จากกรณีเกี่ยวกับเรื่องเงินสินสอดจากงานแต่ง ต้องเสียภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าทรัพย์สิน ทางกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ชี้แจงว่ารัฐบาลไม่ได้มีการออกกฎหมายใหม่ให้กรมสรรพากรไปเก็บภาษีจากเงินสินสอดงานแต่งงาน ตามข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด
วันนี้ (27 ก.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่าตามที่ได้มีข้อมูลปรากฎในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องเงินสินสอดจากงานแต่ง ต้องเสียภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าทรัพย์สิน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีข้อมูลปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องจะต้องเสียภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับจากการให้โดยเสน่หาจากบุพการี ผู้สืบสันดาน หรือคู่สมรส ทางกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ได้ออกมาชี้แจงว่ารัฐบาลไม่ได้มีการออกกฎหมายใหม่ให้กรมสรรพากรไปเก็บภาษีจากเงินสินสอดงานแต่งงานตามข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด ตามมาตรา 42 แห่งประมวลรัษฎากร กฎกระทรวง ฉบับที่ 126 ข้อที่ 10 ระบุไว้ว่า เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา เงินได้ที่รับจากการรับมรดก หรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธี หรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี ได้รับการยกเว้นภาษี
ส่วนพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ฉบับที่ 40 พ.ศ. 2558 ได้ระบุไว้ว่า เงินที่ได้รับการยกเว้นภาษี ได้แก่
1. เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะหรือจากการให้โดยเสน่หาจาก บุพการี ผู้สืบสันดาน หรือคู่สมรส เฉพาะเงินได้ในส่วนที่ไม่เกิน 20 ล้านบาทตลอดปีภาษี
2. เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยาหรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี ทั้งนี้ จากบุคคลซึ่ง มิใช่บุพการี ผู้สืบสันดาน หรือคู่สมรส เฉพาะเงินได้ในส่วนที่ไม่เกิน 10 ล้านบาทตลอดปีภาษี
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมจากกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.rd.go.th หรือโทร. 02 2729529
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : รัฐบาลไม่ได้มีการออกกฎหมายใหม่ให้กรมสรรพากรไปเก็บภาษีจากเงินสินสอดงานแต่งงาน ตามข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด
หน่วยงานที่ตรวจสอบ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง