“นินเทนโด” หรือที่คนไทยตาดำๆเรียกว่า “ปู่นิน” บริษัทเกมชั้นนำที่ก่อร่างสร้างความบันเทิงสำหรับคนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน นินเทนโดมีถิ่นฐานอยู่ที่กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันส่งเกมออกมากระตุ้นต่อมความสำราญทั่วโลกแล้วกว่า 1.4 พันล้านชุด สร้างเกมขึ้นมาเป็นจุดขายหลายต่อหลายเกม อาทิ มาริโอ ,ดองกี้ คอง และเซลด้า
นินเทนโดผลิตทั้งเครื่องเล่นเกมออกมามากมาย ได้แก่ เครื่องนินเทนโด เอ็นเตอร์เทนเมนท์ซิสเต็ม (NES) หรือ Famicom ,เครื่องซูเปอร์นินเทนโด เอ็นเตอร์เทนเมนท์ซิสเต็ม (SNES) หรือ Super Famicom, เกมบอย,เกมบอย พ็อคเก็ต,เกมบอย คัลเลอร์,นินเทนโด64 (N64),โปเกมอน มินิ,เกมคิวบ์,เกมบอย แอดวานซ์,เกมบอย แอดวานซ์ SP ,นินเทนโด DS (NDS)และเกมบอยไมโคร (GBM) ซึ่งขายไปได้มากกว่า 120 ล้านชุดแล้ว
ผู้ก่อตั้งนินเทนโด
ฟุซาจิโร ยามาอุจิ
“ฟุซาจิโร ยามาอุจิ” ศิลปินผู้มีศิลปะในหัวใจเป็นบุคคลที่ตั้งต้นสร้างนินเทนโดขึ้นมาเป็นคนแรกเมื่อปี 2432 หรือ 117 ปีมาแล้ว ตอนนั้นใช้ชื่อว่า “นินเทนโด คารุตะ” ผลิตการ์ดเกมที่ชื่อ “ฮานาฟุดะ” (ดอกไม้) เขามีบุตรสาวคนเดียวนามว่า “เทย์ ยามาอุจิ” เพื่อให้กิจการของตระกูลดำรงอยู่ จึงจัดพิธีแต่งงานระหว่างลูกสาวคนเดียวกับนักเรียนหนุ่ม “เซกิเรียว คาเนดะ” ทั้งคู่ไม่มีบุตรชายมาเป็นทายาทเลยแม้แต่คนเดียว มีเพียงลูกสาวเท่านั้น ต่อมาลูกสาวคนโตที่ชื่อว่า “คิมิ”ได้แต่งงานกับ “ชิกาโนโจ อินาบะ” หลังจากแต่งงานกันไม่นาน “ชิกาโนโจ” ได้ทิ้งคิมิไป โดยมีทายาทซึ่งเป็นหลานชายคนแรกในตระกูลก็คือ “ฮิโรชิ ยามาอุจิ” ด้วยวัยเพียง 4 ขวบ ปล่อยให้คุณตาและคุณยายเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก (อ่านประวัติของ “ฮิโรชิ ยามาอุจิ”เพิ่มเติมได้ที่นี่)
ยุคก่อตั้ง
(2432 -2511)
-2432- ฟุซาจิโรก่อตั้ง “นินเทนโด คารุตะ” ขายการ์ด “ฮานาฟุดะ”
ในปีนี้ฟุซาจิโรที่ตั้งรกรากอยู่ที่เกียวโตได้สร้าง “นินเทนโด คารุตะ” และเริ่มวางขายเกมการ์ดครั้งแรกในเกียวโต ชื่อ “ฮานาฟุดะ” เป็นการ์ดที่ทำขึ้นด้วยมือโดยใช้วัสดุจากเปลือกของต้น “หม่อน” หรือ mulberry มาทำเป็นการ์ด (เปลือกลำต้นหม่อนสามารถนำไปทำกระดาษได้เช่นเดียวกับเปลือกลำต้นปอสา เพราะเป็นพืชอยู่ในวงศ์ Maraceae เหมือนกัน) คนญี่ปุ่นเรียกต้นนี้ว่า “มิตซึ-มาตะ”
การ์ด “ฮานาฟุดะ” ในหนึ่งสำรับมีทั้งหมด 48 ใบ ใน 1 ปีออกมาขาย 12 ชุด เฉลี่ยออกมาเดือนละชุด ภายในการ์ดมีพวกสัญลักษณ์ต่างๆมาใช้แทนตัวเลข อาทิ ลม ,กวาง,ดวงจันทร์ หรือดอกเบญจมาศ การรวมเอาสัญลักษณ์และชุดต่างๆนั้นจะมีค่าแตกต่างกันออกไป เกมที่นิยมเล่นกันส่วนมากจะเป็นการจับคู่กัน จากนั้นก็ค่อยๆมีวิธีการนำมาเล่นสลับซับซ้อนยิ่งขึ้น การ์ดดังกล่าวถูกวางจำหน่ายที่ร้านของนินเทนโดในกรุงเกียวโตและโอซาก้า ส่วนในเมืองอื่นจะขายในสัญลักษณ์อื่นๆ อาทิ กระบี่และภูเขา ในช่วงแรกการ์ดฮานาฟุดะถูกใช้เล่นกันตามบ้านเรือน ฟุซาจิโรก็ไม่ได้ขายมันออกไปในจำนวนมาก แต่ในระยะหลังถูกนำไปใช้ในการพนันของพวกแก๊งยากุซ่า เมื่อวงการพนันได้รับความนิยม การ์ดฮานาฟุดะจึงเป็นที่ต้องการและขาดแคลน ฟุซาจิโรจึงเริ่มต้นฝึกฝนพนักงานให้ผลิตการ์ดขึ้นมาเป็นล่ำเป็นสันมากขึ้น
-2450- นินเทนโดขยายตัว
ฟุซาจิโรขยายธุรกิจของเขาอย่างจริงจัง จนนินเทนโดกลายมาเป็นบริษัทแรกที่ประสบความสำเร็จในการผลิตการ์ดเกมสไตล์ตะวันตกออกมาขายในญี่ปุ่น และเพื่อกระจายผลิตภัณฑ์อย่างทั่วถึง เขาจึงตกลงจับมือกับบริษัทยาสูบและยาดมของญี่ปุ่นในการวางจำหน่ายการ์ดเกมภายในร้าน
-2472- ฟุซาจิโรเกษียณ ลูกเขยรับตำแหน่งแทน
ฟุซาจิโร ได้ตัดสินใจลงจากตำแหน่งเจ้าของกิจการ โดยให้ลูกเขย “เซกิเรียว คาเนดะ” ขึ้นมาเป็นประธานนินเทนโด (ต่อมาเปลี่ยนมาใช้นามสกุลพ่อตา) ซึ่งในสถานการณ์ในปีนั้น นินเทนโดกลายมาเป็นบริษัทผลิตการ์ดเกมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
-2476- ก่อตั้งยามาอุจิ นินเทนโด&Co.
เซกิเรียว ยามาอุจิได้ก่อตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดในชื่อ “ยามาอุจิ นินเทนโด& Co.” และย้ายสำนักงานใหญ่ไปสร้างอาคารหลังใหม่ขึ้นมา
-2490- ตั้งบริษัทจัดจำหน่าย
เนื่องจากความเติบโตทางธุรกิจ นินเทนโดจึงได้ตั้งบริษัท “มารุฟุกุ จำกัด” เพื่อจัดจำหน่ายการ์ดเกมใหม่สไตล์ตะวันตกคล้ายๆกับการ์ด Pinochle และโป๊กเกอร์
-2492-ฮิโรชิ ยามาอุจิสืบทอดตำแหน่งจากคุณตา
ฮิโรชิ ยามาอุจิ หลานชายของเซกิเรียว เข้ามารับตำแหน่งประธานบริษัทแทนพ่อของเขา “ชิกาโนโจ” ซึ่งทิ้งครอบครัวไปเมื่อตอนฮิโรชิอายุได้ 4 ขวบ โดยฮิโรชิรู้ตัวว่าไม่เป็นที่ยอมรับของลูกจ้างภายในบริษัท ดังนั้น เขาจึงเริ่มลงมือไล่ผู้จัดการและพนักงานคนเก่าๆออก เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครจุ้นจ้านสงสัยเกี่ยวกับการเข้ามาบริหารงานของเขา
-2494-เปลี่ยนชื่อเป็น “Nintendo Playing Cards”
ฮิโรชิเปลี่ยนชื่อบริษัทจัดจำหน่ายมาเป็น “Nintendo Playing Cards จำกัด” (หรือ นินเทนโด คารุตะ จำกัด ในญี่ปุ่น)
-2495-ปรับปรุงนินเทนโดให้ทันสมัย ย้ายสำนักงานใหญ่
ฮิโรชิย้ายสำนักงานใหญ่ของนินเทนโดไปที่อาคารใหม่ที่สร้างขึ้นบนถนน “มากามะซึ-โชะและปรับแผนการผลิตเพื่อทำให้กระบวนการผลิตการ์ดที่ทำออกมามีประสิทธิภาพมากขึ้น
-2496-ผลิตการ์ดด้วยเทคโนโลยีใหม่
นินเทนโดเริ่มหันมาใช้การเคลือบตัวการ์ดเกมด้วยพลาสติกขึ้นเพื่อเพิ่มความคงทนในการใช้งาน
-2499-ฮิโรชิจูบปากดิสนีย์
ฮิโรชิปรับกลยุทธ์ด้วยการนำตัวละครจากดิสนีย์นำมาผลิตเป็นการ์ดเกม มีการโฆษณาทางโทรทัศน์ ขยายการวางจำหน่ายไปยังห้างสรรพสินค้าและร้านขายของเล่นทั่วญี่ปุ่น ซึ่งถูกขายไปได้ไม่น้อยกว่า 600,000 ชุดในปีเดียว
-2505-นินเทนโดเข้าตลาดหุ้นโอซาก้าและเกียวโต
ในเดือนมกราคมนินเทนโดเข้าไปอยู่ในตลาดหุ้นโอซาก้าและตลาดค้าเกียวโต
-2506 ถึง 2511- นินเทนโดเปลี่ยนชื่ออีกหน พร้อมผลิตสินค้าหลากหลายขึ้น
ในปี 2506 นินเทนโดได้เปลี่ยนชื่อบริษัทมาเป็น “นินเทนโด จำกัด” และเริ่มที่จะผลิตเกมและของเล่นแทนการ์ดเกม ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆถูกผลิตขึ้น อาทิ ข้าวกึ่งสำเร็จรูป แต่ก็เจ๊งไม่เป็นท่า หลังจากนั้นฮิโรชิยังหันมาเปิด “โรงแรมม่านรูด” ให้เช่าเป็นรายชั่วโมง ในชีวิตความเป็นจริง ฮิโรชิก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่โรงแรมม่านรูดแห่งนี้ แม้ว่าเขาจะแต่งงานมีครอบครัวแล้วก็ตาม ซึ่งภรรยาของเขาก็รู้ว่าเขาไปใช้บริการ แต่ก็ไม่เคยว่าอะไร ส่วนโปรเจคอื่นๆที่น่าสนใจก็คือ บริษัทรถแท็กซี่ที่ชื่อ “ดาอิยะ” ซึ่งทำท่าจะไปได้สวย แต่เหล่าสหภาพคนขับแท็กซี่รวมตัวกันเพื่อเจรจาขอขึ้นเงินเดือน เขาจึงปิดตัวบริษัทลงและในเวลาต่อมากิจการโรงแรมม่านรูดก็ปิดตัวเองตามมา
ติดตามเรื่องราวตำนานชีวิตของ “นินเทนโด” 5 ตอนจบ เร็วๆนี้...
-ตอนที่2 นินเทนโดในยุคของเล่นและเกมตู้-
-ตอนที่3 นินเทนโดยุคฟามิคอมครองโลก-
-ตอนที่ 4 นินเทนโดยุคนวัตกรรมใหม่-
-ตอนที่ 5 เครื่องเล่นเกมในอาณาจักรนินเทนโด-