สำนักสิ่งแวดล้อมได้รวบรวมแผนปฏิบัติการจากหน่วยงานต่าง ๆ ตั้งแต่ก่อนเกิดมลภาวะ จนเข้าภาวะวิกฤตมีค่าฝุ่นเพิ่มขึ้น ซึ่งยังคงใช้ค่าเดิมคือ 50 แต่ในปี 66 จะใช้เกณฑ์ 37.5 โดยกรุงเทพมหานครจะดำเนินตามแผนที่มีอยู่ 16 กิจกรรม เช่น การล้างถนน ตรวจไซต์ก่อสร้าง ทั้งปรับแผนในแต่ละพื้นที่ อาจมีการปิดโรงเรียน หรือห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งเข้าพื้นที่
วันนี้ (5 ก.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่าตามที่มีข้อมูลข่าวสารในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องกทม. เตรียมปรับแผนแต่ละพื้นที่ช่วงวิกฤต PM 2.5 อาจมีคำสั่งปิดโรงเรียน และห้ามรถบรรทุกเข้าเมือง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
สำนักสิ่งแวดล้อมได้รวบรวมแผนปฏิบัติการจากหน่วยงานต่าง ๆ ตั้งแต่ก่อนเกิดมลภาวะ จนเข้าภาวะวิกฤตมีค่าฝุ่นเพิ่มขึ้น ซึ่งยังคงใช้ค่าเดิมคือ 50 แต่ในปี 2566 จะใช้เกณฑ์ 37.5 โดยช่วงภาวะปกติ กรุงเทพมหานครจะดำเนินตามแผนที่มีอยู่ 16 กิจกรรม เช่น การล้างถนน ตรวจไซต์ก่อสร้าง ตรวจมลภาวะตามสถานที่ต่าง ๆ เมื่อเริ่มเข้าวิกฤตก็จะมีการปรับแผน ซึ่งจากการประชุม ผู้ว่าฯ กทม. รวมถึงกรรมการได้เสนอให้ปรับแผนเฉพาะในแต่ละพื้นที่ เช่น อาจต้องมีการปิดโรงเรียน หรือห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่ (สิบล้อ) วิ่งเข้าพื้นที่ ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะส่งแผนที่ปรับกรณีภาวะวิกฤตมาให้สำนักสิ่งแวดล้อมในวันที่ 20 กันยายน และจะมีการประชุมคณะกรรมการฯ อีกครั้งในสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม จากนั้นจะเริ่มปฏิบัติตามแผนทันที
สำหรับการวัดค่าฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพฯ ปัจจุบันนี้กรุงเทพมหานครมีเครื่องวัด 79 จุด และรถโมบาย 4 แห่ง โดยมีการรายงานค่าฝุ่นเป็นรายเขต 50 เขต ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้เสนอให้พิจารณาว่าควรรายงานรวมทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ หรือรายเขตเช่นในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักที่ทำให้เกิดมลภาวะในกรุงเทพฯ มี 2 เหตุ คือจากเครื่องยนต์ดีเซล และการเผา หากเราสามารถควบคุม 2 ส่วนนี้ได้ ปัญหาฝุ่นในกรุงเทพมหานครก็จะลดน้อยลง กรณีรถสิบล้อเป็นเครื่องยนต์ดีเซล หากสามารถควบคุมได้ ปัญหาฝุ่นในพื้นที่ก็จะลดลงด้วย
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.prbangkok.com/th หรือโทร 0-2221-2141-69
หน่วยงานที่ตรวจสอบ สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร