฮัตโตริขี่เมฆออกมาโยนไอเทมรูปหัวใจให้เก็บ ซึ่งจะเพิ่มพลังเต็มทันที
ในฉากเล่นของเกม ฮัตโตริจะต้องตะลุยผ่านป่า,ปราสาท และอุปสรรคใหญ่คือสระน้ำและเหวที่มีอยู่แทบทุกฉาก ซึ่งสระน้ำถ้าตกลงไปจะตายทันที แต่ถ้ามีคาถาเดินบนน้ำก็จะผ่านไปได้ ส่วนเหวนั้นตกลงไปก็ไม่รอดแน่นอนจำเป็นต้องกระโดดข้ามให้ดีหรือใช้คาถาเหินฟ้าช่วยในการผ่าน ทั้ง 2 อย่างเป็นอุปสรรคที่ต้องวางแผนเตรียมคาถาไว้ให้พร้อม เพราะบางครั้งอุปสรรคเหล่านี้ก็มาอยู่ตรงต้นฉากโดยไม่มีโอกาสให้รวบรวมคาถาก่อนเลย
ความยากของเกมจัดว่าสูงมาก โดยเฉพาะการกระโดดของฮัตโตริซึ่งไปได้ไม่ไกลนัก ทำให้เวลาข้ามเหวจะเสี่ยงต่อการหล่นลงไปมาก และเวลาในแต่ละฉากค่อนข้างจะจำกัดพอสมควร เมื่อผ่านแต่ละฉากได้ก็จะเจอกับ "ฮัตโตริ จินโซ" พ่อของฮัตโตริมาโยนขนมจิคุวะให้เก็บเป็นคะแนนโบนัส (แต่จะมีดัมเบลปนมาด้วยต้องระวังให้ดี)
ศัตรูในเกมนอกจากนินจาธรรมดาและนินจาหุ่นยนต์ที่ให้ม้วนคาถาแล้ว ยังมีนินจาขี่เมฆที่จะคอยขว้างดาวกระจายหรือสายฟ้า, นกทิ้งระเบิด, วิญญานที่โจมตีไม่เข้า, ครึ่งคนครึ่งนกเทนงุ และตัวแสบสุดๆคือแมวผียักษ์ "ฮาคุเบียวไซ" ที่ขว้างดาวกระจายได้รอบทิศ แถมถ้าไปโดนตัวเข้าจะถึงตายทันที
นอกจากไอเทมที่เห็นได้ชัดอย่างม้วนคาถาและผลไม้แล้ว เกมยังมีไอเทมอื่นๆและความลับซ่อนอยู่มากมาย อย่างไอเทม "จิคุวะ" (คนละแบบกับที่ท้ายฉาก) ที่ซ่อนอยู่ตามต้นไม้เมื่อเก็บได้ถึงจำนวนหนึ่งฮาโตริจะเป็นอมตะชั่วคราว ไอเทม "ม้วนคาถาใหญ่" ที่เพิ่มคาถาให้ครั้งละหลายชนิด รวมทั้งไอเทมลับและจุดที่เป็นโบนัสคะแนนอีกนับไม่ถ้วน จนเคยมีการทำเป็นการ์ตูนเฉลยเกมออกมาในสมัยนั้น
กราฟิกของเกมถือว่าทำได้ดีในสมัย 20 ปีก่อน โดยเฉพาะตัวละครต่างๆจากฉบับการ์ตูนที่เห็นก็จำได้ทันที ส่วนเพลงประกอบหลักจะมีแค่เพลงเดียว แต่ก็ดัดแปลงมาจากเพลงเปิดของฉบับการ์ตูนทีวีที่เด็กๆในสมัยนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดี
นับเป็นเรื่องน่าแปลกว่าเกมนินจาฮัตโตริไม่เคยได้ทำภาคต่อหรือแม้แต่เกมแนวอื่นๆออกมาอีกเลย จะมีก็แต่เครื่องเล่นปาจิงโกะเท่านั้น ส่วนฉบับการ์ตูนเองก็ถูกเก็บขึ้นหิ้งคลาสสิกไปจนกระทั่งได้ทำออกมาเป็นภาพยนตร์คนจริงแสดงในปี 2003 ที่ผ่านมาชื่อเรื่องว่า NINxNIN Ninja Hattorikun The Movie นำแสดงนักร้องหนุ่มคาโทริ ชินโงแห่งวง SMAP
แม้ความหมายของนินจาในปัจจุบันจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่สำหรับผู้ใหญ่ที่เคยได้รู้จัก "ฮัตโตริ" แล้ว นินจาก็ยังคงมีความน่ารัก สนุกสนาน และเป็นมิตรกับทุกๆคนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ดังจะเห็นได้จากยอดขายถล่มทลายของเกมนี้ในอดีตและเสียงเล่าขานถึงการ์ตูนที่ยังไม่จางหายไปไหน
