จากที่มีคำแนะนำในเรื่องวิธีไอบีบหัวใจ ช่วยแก้ไขอาการเจ็บหน้าอก กระตุ้นระบบหมุนเวียนของโลหิต ให้จังหวะเต้นของหัวใจเป็นปกติ ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่าการไอไม่สามารถช่วยแก้ไขอาการเจ็บหน้าอกหรือใช้เพื่อบีบหัวใจและช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนของโลหิต และทดแทนการนวดหัวใจช่วยให้จังหวะเต้นของหัวใจเป็นปกติได้
วันนี้ (5 ก.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่าตามที่มีการบอกต่อคำแนะนำเกี่ยวกับประเด็นเรื่องวิธีไอบีบหัวใจ ช่วยแก้ไขอาการเจ็บหน้าอก กระตุ้นระบบหมุนเวียนของโลหิต ให้จังหวะเต้นของหัวใจเป็นปกติ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีคำแนะนำถึงวิธีช่วยเหลือตัวเอง เมื่ออยู่คนเดียวแล้วรู้สึกปวดอย่างรุนแรงขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน เริ่มที่หน้าอก สามารถช่วยตัวเองได้โดยไอแรงๆ และถี่ ๆ ก่อนไอให้หายใจเข้ายาวๆ ลึกๆ แบบเดียวกับเวลาจะขากเสมหะ การหายใจเข้าแรงๆ สลับขากเสมหะต้องทำอย่างต่อเนื่องทุกสองวินาทีจนกว่าจะมีคนมาช่วยหรือเมื่อรู้สึกว่าหัวใจเต้นเป็นปกตินั้น ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าการไอทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความดันในช่องอกมีผลให้ความดันโลหิตเพิ่มได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ไม่สามารถบีบนวดหัวใจ หรือทดแทนการนวดหัวใจ (CPR) ได้
อย่างไรก็ตาม การไอไม่สามารถช่วยแก้ไขอาการเจ็บหน้าอกหรือใช้เพื่อบีบหัวใจและช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนของโลหิต และทดแทนการนวดหัวใจช่วยให้จังหวะเต้นของหัวใจเป็นปกติได้ การสูดหายใจลึกๆ สลับขากเสมหะมีผลกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติพาราชิมพาเทติก parasympathetic (vagalstimulation) เป็นผลให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง และอาจช่วยรักษาภาวะหัวใจต้นเร็วผิดปกติที่เกิดจากบางสาเหตุได้ แต่ไม่สามารถนำมาใช้รักษาการเต้นผิดจังหวะชนิดร้ายแรงของหัวใจห้องล่างที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การไอไม่สามารถช่วยแก้ไขอาการเจ็บหน้าอกหรือใช้เพื่อบีบหัวใจและช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนของโลหิต และทดแทนการนวดหัวใจช่วยให้จังหวะเต้นของหัวใจเป็นปกติได้ การสูดหายใจลึกๆ สลับขากเสมหะก็ไม่สามารถนำมาใช้รักษาการเต้นผิดจังหวะชนิดร้ายแรงของหัวใจห้องล่างที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้
หน่วยงานที่ตรวจสอบ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข