จากนวนิยายที่ขายดีติดอันดับโลก นำไปสู่แนวความคิดที่จะถ่ายทอดออกมาผ่านจอภาพยนตร์ ล่าสุด The Da Vinci Code เตรียมจะผลิตออกมาในรูปแบบเกมแอ็คชั่นบนเครื่อง PS2 , Xbox และ GC กำหนดวางแผงในช่วงเดือนพฤษภาคม ช่วงเวลาเดียวกันเวอร์ชั่นภาพยนตร์ออกฉาย
2K Games เจรจาข้อตกลงกับบริษัทโซนี่ พิคเจอร์ สำเร็จเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับประกาศข่าวที่จะผลิตเกม The Da vinci Code จากเค้าโครงภาพยนตร์ของ Ron Howard ที่ดัดแปลงมาจากเวอร์ชั่นหนังสือ โดยเวอร์ชั่นเกมและภาพยนตร์จะออกสู่สายตาสาธารณชนพร้อมกันในเดือนพฤษภาคม ปี 2006
The Da vinci code เวอร์ชั่นเกม จะลงในเครื่อง PS2 , Xbox และ GC สร้างโดยทีมพัฒนา The Collective (Star Wars Episode III, Mark Ecko's Getting Up) ทาง 2K games ให้ความมั่นใจว่า เกมนี้จะทำออกมาในรูปแบบของแอ็คชั่นที่จะทำให้ทั้งเกมเมอร์ และแฟนๆของเวอร์ชั่นหนังสือได้พึงพอใจ
นอกจากทีมพัฒนาเกมอย่าง The Collective แล้ว ทาง 2K ยังได้ซื้อตัวนักทำเกมมือฉมังอย่าง Charles Cecil มาร่วมในการสร้างสรรเกมอีกด้วย ซึ่งเขาเป็นผู้สร้างซีรีย์เกมผจญภัยชื่อดังอย่าง Broken Sword และหันเหตัวเองไปอยู่เบื้องหลังคอยให้คำปรึกษาด้านการออกแบบระบบการเล่นในเกม โดยให้ความสำคัญไปที่ปริศนาในเกม และการเล่าเรื่อง ปัจจุบัน Cecil มีตำแหน่งเป็นหัวเรือใหญ่ของทีมพัฒนาเกม Revolution Software ซึ่งกำลังพัฒนาเกม Broken Sword ภาค 4 บนเครื่องพีซี ที่จะลงแผงในช่วงฤดูร้อน ปี 2006
นวนิยายเรื่อง "The Da Vinci Code" หรือ "รหัสลับดาวินชี" เป็นผลงานการแต่งของแดน บราวน์ ที่เนื้อเรื่องเปิดฉากด้วยการฆาตกรรมผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ทำให้ศาสตราจารย์โรเบิร์ต แลงดอน นักสัญลักษณ์วิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ตัวละครเอกของเรื่อง ต้องไขปมปริศนาที่ซ่อนอยู่ในสัญลักษณ์จากภาพเขียนของลีโอนาโด ดาวินชี เกี่ยวกับเรื่องสมาคมลับและจอกศักดิ์สิทธิ์ (Holy Grail) ซึ่งเก็บงำความลับสุดยอดเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ให้ได้
ทั้งนี้ นวนิยายเรื่องดังกล่าว สร้างความตื่นตะลึงให้กับแวดวงวรรณกรรมด้วยการเปิดประเด็นเกี่ยวกับพระเยซูและนางแมรี แม็กดาลีน พร้อมทั้งใส่เอาหลักฐานอ้างอิงที่น่าเชื่อถือมากมายจนทำให้มีคนนำเรื่องออกมาแตกประเด็น กลายเป็นหนังสือที่งัดค้านเรื่องราวความลับที่หนังสืออ้างอิงไว้เพียบทีเดียว และจากความน่าตื่นเต้น น่าคิดตามกับเนื้อหาที่น่าสนุกและน่าเชื่อถือ ทำให้หนังสือขายได้มากกว่า 7 ล้านเล่มในอเมริกา ร่วมครึ่งล้านเล่มในอังกฤษ นอกจากนั้นยังได้รับการเผยแพร่ออกไปถึง 42 ภาษาอีกด้วย
gamespot
ign