ถ้าถามเหล่าเกมเมอร์วัย 20 ขึ้นไปว่าสมัยเด็กๆเกมอะไรเล่นแล้วติดที่สุด คำตอบที่ได้รับรองว่าต้องมีเกมชุด "โรงเรียนเลือดเดือด" (หรือที่บ้านเราเรียกกันว่าคุนิโอะ) อยู่ด้วยอย่างแน่นอน วันนี้ผู้จัดการเกมจึงขอพาย้อนอดีตไปรู้จักกับหนึ่งในภาคที่ได้รับความนิยมที่สุดของเกมชุดนี้
เมื่อประมาณ 20 ปีก่อนเกมชุดของคุนิโอะในยุคนั้นอาจเทียบได้กับมาริโอ เพราะมีเกมครอบคลุมไปทุกอย่างทั้งฟุตบอล เบสบอล ฮอคกี้ และจะคงเอกลักษณ์เอาไว้อย่างหนึ่งในทุกๆภาคคือสามารถ "อัด" กันได้ ไม่ว่าจะเล่นกีฬาอะไรเป็นต้องมีการไล่กระทืบกันทุกทีไป แต่ส่วนใหญ่ก็ยังคงเล่นกันตามกติกากีฬาเป็นหลัก
สำหรับภาคหนึ่งที่ชาวไทยติดใจกันมากที่สุดคือ "ภาครวมกีฬา" เพราะมีรูปแบบกีฬาหลายชนิดแต่พื้นฐานการเล่นจะง่ายเหมือนกันหมด ซึ่งในภาคนี้จะเป็นการแข่งกีฬาเชื่อมความสามัคคี (ตรงไหน) ของ 4 โรงเรียนดังได้แก่ โรงเรียนเนคเคสึ(สีขาว)นำโดยพระเอกคุนิโอะและพรรคพวก ,โรงเรียนฮานาโซโนะ(สีน้ำเงิน)นำโดยริกิคู่รักคู่แค้นของคุนิโอะ ,โรงเรียนเรย์โฮ(สีแดง)นำโดยสองพี่น้องดับเบิ้ลดราก้อนริวจิและริวอิจิ และโรงเรียนเรนโก(สีเขียว)นำโดยสองคู่หูโกดะและโกได ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นเป็นโรงเรียนไหนก็ได้ต่างจากภาคอื่นๆที่เน้นไปที่คุนิโอะคนเดียว
เกมสามารถเล่นได้พร้อมกันสูงสุดถึง 4 คนและต้องแข่งกันทุกโรงเรียนโดยมีฝ่ายคอมพิวเตอร์เล่นเป็นโรงเรียนที่เหลือให้ กับรายการแข่งกีฬา 4 ชนิดซึ่งผู้เล่นต้องเลือกนักกีฬาจากทีมตัวเองให้เหมาะกับกีฬานั้นๆ ที่สำคัญคือคนที่แข่งไปแล้วจะมีค่าพลังที่เหลือติดมาจากการแข่งมาด้วย จึงต้องหมุนเวียนนักกีฬาให้ดี
ในรายการแรกจะเป็นการวิ่งแข่งวิบากครอสคันทรี่ กติกาก็คือการวิ่งแข่งเป็นฉากๆ ซึ่งใครผ่านคนแรกจะได้คะแนนมากที่สุด แล้วเมื่อเข้าฉากใหม่ก็จะเริ่มใหม่ตามลำดับก่อนหน้าจึงไม่ต้องกลัวว่าจะทิ้งห่างกันไกล ความสนุกของรายการนี้คือเส้นทางต่างๆที่ออกมาแบบพิสดารมีทั้งการวิ่งผ่านบ้านคนอื่น ไต่หลังคา ปีนตึก ว่ายน้ำ และที่สำคัญก็คือมีการไล่อัดกันได้ตลอดทางเพื่อวิ่งแซงกัน สามารถใช้มือเปล่าหรืออาวุธสารพัดที่มีหล่นอยู่บนเส้นทางได้ตามใจชอบ คนวิ่งนำก็อาจเสียเปรียบเพราะคนข้างหลังจะคอยขว้างข้าวของใส่หัวตลอด หรือจะใช้แผนดักตีหัวคนที่ตามมาให้สลบก่อน แล้วค่อยวิ่งไปก็ยังได้
ในรายการที่สองจะเป็นการตะลุยห้องกับดัก กติกาอาจคล้ายรายการแรกแต่เป็นการตะลุยผ่านเป็นห้องๆแทน ซึ่งมีทั้ง แท่นสปริง รางเลื่อน ห้องมืด ในแต่ละห้องจะมีเวลาให้ 1 นาที และแน่นอนว่ายังอัดกันได้เหมือนเดิม แต่ว่าในรายการนี้ยังมีข้อเสียอยู่บ้างที่บางครั้งฝ่ายคอมจะไม่สามารถผ่านกับดักได้เลย ทำให้คนที่ผ่านไปแล้วต้องรอจนเวลาหมด
รายการที่สามคือการแข่งชกลูกบอล และเป็นเพียงรายการเดียวที่มีกติกาให้ร่วมมือกัน (แต่จริงๆก็อัดกันได้) โดยในฉากจะมีเสา 2 ต้นอยู่ตรงกลางและมีลูกบอลแขวนอยู่ข้างบน นักกีฬาจะแบ่งเป็น 2 ฝ่ายซ้ายขวาข้างละ 2 คน ฝ่ายไหนชกหมัดสุดท้ายที่ทำให้ลูกบอลแตกจะเป็นฝ่ายชนะทั้ง 2 โรงเรียน ในรายการนี้ก็ยังสามารถขัดขวางกันได้แต่ต้องระวังอย่าเผลออัดพวกเดียวกันเอง
รายการสุดท้ายสำหรับผู้เล่นที่สะสมความแค้นกันมาตลอดการแข่ง จึงเล่นง่ายๆด้วยการต่อสู้กันบนยอดตึกซะเลย ในรายการนี้กติกาก็คือการตะลุมบอน 4 คน แต่ที่พิเศษคือทุกคนสามารถใช้ท่าไม้ตายได้อย่าง หมัดรัว เตะรัว ท่าเตะพายุหมุน เฮดบัตท์ หมัดล่องหน รวมถึงใช้อาวุธได้อย่างอิสระ และต้องระวังการตก(หรือโดนจับโยน)จากตึกด้วย โดยคนที่เหลือเป็นคนสุดท้ายคือผู้ชนะ
ผลสุดท้ายในการแข่งจะตัดสินจากคะแนนของแต่ละโรงเรียน ซึ่งได้มาจากลำดับผู้ชนะและผลของการกระทำต่างๆในการแข่งเช่น การไล่อัดคนอื่นบ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษของนักกีฬาแบบแปลกๆเช่น นักกีฬาขาโหด นักกีฬากระจอกงอกง่อย(โดนกระทืบบ่อย) มาเป็นคะแนนพิเศษอีกด้วย
บรรยากาศการเล่นของเกมนับว่าสนุกมากๆโดยเฉพาะถ้าได้เล่นกับเพื่อนๆ ชวนให้นึกถึงเกมยุคใหม่ๆอย่าง Super Smash Bros. Melee ซึ่งเกมแบบไล่อัดกันแถมด้วยถากถางกันเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอนับเป็นสิ่งที่หาได้ยากขึ้นทุกทีในสมัยนี้ กราฟิกของเกมไม่ถึงกับสวยแต่รายละเอียดของหน้าตา การแสดงสีหน้าของตัวละครทำออกมาได้สนุกสนาน และมีดนตรีประกอบที่เป็นเอกลักษณ์คล้ายๆกับภาคอื่นในเกมชุดเดียวกัน
สำหรับเจ้าของเกมบอยแอดวานซ์และ NDS ที่ยังคิดถึงเกมนี้ก็ยังสามารถหามาเล่นกันได้ โดยบริษัท Atlus ได้ซื้อลิขสิทธิ์เกมชุดคุนิโอะทั้งหมดมาทำลงในเกมบอยแอดวานซ์ ซึ่งภาคกีฬานี้รวมกับภาคฟุตบอลอยู่ใน Kunio-Kun Nekketsu Collection 2 ที่ได้ออกวางจำหน่ายไปแล้ว
