จากกรณีที่มีการแนะนำว่าถ่านสามารถรักษาโรคลัมปีสกินในวัวได้ ทางกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่พบข้อมูลว่าผงถ่านดังกล่าวมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย การใช้ถ่านในการทาบริเวณแผลในสัตว์ที่เป็นโรคลัมปีสกิน อาจเป็นเพียงการใช้สำหรับการดูดซับกลิ่นจากแผลที่ผิวหนัง ลดการตอมและการชอนไชของแมลงพาหะหรือบรรเทาอาการจากการอักเสบของแผลเท่านั้น
วันนี้ (27 มิ.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีข้อความปรากฎในสื่อออนไลน์ต่างๆ ในประเด็นเรื่องถ่านสามารถรักษาโรคลัมปีสกินในวัวได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีข้อความบนสื่อออนไลน์กล่าวว่าถ่านสามารถรักษาโรคลัมปีสกินในวัวได้ ทางกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่พบข้อมูลว่าผงถ่านดังกล่าวมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย และผงถ่านทั่วไปที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการเผาด้วยความร้อนสูง เพื่อให้ได้ผงอนุภาคเล็กที่มีรูพรุนเป็นผงถ่านชาร์โคลนั้น ยังไม่พบการรายงานการใช้ในการรักษาทางการแพทย์
การใช้ถ่านในการทาบริเวณแผลในสัตว์ที่เป็นโรคลัมปีสกิน อาจเป็นเพียงการใช้สำหรับการดูดซับกลิ่นจากแผลที่ผิวหนัง ลดการตอมและการชอนไชของแมลงพาหะหรือบรรเทาอาการจากการอักเสบของแผลเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากนำถ่านที่ไม่มีความสะอาดเพียงพอไปใช้ในการทาแผล อาจทำให้แผลเกิดการติดเชื้อลุกลามมากขึ้นหรือเกิดเป็นแผลเรื้อรังได้
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจาก กรมปศุสัตว์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.dld.go.th หรือโทร. 02 6534444
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยังไม่พบการรายงานการใช้ในการรักษาทางการแพทย์ ว่าผงถ่านดังกล่าวมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย
หน่วยงานที่ตรวจสอบ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์