---คลิกชมวีดีโอตัวอย่างเกมสดๆได้ที่นี่---
ผู้กล้า พระราชา เจ้าหญิง จอมมาร สูตรสำเร็จเหล่านี้อาจฟังดูเก่าและเชย สำหรับเกม RPG ในยุคดิจิตอล แต่ถ้าสิ่งเหล่านี้ไปรวมอยู่ในเกมๆหนึ่ง จะกลับกลายเป็นเกม RPG ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเกมหนึ่งในโลก และในภาคล่าสุดนี้ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์แม้จะผ่านมาแล้วร่วม 20 ปีก็ตาม
Dragon Quest VIII: Journey of the Cursed King นับเป็นภาคแรกของเกมชุดนี้ที่ใช้ชื่อ Dragon Quest ในฉบับภาษาอังกฤษ หลังจากก่อนหน้านี้ชื่อ DragonQuest (เขียนติดกัน) มีเจ้าของอยู่แล้วในอเมริกา เกมนี้จึงต้องเลี่ยงไปใช้ชื่อ Dragon Warrior มาโดยตลอด
ระบบเกมในคราวนี้ยังคงเรียบง่ายไม่เปลี่ยนแปลง เป็นเกม RPG ที่ผู้เล่นต้องเดินทางไขปริศนาตามเนื้อเรื่อง ตามหาพรรคพวก เข้าเมืองหาข้อมูล ซื้ออาวุธชุดเกราะ ต่อสู้ศัตรูที่ออกมาแบบสุ่มบนแผนที่ เก็บเลเวลพัฒนาสกิล ซึ่งค่อนข้างง่ายสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมแนวนี้มาก่อนก็สามารถเข้าใจระบบได้ทันที รวมถึงหน้าจอต่างๆได้ปรับปรุงจากฉบับภาษาญี่ปุ่นให้ใช้ง่ายขึ้น ไอเทมและสกิลมีภาพประกอบค่อนข้างชัด ต่างจากของเดิมที่ใช้ตัวหนังสือล้วนๆ
เนื้อเรื่องได้เริ่มขึ้นเมื่อพระราชาและเจ้าหญิงของปราสาทแห่งหนึ่งถูกจู่โจมโดยพ่อมดผู้ชั่วร้าย และพระราชาถูกสาปให้กลายเป็นสัตว์ประหลาด ขณะที่เจ้าหญิงถูกสาปให้กลายเป็นม้า เหลือเพียงทหารยามคนหนึ่งในปราสาทที่รอดมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ และได้ช่วยเหลือทั้ง 2 ในการเดินทางเพื่อถอนคำสาป ส่วนนี้จะต่างจากฉบับญี่ปุ่นที่ไม่บอกรายละเอียดอะไรมากตอนเริ่มต้น
การเดินเรื่องโดยรวมค่อนข้างจะตรงไปตรงมา เดินทางไปเมืองใหม่ช่วยเหลือผู้คนแก้ปัญหาที่พบ และได้รับฟังเบาะแสเรื่องการตามล่าพ่อมดแก้คำสาป พบเหตุการณ์ต่างๆที่คล้ายกับการดูการ์ตูน แต่ถ้าใครหวังจะเห็นเนื้อเรื่องแบบหักเหลี่ยมโหด ยิงถล่มฆ่าล้างเมือง ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเพื่อนทรยศ ชิงรักหักสวาท อาจไม่มีให้เห็นมากนักในเกมนี้
พื้นฐานการเล่นเกมเป็นไปอย่างง่ายๆ ผู้เล่นต้องตามหาคน หาของ สำรวจเมืองซึ่งจะมีร้านไอเทม ร้านอาวุธชุดเกราะ สามารถรื้อค้นบ้านเรือนของชาวบ้านเพื่อหาไอเทมได้(ผู้กล้าหรือโจรกันแน่) การตามหาสิ่งต่างๆค่อนข้างง่ายและเป็นเส้นตรง จะมีบอกในบทสนทนาตลอดว่าต้องไปหาใครที่ไหนต่อหรือถ้าลืมก็สามารถหันไปถามพรรคพวกได้ทันที มีการลงดันเจี้ยน ปราบบอส รวมถึงมีเนื้อเรื่องย่อยบางส่วนที่ผู้เล่นต้องตามหาเองอีกด้วย
สำหรับพรรคพวกในเกมตอนแรกจะเริ่มด้วย ตัวเอก(ผู้เล่นตั้งชื่อเอง) และ Yangus อดีตโจรภูเขาผู้เน้นการใช้กำลัง เมื่อดำเนินเรื่องไปจะพบกับสาวน้อย Jessica ผู้ใช้คาถา และอัศวินผู้ทำตัวเสเพล Angelo (ชื่อเปลี่ยนไปจากฉบับภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งมีเพียงแค่นี้เท่านั้น ทำให้ผู้เล่นไม่ต้องคิดมากเรื่องเลือกใช้ตัวไหน หรือแบ่งกันเก็บเลเวลแบบเกมพรรคพวกเยอะเกมอื่นๆ
ส่วนของการต่อสู้เป็นยังคงเป็นแบบฝ่ายเราและศัตรูเลือกคำสั่งทุกตัวแล้วเข้าสู้กัน ไม่เป็นแบบใครเร็วเดินก่อนที่นิยมใช้กันในสมัยนี้ มีการใช้ท่าพิเศษ คาถา ไอเทม ตามปกติแต่ที่มีเพิ่มมาในภาคนี้คือ psyche-up ซึ่งเป็นการชาร์จเพื่อให้เทิร์นต่อไปมีพลังเพิ่มขึ้นซึ่งมีผลทั้งกับการโจมตี ใช้คาถา หรือแม้แต่เติมพลัง และแน่นอนว่าฝ่ายศัตรูก็สามารถชาร์จได้เช่นกัน ยิ่งระดับบอสถ้าไม่ระวังให้ดีอาจซัดพวกเราตายได้ทันที
ศัตรูในเกมนี้จัดว่าค่อนข้างโหดและฉลาดพอสมควร ในบางครั้งจะเกาะกลุ่มกันมาเป็นฝูง และมีความสามารถส่งเสริมกันเช่น บางตัวสามารถเพิ่มพลังโจมตีให้ตัวอื่น ถ้าประมาทแม้แต่ศัตรูธรรมดาบนแผนที่ก็อาจกวาดพวกเราเกลี้ยงได้ง่ายๆ ความยากของเกมจะสูงขึ้นแบบค่อนข้างโดดเมื่อย้ายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง แต่ถ้าเก็บเลเวลไปเรื่อยๆก็จะพอสู้ได้เอง
เมื่อสะสมค่าประสบการณ์ถึงระดับจะมีการเลเวลอัพตามปกติ แต่ที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคนี้คือผู้เล่นจะได้แต้มสกิลเพื่อให้เลือกพัฒนาความสามารถเป็นด้านๆไป ซึ่งแต่ละคนจะมี 5 แบบตามชนิดของอาวุธที่ถนัดเช่น หอก ดาบ ขวาน และแบบพิเศษตามนิสัยคนละอย่าง ซึ่งค่าพลังเหล่านี้เมื่อเพิ่มถึงจุดหนึ่งจะได้สกิลมาใช้ตามชนิดเช่น เพิ่มสกิลไม้เท้าจะได้คาถา เพิ่มสกิลดาบจะได้วิชาเฉพาะของดาบ ส่วนที่เป็นนิสัยจะได้สกิลพิเศษอย่างเช่น "เสน่ห์"ของ Jessica ทำให้บางครั้งศัตรูจะตะลึงจนยืนนิ่ง หรือ"มนุษยสัมพันธ์"ของ Yangus สามารถเรียกศัตรูมาหาได้โดยไม่ต้องเดินวนไปมา ทำให้ผู้เล่นต้องใช้ความคิดในการเพิ่มสกิลให้สมดุลในกลุ่มเช่น ควรจะมีคนหนึ่งใช้คาถาสนับสนุน เติมพลัง ส่วนคนที่พลังโจมตีเยอะก็เน้นด้านอาวุธไป
ในช่วงกลางๆเกมผู้เล่นจะสามารถใช้"หม้อผสมไอเทม"ซึ่งสามารถนำไอเทมที่มีอยู่มาผสมกันเป็นไอเทมใหม่ได้ ซึ่งทำให้มีอะไรให้ค้นหาตลอดการเล่น รวมถึงเกมย่อยอย่าง คาสิโนซึ่งมีการพนันให้เล่นหลายอย่าง(เด็กดีไม่ควรเอาไปเลียนแบบ) และสนามประลองมอนสเตอร์ที่ผู้เล่นต้องไปตามจับมอนสเตอร์จากทั่วโลกมาเข้าประลองแลกของรางวัล ช่วยให้คนที่เบื่อกับการเดินวนเก็บเลเวลมีอะไรให้ทำแก้เซ็งได้พอสมควร
กราฟิกของเกมเปลี่ยนใหม่เป็น 3 มิติทั้งหมด และใช้สีแบบการ์ตูนเพื่อจำลองภาพของโทริยามะ อากิระผู้ออกแบบมาได้อย่างเหมือนต้นฉบับ ฉากแผนที่กว้างใหญ่และให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินทางจริงๆ ตัวละครทุกตัวและฉากการเล่าเรื่องต่างๆทำออกมามีชีวิตชีวาเหมือนดูการ์ตูน ถึงจะไม่มีเอฟเฟกต์อลังการ แต่ก็ยังดูแล้วสนุกสนาน และดนตรีประกอบโดยโคอิจิ ซึงิยามะที่ทำออกมาได้อย่างยิ่งใหญ่ ทั้งเพลงเก่าและใหม่ในแบบออเคสตร้า แต่ที่เพิ่มเข้ามาเฉพาะฉบับภาษาอังกฤษคือมีเสียงพากย์ของตัวละครที่อาจฟังดูแปลกๆสำหรับบางคน
โดยรวมแล้ว Dragon Quest VIII ยังคงความเรียบง่ายแต่ดีไว้ได้ครบถ้วน ถึงจะไม่มีอะไรหวือหวาซับซ้อนตามสมัยนิยมแต่ก็ทำให้สนุกได้ ส่วนที่อาจจะเป็นข้อเสียสำหรับฉบับภาษาอังกฤษบ้างคือ การทำลายความคลาสสิกหลายๆอย่างของต้นฉบับญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นฉากเมนู เสียงพากย์ ที่ทำให้แฟนพันธุ์แท้อาจรู้สึกเซ็งๆ แต่ถ้าไม่ยึดติดกับจุดนี้ นี่ก็คือเกม RPG ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
| เกมการเล่น | 9.5 |
| กราฟิก | 9.5 |
| เสียง | 9.5 |
| ความคิดสร้างสรรค์ | 9.0 |
| ความคุ้มค่า | นี่สิ RPG ของแท้ |
| ภาพรวม | 9.3 |
BY...JACKFROST
