ในศักราชโซเฟียที่ 2052 ดาวเคราะห์ลำดับที่ 3 "โซเฟีย" ที่อยู่ตรงใจกลางของทางช้างเผือกเอปซิลอน ที่ซึ่งมีอารยธรรมสูงส่งและดำรงอยู่อย่างสงบสุข แต่ทว่าเมื่อจักรพรรดิ "GOEZ" แห่งกลุ่มดาวมรณะอินเบมได้เข้ารุกราน ความสงบสุขของดาวเคราะห์โซเฟียก็มีอันต้องจบลง...
ด้วยพลังอันน่ากลัวของสิ่งมีชีวิตพิเศษได้ทำให้พลังงานของดาวโซเฟียเริ่มสั่นคลอนอย่างหนักและในไม่ช้าจะกลายเป็นดาวแห่งความตายอย่างแน่นอน แต่ในขณะนั้นเองสถาบันวิทยาศาสตร์ของหน่วยป้องกันดวงดาว "NORA" ที่รอดชีวิตมา และได้ทุ่มเทกำลังทั้งหมดสร้างเครื่องจักรที่จะเป็นอาวุธสุดท้ายในการตอบโต้ ความหวังสุดท้ายที่เหลืออยู่ของมนุษย์ ยานพาหนะที่ใช้ได้ทุกสภาพดาวเคราะห์ "เมตัล=แอทแทกเกอร์" (NORA/MA-01) และผู้ควบคุมก็คือเด็กหนุ่มนักบินอัจฉริยะ"เคน การ์ดเนอร์" ที่จะต้องลุกขึ้นสู้เพื่อความหวังของมนุษย์
นี่คือเรื่องราวของเกม "เมต้าไฟท์" หรือชื่อเต็มๆว่า "Chou Wakusei Senki Meta Fight" (บันทึกมหาสงครามดาวเคราะห์เมต้าไฟท์) ที่สร้างโดยบริษัท Sunsoft เมื่อปี 1988 ลงบนเครื่องฟามิคอม (NES)
แนวการเล่นของเกมนี้จะเป็นแอคชั่นเดินยิงด้านข้าง 2 มิติผสมกับมุมมองจากด้านบน โดยผู้เล่นจะได้ควบคุมรถติดอาวุธเมตัลแอทแทกเกอร์สลับกับการควบคุมตัวนักบินเคน การ์ดเนอร์เมื่อลงจากรถ ตะลุยผ่าน 8 ฉากซึ่งทั้งหมดเชื่อมต่อกันแบบไม่เป็นเส้นตรงและสามารถเดินทางข้ามไปกลับได้ตลอด
การขับรถเมตัลแอทแทกเกอร์สามารถกระโดดได้ด้วยปุ่ม A มีปืนหลักยิงด้วยปุ่ม B พร้อมด้วยอาวุธพิเศษที่ยิงด้วยปุ่มล่าง+B และเมื่อต้องการให้ตัวเอกขึ้นหรือลงจากรถจะใช้ปุ่ม Select ซึ่งตลอดเกมจะมีห้องที่ตัวเอกเข้าไปแล้วฉากจะเปลี่ยนเป็นมุมมองจากด้านบน โดยในฉากแบบนี้ผู้เล่นจะมีอาวุธปืนที่ปุ่ม B และระเบิดมือที่ปุ่ม A
ในตอนแรกรถของเราจะมีแค่ปืนและอาวุธพิเศษแบบใช้แล้วหมดเท่านั้น แต่เมื่อปราบบอสของฉากต่างๆ จะได้อุปกรณ์เพิ่มความสามารถรถขึ้นมาทีละน้อย ตั้งแต่ปืนทำลายบล็อค, ระบบ Hover ใช้บินได้ชั่วครู่, ระบบขับเคลื่อนในน้ำ จนไปถึงการวิ่งไต่กำแพง ซึ่งแต่ละอันจะใช้เปิดทางเข้าสู่ฉากต่อๆไปตามลำดับ
ส่วนของตัวเอกที่ลงไปเดินลุยจะสามารถอัพเกรดอาวุธปืนได้ด้วยไอเทมที่หาได้ทั่วไป เมื่อเก็บมาจะเพิ่มพลังขึ้นเป็นขั้นๆซึ่งจะยิงได้ไกลและกว้างขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อถูกอัดขั้นของปืนจะลดลง พลังของตัวเอกจึงไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากตั้งแต่ต้นจนจบเกมต่างกับรถที่ลูกเล่นเยอะขึ้นเรื่อยๆ
จุดมุ่งหมายของแต่ละฉากคือการตามหาบอสที่จะอยู่ในห้องต่างๆคล้ายกับดันเจี้ยน ผู้เล่นต้องควบคุมรถฝ่าศัตรูและกับดักต่างๆ หรือบางครั้งก็ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษในการพารถไปให้ถึงห้องที่ต้องใช้ตัวเอกเข้าไป ในบางฉากจะมีห้องมากมายแต่ที่ๆบอสอยู่มีเพียงห้องเดียวเท่านั้น เมื่อตัวเอกฝ่าเข้าไปถึงตัวบอสและเอาชนะได้ก็จะได้รับอุปกรณ์พิเศษมา 1 ชิ้นที่จะช่วยพาเราไปยังฉากต่อไป
สิ่งที่น่าสนใจของเกมคือรูปแบบการเล่นในแต่ละฉากจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆไม่ใช่แค่เดินๆยิงๆตลอดเกมเท่านั้น อย่างบางครั้งต้องย้อนกลับมาในฉากแรกๆแล้วใช้อุปกรณ์ที่ได้มาพารถไปยังประตูเข้าสู่ฉากต่อไป หรืออย่างฉากใต้น้ำ ผู้เล่นต้องทิ้งรถแล้วว่ายน้ำเข้าไปหาห้องบอสด้วยตัวเอง หรืออุปกรณ์พิเศษอันหนึ่งในเกมจะเป็นกุญแจอยู่ที่ตัวคนขับ ผู้เล่นต้องลงจากรถแล้วลุยไปเปิดประตูให้รถผ่าน ซึ่งโดยรวมทำให้เกมมีอะไรใหม่ทุกๆฉากและผู้เล่นต้องคอยคิดหาทางไปต่ออยู่ตลอด
ศัตรูของเกมนี้จะเป็นเหมือนเกมเดินยิงทั่วไป มีแบบเดินวนไปมา,ติดเพดาน,ไต่ผนัง หรือบินข้ามไปมาซ้ายขวาไม่ค่อยมีลูกเล่นอะไรแปลกใหม่มากและในฉากแบบมุมมองจากด้านบนก็ไม่ต่างกัน แต่ที่น่าสนใจคือระดับบอสที่แต่ละตัวทำออกมาได้สวยงามและท้าทาย มีลูกเล่นใหม่ๆเพิ่มความยากขึ้นทุกฉากจนนับได้ว่าเป็นจุดเด่นของเกมเลยทีเดียว
ระดับความยากของเกมนี้จัดได้ว่าสูง บางช่วงบางตอนอาจจะสบายๆและไอเทมเติมพลังก็หาได้ง่าย แต่บางช่วงที่ศัตรูจะเขี้ยวก็ยาวติดต่อกันจนแทบเอาชีวิตไม่รอดเลยทีเดียว การบังคับตัวเอกไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งเกม แต่ตัวรถกลับมีปัญหาบังคับยากในช่วงท้ายๆเพราะอุปกรณ์พิเศษบางตัวซะยังงั้น และเกมไม่มีการจดพาสเวิร์ดหรือเซฟใดๆทั้งสิ้นต้องเล่นรวดเดียวจบ แต่ก็คอนทินิวได้เรื่อยๆ
ด้านกราฟิกถือได้ว่าทำออกมาได้ดี การเคลื่อนที่ของรถลื่นไหล และฉากหลังก็เปลี่ยนแปลงไปทุกๆด่านทั้งในแบบมองด้านข้างและมองด้านบน ทำให้รู้สึกว่าแต่ละด่านมีความแตกต่างกันจริงๆ
สำหรับฉบับภาษาอังกฤษของเกมนี้ใช้ชื่อว่า "Blaster Master" ที่จับเนื้อเรื่องไปเปลี่ยนซะจนไม่เหลือซาก กลายเป็นว่า...ตัวเอกคือเด็กนักเรียนธรรมดาชื่อเจสันและมีกบเป็นสัตว์เลี้ยง วันหนึ่งกบของเขาได้หนีออกมาและไปถูกกัมมันตภาพรังสีเข้าจนขยายร่าง (กลับมาเป็นบอสในเกม...) ขณะที่เจสันตามกบไปก็ตกลงไปในหลุมลึกลับและได้พบกับรถติดอาวุธลึกลับและชุดนักบิน...ไม่เพียงเท่านี้ เขายังพบว่าอุโมงค์ที่เขาตกลงมาได้นำไปสู่โลกใต้ดินที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดจากกัมภาพรังสีที่มนุษย์ฝังไว้และในไม่ช้าจะบุกรุกไปบนโลกอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ดูเหมือนว่านักวิทยาศาสตร์ที่เป็นต้นเหตุของโลกใต้ดินนี้จะสร้างรถคันดังกล่าวไว้เพื่อรับมือกับพวกนี้โดยเฉพาะ เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากขับรถไปต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาดที่นำโดย "พลูโตเนียมบอส" ผู้ลึกลับ (....แทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นเกมเดียวกัน)
สำหรับเกม "เมต้าไฟท์" นี้มีภาคต่อที่ใช้ชื่อเดิมออกมาในญี่ปุ่นเพียงภาคเดียว แต่ที่แปลกคือฉบับภาษาอังกฤษกลับมีภาคต่อ (ตามเนื้อเรื่องสุดพิสดาร) ออกมาหลายภาคซะยังงั้น โดยภาคต่อของเกมมีดังนี้
Blaster Master Boy บนเกมบอย มีแต่ชื่อเท่านั้น ข้างในจริงๆแล้วคือเกม "Bomber King" ของญี่ปุ่น (เป็นหนึ่งในภาคพิเศษของบอมเบอร์แมนที่ได้กล่าวถึงในครั้งก่อน)
Blaster Master 2 บนเครื่องเมกาไดร์ฟกลับมาเป็นแนวเดินลุยทั้งรถและคนเหมือนภาคแรก
Meta Fight EX (ญี่ปุ่น) /Blaster Master: Enemy Below (อังกฤษ) บนเกมบอยคัลเลอร์ เป็นฉบับปรับปรุงของภาคแรกสุด เพิ่มลูกเล่นใหม่เข้าไปมากมาย
Blaster Master: Blasting Again บน PS ยังคงแนวเดิมแต่เปลี่ยนเป็น 3 มิติ ซึ่งภาคนี้ทางญี่ปุ่นเองก็ใช้ชื่อ Blaster Master (แทนที่จะเป็น Meta Fight)
Memorial Series Sunsoft Vol.4 บน PS เป็นการกลับมาขายใหม่ของภาคต้นฉบับฟามิคอม สามารถเข้าไปชมรายละเอียดได้ที่ Official Site