xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปลอม! ผลิตภัณฑ์ D-Shine เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านแบคทีเรียและไวรัส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากกรณีที่มีการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ D-Shine เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านแบคทีเรียและไวรัส ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ขออนุญาตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในชื่อ ดี-ไชน์ (D-Shine ) ซึ่งในการยื่นขออนุญาตไม่มีการยื่นข้อมูลประสิทธิผลในการป้องกัน หรือต้านแบคทีเรียและไวรัส ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
วันนี้ (11 มิ.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับสุขภาพเรื่องผลิตภัณฑ์ D-Shine เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านแบคทีเรียและไวรัส ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีที่มีการโพสต์ขายสินค้าโดยระบุว่า ดี ไชน์ (D SHINE) สารสกัดกระชายขาวเข้มข้น เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน พร้อมต่อสู้กับแบคทีเรีย ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ขออนุญาตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในชื่อ ดี-ไชน์ (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) /D-Shine (Dietary Supplement Product) เลข อย. 10-1-15456-5-0045 ซึ่งในการยื่นขออนุญาตไม่มีการยื่นข้อมูลประสิทธิผลในการป้องกัน หรือต้านแบคทีเรียและไวรัส ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่มีผลในการบำบัด บรรเทา หรือรักษาโรคและต้องแสดงคำเตือนดังกล่าวบนฉลาก
อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมารับประทาน เพื่อหวังผลในการรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัส อาจเสียเงินเปล่า และเสียโอกาสในการรักษา ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย และการรักษาที่ถูกต้อง

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข https://www.fda.moph.go.th/Pages/HomeP_D2.aspx หรือโทร. 02-590-7000 ได้ในเวลาราชการ

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ไม่มีการยื่นข้อมูลประสิทธิผลในการป้องกัน หรือต้านแบคทีเรียและไวรัส ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด

หน่วยงานที่ตรวจสอบ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข


กำลังโหลดความคิดเห็น