ทุกวันนี้ความรุนแรงในเกมดูจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆด้วยคุณภาพกราฟิก 3 มิติเลือดสาดกันแบบไม่เกรงใจผู้ปกครอง แต่เมื่อ 20 ปีที่แล้วก็มีเกมโหดซาดิสม์ไม่แพ้ยุคปัจจุบันที่นักเล่นรุ่นลายครามอาจจะยังจำกันได้กับ "เคนชิโร่" หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ
หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ หรือชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า Hokuto no Ken และชื่อภาษาอังกฤษว่า Fist of the North Star เป็นการ์ตูนที่วาดโดย "เท็ตสึโอะ ฮาระ" และแต่งเรื่องโดย "บุรอนซอน" เรื่องราวของยุคหลังสงครามนิวเคลียร์ในปี 199x โลกกลายเป็นสถานที่รกร้าง เต็มไปด้วยความวุ่นวาย กลุ่มกองโจรออกอาละวาดปล้นฆ่าเพื่อความอยู่รอด จนกระทั่งชายหนุ่มผู้มีรอยแผลเป็นรูปดาวเหนือบนหน้าอกนามว่า "เคนชิโร่" ได้ปรากฏตัว เขาคือผู้สืบทอดสุดยอดวิชา "หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ" และการต่อสู้ของเขาก็ได้เริ่มขึ้น...
สำหรับการ์ตูนเรื่องนี้จะเน้นไปที่การต่อสู้แบบดุเดือดและลายเส้นที่สมจริง โดยเฉพาะวิทยายุทธทั้งหลายแหล่ที่เน้นการฆ่าแบบเลือดสาด หัวระเบิด แขนขาฉีกขาดด้วยมือเปล่าล้วนๆเป็นที่ถูกใจคอการ์ตูนโหดในยุคนั้น และที่เป็นเอกลักษณ์จนคนจดจำได้ดีคือหลังจากตัวเอกของเราใส่ท่าไม้ตายโดนศัตรูไปแล้วจะพูดว่า "แกมันตายไปแล้ว" ก่อนร่างศัตรูจะระเบิดออกให้เห็นๆ ซึ่งสภาพของโลกในการ์ตูนเรื่องนี้จะเห็นได้ชัดว่ารับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ "Mad Max" ส่วนท่าต่อสู้ต่างๆจะคล้ายกับบรู๊ซลี (สังเกตุได้จากเสียงของตัวเอกเวลารัวหมัด แถมบางตอนยังใช้กระบองสองท่อนอีกตะหาก)
เมื่อประสบความสำเร็จในฉบับหนังสือการ์ตูนแล้ว ก็ต้องตามมาด้วยฉบับการ์ตูนทีวีและฉบับวีดีโอเกมในที่สุด ในวันนี้ผู้จัดการเกมขอเลือกพูดถึงเฉพาะภาคที่เป็นเกมแนวแอคชั่นเดินลุย 2 ภาคแรกบนเครื่องฟามิคอม ซึ่งนักเล่นเกมที่เคยสัมผัสคงจำกันได้ดี
สร้างโดยค่าย Toei Animation เป็นแนวแอคชั่นตะลุยด่าน มีโหมดเล่นคนเดียวและ 2 คนผลัดกันเล่นให้เลือก ผู้เล่นจะได้รับบทเคนชิโร่เดินสู้กับพวกแก๊งโจรไปเรื่อยๆจนถึงบอสทั้งหมด 5 ด่าน
การบังคับตัวเคนชิโร่ใช้ปุ่มทิศทางในการเดิน,นั่ง,กระโดด ปุ่ม B เป็นการเตะซึ่งศัตรูจะกระเด็นไปเลย แต่ที่เป็นจุดเด่นสุดๆของเกมนี้คือการชกศัตรูด้วยปุ่ม A จะมีผลให้ร่างกายศัตรูบิดเบี้ยว ฉีกออกและระเบิดเป็นชิ้นๆ (โหดมาก!! ชนิดเครื่องเพลย์สาม,Xbox360 และเรฟโวลูชั่นไม่กล้าเลียนแบบ) นอกจากนี้ยังมีการกด AB ค้างกับปุ่นบนเพื่อเข้าประตู ซึ่งประตูที่สามารถเข้าได้สังเกตุจากเด็กๆที่โผล่มาจากประตูเพื่อบอกทางเรา
ที่เป็นจุดเด่นอีกอย่างคือศัตรูบางตัวที่มีสีต่างจากตัวอื่น เมื่อถูกต่อยจนร่างระเบิดจะมีตัวอักษรลอยขึ้นมา (เป็นเสียงร้องก่อนตาย...) ถ้าเก็บได้จะมีสัญลักษณ์ดาวขึ้นมาทางขวาบน ทำให้เคนชิโร่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างกระโดดสูง เดินเร็ว ต่อย,เตะรัว ต่อยสวนอาวุธกลับ จนสูงสุดที่ 7 ดาวเสื้อจะขาดออกแบบในการ์ตูน
กราฟิกของเกมแม้จะไม่ละเอียดมาก แต่ที่เด่นเป็นพิเศษคือตอนร่างศัตรูระเบิดทำออกมาได้สะใจคนเล่นจริงๆ ส่วนความยากของเกมค่อนข้างสูง เพราะศัตรูและอาวุธบินที่มากันแบบเป็นฝน ยิ่งช่วงท้ายศัตรูธรรมดาจะยิ่งอึดมากขึ้น และไม่มีไอเทมเติมพลังกันง่ายๆแบบเกมทั่วไป
สร้างตามความสำเร็จในภาคแรกและยังคงแนวการเล่นเดิมทุกประการ แต่มีการปรับปรุงขึ้นทุกๆด้าน อย่างโหมด VS ที่ผู้เล่นสามารถดวลกับบอสได้ และกราฟิก,เสียงที่ดูดีขึ้นมาก ส่วนเนื้อเรื่องก็เป็นตอนต่อจากภาคแรกเหมือนในการ์ตูน
ลูกเล่นใหม่ในภาคนี้คือสามารถสะสมออราแล้วกด AB เพื่อยิงลูกไฟได้เมื่ออยู่สภาพดาวครบ 7 ดวง และการเข้าประตูเปลี่ยนเป็นปุ่มขวา AB แทน ส่วนการสะสมดาวก็ยากขึ้น เมื่อตั้งแต่ดาวที่ 4 ขึ้นไปผู้เล่นต้องสะสมตัวอักษรจากศัตรูอีกแบบที่หายากกว่า
ทางด้านศัตรูทั่วไปไม่ต่างจากภาคแรกมาก มีเพิ่มบอสกลางในแต่ละฉาก ส่วนศัตรูระดับบอสมีท่าไม้ตาย,ลูกเล่นเยอะขึ้น และยังมี "จุดอ่อน" ที่ผู้เล่นต้องโจมตีให้โดนในครั้งแรก ซึ่งจะสร้างความเสียหายมากกว่าปกติ แถมถ้าทำได้จะมีชื่อท่าไม้ตายให้ดูด้านบนตอนชนะเหมือนในการ์ตูนอีกตะหาก ระดับความยากของเกมยังคงสูงเหมือนเดิม จำนวนฉากมีมากขึ้นแต่ความซับซ้อนน้อยลง มีเพิ่มไอเทมใหม่ๆอย่างสร้อยทองที่ทำให้เป็นอมตะชั่วครู่ ส่วนการเติมพลังก็ยังหายากเหมือนเดิม
นอกจากนี้ ภาคนี้ยังมีการทำฉบับอเมริกาออกมา โดยชื่อของเกมเปลี่ยนเป็น "Fist of the North Star" มีการปรับปรุงด้านกราฟิกและเปลี่ยนตัวอักษรเสียงร้องที่ได้จากศัตรูเป็นรูปดาวแทน
หลังจากภาค 2 เกมชุดเคนชิโร่ก็ยังมีออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยในภาค 3 และ 4 เปลี่ยนแนวเป็นเกม RPG เต็มรูปแบบแทน ส่วนภาค 5 ก็ยังคงเป็น RPG แต่ย้ายมาลงบนเครื่องซุปเปอร์ฟามิคอม ตามมาด้วยภาค 6-7 ที่สร้างเป็น VS Fighting ตามกระแสนิยมสมัยนั้น และยังมาออกบนเครื่อง PS และ Saturn อีกอย่างละภาค แต่ที่ดูจะแหวกแนวหน่อยคือฉบับเกมตู้ของโคนามิที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สวมวิญญานเคนชิโร่ชกศัตรูจริงๆ (ดังรูป)
แม้เวลาจะผ่านไป 20 ปี แต่ "หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ" ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นการ์ตูนฮิตที่อยู่ในใจของผู้เล่นเสมอมา แม้จะมีความรุนแรงเลือดสาดแค่ไหนแต่ก็ยังแฝงไปด้วยคุณธรรม ไม่เป็นแบบอย่างผิดๆที่เด็กเอาไปทำตามเหมือนเกมสมัยนี้ที่เต็มไปด้วยเลือด คำหยาบคาย และการแหกกฏหมาย
*แม้ในสมัย 20 ปีก่อนการจัดเรตยังไม่เฟื่องฟู แต่ขอแนะนำว่าเกมนี้จัดเป็นเกมรุนแรงเกินไปสำหรับเด็กและเยาวชน จึงเหมาะสำหรับนักเล่นรุ่นลุงๆป้าๆ (?) ที่ยังจำเกมนี้ได้มากกว่า